บทที่ 1 ไฟแฝงรัก
ข่าวดังตีพิมพ์วางขายทั่วประเทศขายดิบขายดีจนร้านค้าน้อยใหญ่ต้องสั่งเพิ่มยอดอีกเกือบสองเท่าตัว โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์บันเทิงทั้งละครภาพยตร์หรือแฟชั่นที่ต้องสั่งพิมพ์เพิ่มอีกเกือบสามเท่าตัวเพราะร้านขายส่งและยี่ปั๊วโทรสั่งพิมพ์เพิ่มกันระรัวทำให้วงการสิ่งพิมพ์ที่กำลังซบเซามีเงินเดินสะพัดมากสุดในรอบปี
โดยเนื้อหาข่าวเขียนออกมาในด้านลบเกือบทั้งสิ้น ที่เป็นความจริงมีเพียงแต่ผู้เป็นข่าวกับเรื่องราวเกี่ยวพันกับเทียร่าโมเดลลิ่งไม่มีข้อมูลบิดเบือนส่วนที่เป็นกลางๆหรือเขียนในด้านบวกแทบจะไม่มีเลย เพราะต่างเข้าใจไปในทางเดียวกันว่าการเขียนข่าวแบบนี้จะทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดแบบหยุดไม่อยู่จากคำสั่งเร่งด่วนของฝ่ายการตลาดที่ต้องการทำให้หนังสือพิมพ์ของตนขายดิบขายดีโดยไม่สนใจว่าคนตกเป็นข่าวจะเป็นอย่างไร
...ดราม่า...นางร้ายคนดังร้ายนอกจอชี้หน้าด่าสื่อ
หากดคีย์เขียนเรื่องตอแหลราวกับนอนเฝ้าใต้เตียง
แต่เป็นเตียงเมียน้อยผัวตัวเอง เอามาสร้างเรื่องฉาวของคนอื่น
เจ้าแม่ข่าวเม้าท์เจ้าของคอลัมน์เม้าท์แซ่บบันเทิง
ที่คนทั้งวงการข่าวคาดว่าเป็นจำเลยคนสำคัญ
ถึงกับเต้นผางประกาศจะถีบกระเด็นพ้นวงการ
ข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์บันเทิงทุกฉบับต่างพร้อมใจกันพุ่งเป้ามาที่คัทลีนนางร้ายคนดังเจ้าของตำแหน่งนักแสดงดีเด่นดาวรุ่งขวัญใจมหาชนคนใหม่เพียงผู้เดียว โดยมีรายละเอียดของเนื้อข่าวคล้ายๆกัน
...นักแสดงนางแบบสาวเจ้าของรางวัลนักแสดงดีเด่นดาวรุ่งขวัญใจมหาชนโมโหจัดกระชากไมค์กระแทกปากนักข่าวคอลัมน์เม้าท์แซ่บบันเทิงที่คอยตามจี้ถามกับเรื่องสัมพันธ์ลับอื้อฉาวยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้รางวัลจากเจ้าของหนังสือพิมพ์ทีวีบันเทิงชื่อดังหลายครั้ง...
...แถมท้ายสวมบทนางร้ายนอกจอชี้หน้าด่ากราดสื่อมวลชนบันเทิงว่า...หากินกับการเขียนข่าวหลอกลวง...ไร้จิตสำนึกดี ไร้ศีลธรรม ไร้จรรยาบรรณ...ดีแต่นั่งมโนกดคีย์เขียนเรื่องโกหก เรื่องไร้สาระ เรื่องไม่สร้างสรรค์...ฯลฯ ...ทำให้วงการบันเทิงเสื่อมคุณค่าเสื่อมเกียรติและผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิงได้รับความเสียหาย...
