บทที่ 27
เธอหยิบโทรศัพท์และพิมพ์ชื่อกับนามสกุลของเขาลงไปเพื่อหาข้อมูลยืนยันในสิ่งที่เพิ่งรู้ ปรากฏว่าไม่มีข่าวเรื่องอุบัติเหตุ ข่าวใหม่คือข่าวกอสซิปที่คาดว่าคงเป็นภาพเขากับเธอ ส่วนข่าวเก่ามีเพียงเรื่องที่บิดาของเขากลับมารับช่วงบริหารแทนชั่วคราว ก่อนยกตำแหน่งประธานบริษัทให้กับลูกชายคนเล็กในภายหลัง
“คงปิดข่าวกันแหละ ไม่มีใครหายไปเฉย ๆ หรอก”
ภัควรินทร์บอกตัวเอง ก่อนกดอ่านข่าวกอสซิปที่ข้ามไปก่อนหน้า การได้เห็นภาพตัวเองอยู่ข้าง ๆ เขานั้นให้ความรู้สึกดีไม่น้อย เธอจึงเข้าไปดูอยู่บ่อยครั้ง ทว่าคราวนี้คนที่อยู่ในข่าวกลับเป็นนางแบบชื่อดัง ดูจากที่เจ้าตัวแทบจะนั่งตักธีรักษ์แล้ว ความสนิทสนมคงมีมากกว่าเธอหลายเท่าเลยทีเดียว
“น้ำหวาน คุณทำมื้อเช้าเสร็จหรือยัง?”
“ใกล้…ใกล้เสร็จแล้วค่ะ!”
ภัควรินทร์ตอบเสียงดัง หัวใจเต้นรัวเพราะถูกความรู้สึกประหลาดโจมตี ไม่แน่ใจว่าแค่หึงหวงหรือกลัวว่าจะสูญเสียคนคนเดียวที่มีทีท่าว่าห่วงใยกัน แต่เขาบอกว่าเธอสำคัญถึงขั้นต้องการพบคุณย่าแจ่มจันทร์ แล้วทำไมถึงออกไปนัวเนียคนอื่น หรือว่าผู้หญิงคนนั้นก็สำคัญกับเขาด้วยอีกคน
ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ทำให้ภัควรินทร์ควบคุมตัวเองได้ไม่ดีอย่างที่เคย ดวงตาเหม่อลอยหาคำตอบทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีอะไรคู่ควรกับเขา ธีรักษ์คือหนุ่มโสดที่สังคมกำลังให้ความสนใจหลังจากหายตัวไปนาน ส่วนเธอมีเพียงนามสกุลเก่าแก่ต่อท้ายชื่อ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว ไร้ตัวตนในสังคมโดยสิ้นเชิง
“น้ำหวาน! ไข่ไหม้หมดแล้ว!”
“ว้าย!” ภัควรินทร์หวีดร้องเสียงดัง ปล่อยตะหลิวไม้ในมือร่วงลงพื้น แต่ก่อนที่จะตั้งสติหยิบจับอะไรได้ทัน คนตัวใหญ่กว่ามากก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ เหลือเพียงกลิ่นไหม้ที่ยังตกค้างอยู่ เธอจึงเปิดหน้าต่างเพื่อช่วยระบายกลิ่นออก
“หนูเป็นอะไรหรือเปล่า! เจ็บตรงไหนไหม!”
ธีรักษ์ได้กลิ่นไหม้จึงรีบออกจากห้องทั้งที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย เขาเห็นเธอยืนมองไข่ที่กำลังไหม้อย่างจดจ่อ แต่กลับไม่ทำอะไรกับมัน จนเขาตะโกนนั่นแหละถึงได้รู้ตัว
“ทำไมถึงยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้กลิ่นไหม้หรือว่าไม่สบาย?”
“หนู…หนู…น้ำหวานกำลังใช้ความคิดอยู่ค่ะ เลยไม่ทันระวัง เดี๋ยวน้ำหวานรีบทำอาหารให้คุณใหม่นะคะ”
ภัควรินทร์ตอบตะกุกตะกัก มือไม้พันกันวุ่นวายไปหมดเมื่อเห็นเขาแสดงความห่วงใยอย่างที่เคย ดวงตาสีเข้มจ้องมองมาเพื่อขอคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอจะเอาสิทธิ์อะไรไปพูดหรือถามว่าทำไมเขาถึงได้ใกล้ชิดกับคนอื่น หรือทำไมถึงมีแค่เธอคนเดียวไม่ได้
เธอไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น…ที่อยู่ด้วยกันก็เพราะเรื่องหนี้สินล้วน ๆ
“น้ำหวาน…บอกผมได้ไหมว่าหนูคิดอะไรอยู่”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้ำหวานแค่นอนน้อยแล้วก็กังวลเรื่องคุณย่า ถ้าท่านกลับจากไหว้พระที่ต่างประเทศแล้วเห็นข่าวขึ้นมา น้ำหวานคงถูกตีอีกแน่ ๆ”
“ท่านไม่ตีหรอก ในข่าวก็บอกนี่นาว่าหนูเป็นแค่ผู้ช่วย เอางี้นะ ถ้าท่านเรียกกลับบ้านละก็ให้บอกผมทันที ผมจะไปพบท่านแล้วอธิบายทุกอย่างเอง”
ธีรักษ์มั่นใจว่าเธอไม่ได้กังวลเรื่องคุณหญิงแจ่มจันทร์เพราะเคยคุยกันเข้าใจแล้ว แต่จะเป็นเรื่องอะไรเขาคงต้องสอบถามหลังจากเสร็จธุระในภายหลัง
“งั้นวันนี้หนูพักอยู่ที่บ้านเถอะนะ ของพวกนี้ก็ไม่ต้องเก็บหรอก ค่อยให้แม่บ้านจัดการทีหลัง” เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอยังรู้สึกแย่ จึงรีบให้คำสัญญาที่คิดว่าจะทำให้เธอสบายใจ
“เดี๋ยวผมจะไปที่บริษัทกับน้าไกรแทน ช่วงบ่ายแก่ ๆ ธุระเสร็จแล้วผมจะรีบกลับมาหาหนูนะครับ” ธีรักษ์ตัดสินใจเช่นนั้นเพราะต้องการให้คนสวยของเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ กอปรกับมีเรื่องหลายอย่างให้ต้องจัดการ
เจ้าน้องชายตัวดีทะเลาะกับคนรักรุนแรงและกลับไปนอนบ้านใหญ่ได้เกือบสัปดาห์แล้ว แล้วเขาที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับแรกจะนิ่งเฉยได้อย่างไร
ไว้เสร็จธุระค่อยมาเคลียร์ปัญหาหัวใจอีกทีแล้วกัน
