CHAPTER 5
ตอนแรกกิตกำลังจะเดินเข้าไปกอดเธอตามความเคยชิน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาดื่มมาไม่น้อย เธอคงไม่ชอบกลิ่นเหล้าจากตัวเขา ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาจึงหยุดชะงักลง
“ที่รักยังไม่นอนอีกเหรอจ๊ะ”
นานานึกอยากย้อนถามเขาว่าถ้าเขาไม่กลับมาเธอจะนอนหลับได้อย่างไร แต่เมื่อมองสภาพสามีแล้วก็คิดว่าถึงจะพูดอะไรกันตอนนี้ก็คงคุยไม่รู้เรื่อง
“กิตไปอาบน้ำเถอะจะได้พักผ่อน เดี๋ยวนานาเตรียมชุดนอนไว้ให้”
เธอบอกเขาเสียงเรียบแล้วหันหลังเดินเข้าห้อง กิตนึกอยากจะรั้งเธอไว้แล้วพูดแก้ตัวอะไรสักหน่อยที่เขาไปดื่มกับที่ทำงานจนกลับบ้านดึกดื่น แต่เมื่อเธอไม่ถาม ไม่ต่อว่าเขาจึงไม่รู้จะพูดอะไร สุดท้ายจึงได้แต่วางกระเป๋าลงแล้วเดินคอตกไปเข้าห้องน้ำ
ภรรยาดูแลเอาใจใส่เขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำก็พบว่าเธอเปิดน้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะเตรียมไว้ให้แล้ว กิตลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำ หลังจากได้ชำระล้างร่างกายแล้ว ความมึนงงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จึงค่อยลดลง
เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่ามี ชุดนอน ที่ภรรยาของเขาเตรียมไว้ให้วางรออยู่ด้านนอก กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก หลังแต่งตัวเสร็จกิตเดินไปที่ครัวเพื่อจะดื่มน้ำเปล่า แต่กลับพบอาหารที่เธอทำไว้ให้วางไว้ที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มรู้สึกผิดต่อภรรยาที่เขากลับบ้านดึกทุกวัน วันนี้ยังเมากลับมาอีก แม้จะอิ่มมื้อค่ำมาจากข้างนอกแล้ว แต่กิตก็ยังคงนั่งลงที่โต๊ะ ตักข้าวสวยในหม้อหุงข้าวแล้วกลับมานั่งทานอาหารง่าย ๆ ที่เธอทำไว้ให้
เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจานอาหารด้วยซ้ำเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากหน้าประตู จนกระทั่งเธอเดินมาถึงหน้าโต๊ะที่เขากินข้าวอยู่ เขาก็ยังคงก้มหน้าก้มตากินเหมือนอาหารตรงหน้าอร่อยนักหนา
“ไม่ได้ทานข้าวเย็นมาเหรอคะ” เสียงหวานถามสามีด้วยความประหลาดใจ ลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาลงนั่ง ความจริงเขาไปดื่มมาก็น่าจะได้กินข้าวมาแล้ว หรือเขาไปดื่มมาแบบที่อาหารไม่ตกถึงท้องเลยหรือไง
“กินมาแล้ว แต่อยากกินอีก” เขาบอกโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยซ้ำ
“อาหารข้างนอกไม่อร่อยเหรอคะ”
กิตจิบน้ำแล้วจึงเงยหน้าขึ้นสบตา ส่งรอยยิ้มอบอุ่นที่เธอคุ้นเคยให้
“อร่อย แต่อาหารฝีมือที่รักอร่อยกว่า”
กิตนึกว่าจะได้รับรอยยิ้มจากเธอเมื่อเขาพูดแบบนั้น แต่คนตรงหน้ายังคงนิ่งมองมาที่เขา แววตาเธอเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ
“นานามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ” กิตถามภรรยา เธอมีท่าทางลังเล สีหน้ากังวลที่จะเล่า
ชายหนุ่มวางช้อนส้อมลง วางมือทั้งสองข้างใต้คาง รอฟังเธอพูดอย่างตั้งใจ เห็นท่าทางของเธอเป็นแบบนี้เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
“คือ…วันนี้นานาพาลูกไปซื้อของเข้าบ้าน”
ออ เรื่องนี้เอง มือที่ท้าวคางอยู่เอื้อมไปจับมือเรียวสีน้ำผึ้งของภรรยาไว้
“นานาคงเหนื่อยมาก อดทนอีกนิดนะครับ” เขาอยากให้ภรรยาและลูกมีชีวิตสุขสบาย ไม่อยากให้เธอเสียใจที่เลือกแต่งงานกับผู้ชายธรรมดาอย่างเขา อีกไม่กี่ปีนีราก็จะเข้าโรงเรียนกิตจึงยิ่งต้องทำงานหาเงินให้มากขึ้น จนบางครั้งเขาก็รู้ตัวว่าเขาไม่มีเวลาให้ลูกและภรรยาเลย
“ลูกเราไปทำไอศกรีมหกใส่ชุดผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเธอไม่พอใจ…”
