ตอนที่15.เจ้าสาวสวมรอย/2
ความนุ่มละมุนชวนให้คนที่แตะต้องรู้สึกทนไม่ไหว บดเคล้าริมฝีปากลงไปด้วยความเสน่หา นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้จูบเธอในคืนนั้น อัคคีรู้สึกติดใจรสสัมผัสแสนหวานมาตลอด ความพยศของเธอทำให้เขาอยากปราบเธอให้ยอมศิโรราบ เขายอมแต่งงานตามที่มารดาต้องการ สิ่งนี้สร้างความแปลกใจให้กับบิดามารดาของเขามาก อัคคีรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำมีสาเหตุมาจากผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว เจ้าหล่อนคือผู้หญิงที่ทำให้เขายอมทิ้งความโสดที่รักษามานานงานแต่งงาน ถูกกำหนดขึ้นตามความต้องการของเขาอย่างรวดเร็ว ฝ่ายหญิงในฐานะลูกหนี้ไม่มีสิทธิคัดค้าน อัคคียังเมตตาหญิงสาวอยู่ไม่น้อยจึงจัดของหมั้นและสินสอดจำนวนหนึ่งมอบให้ฝ่ายหญิง ไม่นับรวมกับหนี้สินที่ทางครอบครัวของเธอติดค้างกับครอบครัวของเขาเอาไว้ ชายหนุ่ม มั่นใจว่า หลังจากที่เธอแต่งงานกับเขาแล้ว เธอ จะละพยศ และยอมตกอยู่ใน ความดูแลของเขาอย่างดี วันนี้ เขาได้พบเธอ และอยากจะพูดคุยกับเธอสักคำสองคำ แต่เจ้าหล่อนกลับนอนหลับนิ่ง ขี้เซาชวนให้กลั่นแกล้งเป็นที่สุด
ริมฝีปากของชายหนุ่ม เคลื่อนไปบนเรียวปากงามนั้นยังดูดดื่ม อารมณ์ระอุร้อนในกาย ทำให้เขาหลงลืมตัว ในนาทีแรกต้องการเพียงกลั่นแกล้งเธอให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเท่านั้น แต่เมื่อได้สัมผัสแล้ว ความหอมหวานนั้นราวกับเกสรของดอกไม้ ยั่วเย้าให้ภมรหนุ่มเคลิบเคลิ้มกับรสหวาน จนเผลอเพลินดื่มกินวนเวียนจุมพิตดื่มด่ำกับรสชาติแสนเสน่หานั้นอย่างลืมตัว
ในขณะเดียวกันนั้น หญิงสาว ก็ค่อยฟื้นจากฤทธิ์ยานอนหลับรับรู้ถึงสัมผัสเร่าร้อนบนริมฝีปากของตัวเอง ดวงตาคู่สวยลืมขึ้น มองเห็นใบหน้าของผู้ชายอยู่ชิดกับใบหน้าของเธอ ก่อนที่จะรู้ตัวว่ากำลังถูกใครบางคนจูบอยู่ จึงยกมือขึ้นผลักเขาออกห่างอย่างตกใจ แล้วฟาดฝ่ามือตบหน้าอีกฝ่ายสุดแรงพร้อมกับยกเท้าถีบคนตัวโตไปเต็มฝ่าเท้า ส่งเสียงกรีดร้องดังขึ้น
“กรี้ด ช่วยด้วย!”
อัคคีที่กำลังเพลิดเพลินกลับรถสจุมพิตแสนหวาน ถูกผลักออกอย่างฉับพลัน ไม่ทันตั้งตัวก็โดนตบเข้าตรงข้างแก้มใกล้กกหูเต็มเหนี่ยวจนขี้หูลั่นเปรี๊ยะ ไม่พอยังถูกฝ่าเท้าน้อยยันโครมจนกระเด็นตกจากเตียงลงมานอนหงายบนพื้น ตามติดๆ มาด้วยเสียงกรีดร้องแสบแก้วหู
“ไอ้คนเลว แกจะทำอะไรฉัน นี่แหนะๆ”
ดารินทร์ตกใจกลัวมาก คว้าโคมไฟข้างเตียงฟาดใส่คนบนพื้นไม่นับจนอีกฝ่ายปัดป้องไม่ทัน ก่อนจะวิ่งหนีออกมาจากห้องนั้นอย่างแตกตื่น เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ ความทรงจำครั้งสุดท้ายเธอถูกจับไปขังไว้ เธอพยายามเจรจากับสามแม่ลูก แล้วอีกฝ่ายรับปากว่าจะปล่อยตัวเธอยอมพาออกมาจากที่คุมขัง พานั่งรถออกมาจากที่นั่นสักพักก็ดื่มน้ำที่อีกฝ่ายยื่นให้ ดารินทร์จิบไปอึกหนึ่งก่อนจะสิ้นสติไป พอฟื้นขึ้นมาพบว่ากำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งลวนลามอยู่บนเตียง หญิงสาวขนลุกเกรียวเมื่อคิดว่าถูกพามาขาย
“ยายป้านั่นคงพาเรามาขาย บ้าจริงเชียว!”
