ไม่รักก็ไม่ว่าอะไร

80.0K · ยังไม่จบ
กัญจารีย์
61
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โอ้ยจะบ้าตาย! หาเมียภายในสองเดือนเนี่ยนะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆใครจะไปหาทันว้า

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันคนธรรมดานักศึกษาการแต่งงานโรแมนติก

ตอนที่ 1 หาเมีย

สองพ่อลูกยังคงถกเถียงกันอยู่กลางห้องโถงกว้างของบ้าน การหาเมียดีๆสักคนแถมเป็นหม้ายตอนอายุย่างเข้าวัยสี่สิบใครว่ามันหากันได้ง่ายๆ ยิ่งสมัยนี้ดูกันแค่หน้าตาอย่างเดียวก็ไม่ได้อีกเพราะคนสวยหล่อมีเกลื่อนไปหมด

ครอบครัวอื่นถ้าอายุปูนนี้แล้วก็คงจะปล่อยผ่าน แต่กับบ้านรัตนโสภาคงไม่ยอมให้หลานชายคนโตของตระกูลอยู่คนเดียวไปจนวันตายเป็นแน่

“เมื่อไหร่คุณพ่อจะเลิกยุ่งกับการหาเมียให้ผมซะที ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่มีวันแต่งงานอีกเป็นอันขาด” อิทธิพัทธ์ขึ้นเสียงกับผู้เป็นพ่อหลายต่อหลายครั้งที่ทะเลาะกับลูกชายเรื่องนี้แต่อรรถก็ยังไม่ละความพยายาม

แค่ทุกวันนี้อิทธิพัทธ์ทำงานอย่างเดียวก็หัวหมุนมากพออยู่แล้ว แล้วยังจะให้เขาหาเหาเข้ามาใส่หัวอีก ทุกวันนี้อย่าถามหาความสุขเพราะเขาไม่ได้สนใจ วันๆทำแต่งาน ข้าวก็กินไม่ค่อยตรงเวลา กลับบ้านก็ทำงานต่อจนดึกดื่นค่อยเข้านอนจนติดเป็นนิสัย เขาไม่ใช่วัยรุ่นที่จะต้องมานั่งสรรหาผู้หญิงหรือคู่นอนเหมือนสมัยตอนเป็นหนุ่มเสียเมื่อไหร่เพราะหลังจากแต่งงานกับขวัญตาตอนอายุสามสิบสามเขาก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย

มาถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยคิดจะเอาใครมาแทนที่ภรรยาของเขาอีกหลังจากที่ภรรยาได้เดินออกไปจากชีวิตของเขาเมื่อสามปีก่อน แต่พ่อกับย่าของเขาก็ยังจะบังคับให้เขาแต่งงานอีกให้ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาอายุมากแล้วกลัวไม่มีคนคอยดูแลยามแก่เฒ่า เพราะตอนที่เขาแต่งงานกับขวัญตานั้นเธอเป็นหมันเลยทำให้อรรถยังไม่มีหลานมาวิ่งเล่นในบ้านใหญ่จนถึงทุกวันนี้ ลำพังจะพึ่งพาน้องชายและน้องสาวต่างมารดาทั้งสองคนนั้นก็เห็นจะต้องรออีกหลายปีเพราะยังเรียนไม่จบกันทั้งคู่ ครั้นจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยตามใจลูกชายไปอีกก็เกรงว่าจะเลยวัยที่มีบุตรได้

“แกจะสี่สิบอยู่แล้วนะอิท ถ้าไม่อยากให้พ่อยุ่งเรื่องของแก แกก็รอตอบคำถามคุณย่าเองก็แล้วกัน พ่อก็เบื่อที่จะคุยกับแกแล้วเหมือนกัน ถ้าแกไม่รีบหาเองก็เตรียมตัวรอคุณย่าหาผู้หญิงใส่พานมาให้แกได้เลย” อรรถไม่ได้ขู่แต่บงกชผู้เป็นย่าทำจริงเพราะคนที่อยากให้หลานชายแต่งงานมากที่สุดก็คือคุณย่าของบ้านนี้

ไปกันใหญ่เลยทีนี้ ไม่ใช่ผักใช่ปลาจะให้หาได้ภายในวันสองวัน อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือไม่ก็เป็นปีจะให้เอาใครมาสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ใช่เรื่อง อนาคตจะอยู่กันอย่างไร ดูอย่างเขากับขวัญตายังดูใจกันมาสิบกว่าปีกว่าจะตัดสินใจแต่งงานลงหลักปักฐานกันแต่สุดท้ายก็ยังไปกันไม่รอด