หนังสือพิมพ์ฉบับสุดท้ายหล่นจากมือที่ไร้เรี่ยวแรงของคัทลีนตกลงแทบเท้าซีต้าหรือสิทธาเจ้าของโมเดลลิ่งเทียร่ากรุ๊ปที่คัทลีนอยู่ในสังกัดมานานเกือบสี่ปี ผู้นั่งกุมขมับกับเรื่องข้อพิพาทของคัทลีนกับนักข่าวบันเทิงที่ลามเป็นไฟไหม้ทุ่งในวันเดียว โดยไม่มีโอกาสแก้ข่าวใดๆ
“หมด หมดกัน นักข่าวคอลัมน์บันเทิงหนังสือพิมพ์รายวันที่เราขอนัดให้มาสัมภาษณ์บอกไม่ว่างสักราย แค่ถูกปฏิเสธจากนักข่าวยังไม่เท่าไร รู้ไหมว่าตอนนี้เจ้าของโฆษณาที่ติดต่อไว้รายเล็กรายใหญ่ขอยกเลิกงานกันหมด ที่ทำสัญญาแล้วก็แจ้งขอเลื่อนไม่มีกำหนด แถมผู้จัดละครมาขอเปลี่ยนตัวอีก ตอนนี้หล่อนแทบไม่เหลืองานเลยนะยะ”
คัทลีนสำนึกได้ตั้งแต่แรกที่ความโกรธคลายลงว่าต้องมีผลเสียหรือผลกระทบตามมามากมาย นอกจากจะเป็นผลเสียแก่ตัวเองแล้วยังต้องกระทบไปถึงบริษัทต้นสังกัดอีกด้วย และด้วยความสำนึกผิดคัทลีนเลื่อนตัวลงจากเก้าอี้ พนมมือก้มกราบบนตักของผู้ที่นับถือเสมือนญาติ
“ลีนขอโทษค่ะ ที่ทำให้บอสกับบริษัทเสียหาย”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ถูกนิ้วชี้เรียวยาวทาเล็บสีม่วงแดงที่สวมแหวนพลอยโกเมนเม็ดเป้งจิ้มลงกลางหน้าผากพร้อมปากที่ศัลยกรรมให้อิ่มสวยเป็นรูปกระจับขยับเปล่งเสียงกึ่งหวานกึ่งห้าวสาดคำต่อว่าต่อขาน
“ย่ะ...เสียหายทั้งชื่อ เสียหายทั้งรายได้เชียวละ เงินนับล้านต้องปลิวหายไปในพริบตาด้วยพายุลมปากจากแรงโกรธของหล่อนนั่นแหละ”
จริตจะก้านเกินอิสตรีในท่าค้อนควักท่าสะบัดหน้าพรืดที่เห็นประจำทำให้คัทลีนยิ้มออก โอบแขนรอบเข่าที่เจ้าตัวชอบนั่งไขว่ห้างแล้ววางหน้าซบอย่างประจบเอาใจ
“บอสอย่าโกรธเลยนะคะ ตอนนั้นมันเลือดขึ้นหน้า ปัญญายั้งคิดหดหายหมด ก็พวกเขาเล่นตามจิกถามจะให้ลีนยอมรับเรื่องไม่จริงที่พวกเขากุขึ้นลูกเดียว ลีนก็เลยสติแตก”
“แล้วหม้อข้าวหล่อนก็แตกด้วยย่ะ ตอนนี้บริษัทบอสไม่มีงานให้หล่อนเลยนะ”
“ไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทำงานมาสามสี่ปีลีนก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ที่ลงทุนกับอาทิพย์ทำฟาร์มสเตย์รับนักท่องเที่ยวอีกเดือนเดียวก็เปิดกิจการได้แล้ว หากไม่มีงานทางนี้ลีนคงต้องขอบอสกลับไปช่วยงานทางบ้าน ลีนเองก็เริ่มเบื่อแล้วค่ะ มีแต่เรื่องร้อนใจไม่หยุดเลย”
“เบื่อ...หล่อนพูดได้ไงยะ” ซีต้าจับใบหน้าสวยคมแปลกตาขึ้นจ้องสบก่อนจะผลักเบาๆด้วยความรู้สึกทั้งเอ็นดูทั้งหมั่นไส้ แล้วว่าต่อ
“ใครเขาก็อยากเข้ามากอบโกยเงินในวงการนี้กันทั้งนั้น ขนาดลงทุนศัลย์หน้าศัลย์นม บางคนศัลย์มันแทบทั้งตัวก็เพราะอยากทำอาชีพนี้ หล่อนรู้ไหมกว่าบอสจะหาที่มีรูปสมบัติเต็มเนื้อเต็มตัวอย่างหล่อนได้สักคนก็ยากเหลือแสน และกว่าจะสร้างจะดันให้ดังขนาดนี้ก็ยากลำบากยิ่งกว่า จะเบื่อจะท้อไม่ได้นะ เข้าใจไหม”
แม้ซีต้าหรือสิทธาจะไม่เคยใช้ถ้อยคำหวานหูมากนัก คัทลีนก็รู้แก่ใจว่าเป็นความหวังดีที่อีกฝ่ายมีให้มาตลอด และสำนึกอยู่เสมอว่าที่ตนเองได้มายืนอยู่จุดนี้เพราะความหวังดีของซีต้า แม้จะมีผลประโยชน์แฝงอยู่ก็คิดว่าเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ หากทว่าสิ่งแวดล้อมกลับทำให้คัทลีนอ่อนล้าเบื่อหน่ายมากขึ้นทุกวัน
“ถ้าช่วงนี้ลีนไม่มีงาน ขอกลับไปอยู่บ้านสักพักนะคะ”
“บ้านไหน?...ที่ต่างจังหวัดน่ะหรือ พ่อแม่ก็ไม่มี จะไปอยู่ทำไม” ซีต้ารู้ว่าคัทลีนอยู่กับญาติที่จังหวัดเดียวกับเขา แต่มองไม่เห็นทางว่าญาติที่เคยเลี้ยงดูคัทลีนจะช่วยเหลือไรได้เพราะทุกวันนี้คัทลีนก็ใช้เงินจากน้ำพักน้ำแรงเลี้ยงตัวเองและส่งเสียให้ญาติอยู่แล้ว