คราวนี้กิตขมวดคิ้วมุ่น คนแบบไหนกันที่โกรธแม้กระทั่งเด็กสามขวบที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“ความจริงนานาก็ผิดเองไม่ได้ดูแลลูกของเราให้ดี” ขณะพูดน้ำเสียงของเธอก็สั่นขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเจ้าตัวพยายามกักเก็บความเสียใจไว้ ไม่อยากอ่อนแอให้เขาได้เห็น แค่สามีทำงานหนักทุกวันนี้ เขาก็เหนื่อยมากพอแล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นต่อว่าลูกของเราเหรอครับ” กิตถามอย่างใจเย็น
นานาพยักหน้า “เธอขอให้นานาชดใช้โดยการซื้อชุดให้ใหม่”
กิตมองภรรยาเขาที่ก้มหน้าขณะพูด แล้วก็ทอดถอนใจ ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วเดินไปหาภรรยาโอบมือไปกอดเธอไว้จากด้านหลัง
“แล้วที่รักทำไงครับ”
นานาต้องแหงนคอจนหน้าตั้งเพื่อคุยกับเขา แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันน้ำตาที่มาเอ่อคลอที่หน่วยตาจะได้ไม่ไหลลงมา
“นานาก็ชดใช้ แต่...ชุดนั้นราคาเป็นหมื่นเชียว”
โธ่! นี่เองสาเหตุที่สุดที่รักของเขานั่งทำหน้าอมทุกข์อยู่แบบนี้ นานาเป็นคนประหยัด เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาหามาเธอจะคิดแล้วคิดอีก คำนวณแล้วคำนวณอีกกว่าจะใช้เงินซื้ออะไรสักอย่าง เพราะเธอเป็นแบบนี้เขาจึงไว้วางใจให้เธอเป็นคนบริหารเงินในครอบครัว
“ช่างมันเถอะนานาเรื่องแค่นี้เอง”
ยิ่งสามีเธอใจดีขนาดนี้ นานาก็ยิ่งรู้สึกผิด เธอหมุนตัวซบหน้าลงกับหน้าท้องเขาที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอ
“ต่อไปนานาจะดูแลลูกเราให้ดี ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
กิตไม่ได้ต่อว่าเธอเขาเพียงลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบใจ
“มันเป็นอุบัติเหตุครับ นานาอย่าคิดมากเลย” และถ้าจะพูดตามจริง กิตคิดว่าเขาเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันที่ไม่มีเวลาให้เธอกับลูกเลย เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวพาลูกแสนซนของเขาไปซื้อของในห้างเจ้าตัวยุ่งจะก่อเรื่องให้แม่ปวดหัว
“กิตขอโทษนะ ต่อไปกิตจะหาเวลาให้นานากับลูกมากขึ้นนะครับ”
ใบหน้าเล็กที่ซบอยู่กับหน้าท้องแกร่งของเขาส่ายหน้าจนผมกระจาย สามีเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย แต่เขาก็เป็นแบบนี้จนเธอชินเสียแล้ว เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หรือแม้แต่โกรธกัน งอนกันด้วยเรื่องเล็กน้อย เขาจะเป็นฝ่ายขอโทษเธอก่อน ขนาดแม่เธอยังเคยบอกว่าลูกเขยตามใจลูกสาวจนเสียนิสัย
“กิตไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย”
ชายหนุ่มจับใบหน้าเล็กที่ซุกซบบริเวณหน้าท้องเขาให้เงยหน้าสบตากัน
“ผิดสิ กิตไม่มีเวลาให้นานากับลูกเลย”
ดวงตากลมโตของเธอมองสบตาเขาตาปริบ ๆ กิตรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากจริง ๆ ที่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นภรรยา เธออ่อนหวานและเข้าอกเข้าใจเขา ขนาดเขาทำงานจนไม่มีเวลาให้เธอก็ยังไม่เคยเอ่ยปากต่อว่าเลยสักครั้ง ชีวิตครอบครัวของพวกเขาจึงมีแต่ความราบรื่น
“นานาโชคดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับกิต”
แม่เธอเคยพูดว่าชาติที่แล้วเธอคงทำบุญมาดี ถึงได้กิตมาเป็นสามี นานาเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ตอนนี้เธอยังรู้สึกเสียใจที่เคยแอบงอนที่เขากลับบ้านดึกดื่น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงงี่เง่าที่ไม่เข้าใจสามีอย่างไรไม่รู้ ในขณะที่เขากลับเข้าใจเธอและไม่เคยคิดต่อว่าเธอเลยสักครั้ง
“กิตต่างหากที่โชคดีที่มีนานาเป็นภรรยา”
หลังจากพูดจบกิตก็ก้มหน้าลงหาจรดริมฝีปากหยักเข้าหาริมฝีปากบางของคนที่หลับตาพริ้มรอรับสัมผัสจากเขา