“มันไม่ได้หากันง่ายๆนะครับคุณพ่อ คุณย่าจะบีบบังคับผมไปถึงไหน” ใบหน้าแสดงถึงความไม่สบอารมณ์ คิ้วเข้มยิ่งขมวดเข้าหากันจนเกือบจะชิด

กะว่าวันนี้จะเข้ามารอทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคนที่บ้านใหญ่กลับต้องมานั่งทะเลาะกับพ่อตัวเองก่อนเวลากินข้าวอีก

“คุณย่าแก่มากแล้วนะอิท คงอยากเห็นหน้าเหลนสักคน” คนที่ถูกกล่าวถึงตอนนี้ไปเสวนาบ้านเพื่อนเพื่อหาหลานสะใภ้มาให้หลานชายคนโตของบ้าน

อิทธิพัทธ์จนใจที่จะอธิบายถึงพูดไปอย่างไรก็คงไม่มีใครเข้าใจเขาอยู่ดี ไม่มีใครรู้หรอกว่าการที่เขาอยู่คนเดียวมาตั้งหลายปีแล้วจะเอาอีกคนมาเป็นภาระมันลำบากและน่ารำคาญสำหรับเขามากแค่ไหน

“วันนี้ผมไม่มีอารมณ์แล้วครับพ่อ ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ เดี๋ยววันหลังผมจะมาใหม่” อิทธิพัทธ์ยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อก่อนจะเดินออกมาอย่างซังกะตาย อรรถได้แต่พ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ จำความได้ก็น่าจะเกือบปีที่เขากับบงกชพยายามหาผู้หญิงมาให้เพื่อแต่งงานกับลูกชายแต่อิทธิพัทธ์ก็ไม่ถูกใจใครสักคน ถึงตอนนี้น่าจะต้องบังคับชอบไม่ชอบก็ต้องยอมแต่ง จะได้จบๆกันไป

อิทธิพัทธ์ขับรถออกมาแววตามีความกังวล ทุกวันนี้ในใจเขามีแต่ขวัญตาเท่านั้นจะหาผู้หญิงคนไหนมาเป็นผู้โชคร้ายคนนั้นล่ะ แต่งกันไปก็คงอยู่กันได้ไม่ยืดหรือไม่ก็ไม่มีความสุข จะให้เขาไปดูแลเอาใจใส่ใครคงจะไม่ได้อย่างแน่นอน แบบนี้ก็สู้ไม่แต่งซะดีกว่า

“ตาอิทยังไม่เข้ามาอีกเหรออรรถ” บงกชเอ่ยถามลูกชาย เพราะวันนี้หลานชายนัดว่าจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วย นานๆหลานชายจะมีเวลาปลีกตัวมาเสียที ตั้งแต่ออกเรือนไปก็ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมบ้านใหญ่สักที

“กลับไปแล้วครับคุณแม่” บงกชมองหน้าลูกชายตาขวางแล้วนั่งลงตรงหัวโต๊ะที่มีอาหารจัดวางอยู่เต็มโต๊ะ

“ไปพูดอะไรไม่เข้าหูหลานฉันอีกล่ะ” บงกชตำหนิลูกชายตัวเอง เพราะหลานชายคนนี้ความจริงแล้วใครก็แตะไม่ค่อยได้แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้าเอง หวงยังกับไข่ในหิน ตั้งแต่มารดาของเขาจากไปตั้งแต่เด็กก็มีย่านี่แหละที่คอยดูแลเอาใจใส่เขามาตลอด

“เรื่องเดิมแหละครับคุณแม่ ไม่อยากแต่งงาน” อรรถทำท่าทางเหนื่อยใจ

วิมลกับปารเมศนั่งฟังอยู่แบบเงียบๆไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไร เพราะในบ้านนี้ทุกคนก็ช่วยกันหาคนที่จะมาเป็นหลานสะใภ้คนโตกันทุกคน แต่ปลูกเรือนก็ต้องตามใจผู้อยู่ ถ้าอิทธิพัทธ์ไม่เอาเสียอย่างใครจะไปบังคับได้ อีกอย่างทุกคนกลัวว่าพอมาอยู่แล้วจะอยู่ไม่ทน

“เฮ้อ แม่ก็หาไม่ได้เหมือนกัน วัยเดียวกันเขาก็มีลูกสองลูกสามกันไปหมดแล้ว ที่จริงแม่ก็ไม่อยากบังคับตาอิทหรอกนะแต่แม่ก็อดห่วงหลานรักของแม่ไม่ได้ แก่มาจะอยู่กับใคร อย่างน้อยมันต้องมีลูกมีเมียไว้คุยแก้เหงาบ้าง” บงกชพูดออกมาแววตามีความเป็นห่วงหลานชายมาก