ดารินทร์สบถออกมาด้วยความโมโห เธอจะไม่ยอมถูกขายเป็นสินค้าทางเพศเด็ดขาด หญิงสาวพยายามตั้งสติมองไปรอบกายหาทางหนี
“ยายตัวแสบ กล้าทำร้ายฉันเหรอ!”
เสียงคำรามอย่างกราดเกรี้ยวดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ดารินทร์รีบวิ่งทันที ไม่เสียเวลาคิดอะไรอีกแล้วเมื่อรู้ว่าคนที่เธอฟาดไปเมื่อครู่ ลุกขึ้นมาเอาเรื่องแล้ว
อัคคีกุมหน้าผากที่มีรอยปูดบวมและปริแตกเดินโวเซออกมาจากห้อง เขาเห็นหญิงสาวยืนหมุนไปมาบนสนามหน้าที่พัก ก็ตะคอกใส่เจ้าหล่อนด้วยความโมโห ใครจะคิดว่าจู่ๆ คนที่นอนหลับตานิ่งจะลุกขึ้นมาตบและถีบเขา ไม่พอยังเอาโคมไฟฟาดเขาเต็มเหนี่ยว โชคดีที่เขายกแขนขึ้นปัดป้องทัน แต่ก็โดนตีหน้าผากปูดเกือบแตกมึนไปอยู่หลายนาที พอลุกขึ้นมาได้ก็ตามออกมา พอได้ยินเสียงเขาแม่สาวนักฟาดก็วิ่งแบบไม่คิดชีวิต
“นายชาติจับผู้หญิงที่วิ่งออกไปให้ฉันด้วย เอาตัวมาหาฉันที่นี่ !”
เขาหยิบมือถือโทรบอกลูกน้องให้จัดการสะกัดจับยายตัวแสบเอาไว้ รอบบ้านพักหลังนี้มียามรักษาความปลอดภัยและบอดีการ์ดที่มารดาเขาจ้างไว้อยู่หลายคน เขาแค่สั่งไม่ต้องออกแรงวิ่งไล่ตามเองให้เหนื่อยแรงหรอก
“กรี๊ด ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย!”
ไม่กี่นาทีต่อมา หญิงสาวก็ถูกบอดี้การ์ดร่างหนาสองคนหิ้วปีกเข้ามาหาเขาที่บ้านพัก อัคคีหายาทาแผลฟอกช้ำให้ตัวเองแล้ว เขามองตัวการสำคัญที่ถูกพาตัวมายืนตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบเขามาก่อน นอกจากตบแล้วเธอยับถีบและฟาดหัวเขาอีก ว่าที่เจ้าสาวของเขาช่างร้ายกาจยิ่งนัก
“หึ นึกเหรอว่าจะหนีพ้น”
อัคคีคำรามในคอ จ้องมองใบหน้างามที่ตอนนี้แดงก่ำไปหมด คงออกแรงวิ่งจนเหนื่อยเสียงหายใจมีร่องรอยหอบเล็กน้อย เจ้าหล่อนไม่มีท่าทางหวาดกลัวเขาสักนิด
“ถ้าฉันหนีไปได้ ฉันจะแจ้งความเอาตำรวจมาลากคอพวกแกทุกคน”
ดารินทร์ไม่ยอมแพ้ เมื่อครู่เธอวิ่งออกไปจากที่นี่แต่ไม่ทันพ้นประตูทางออกก็ถูกรวบตัวได้ พยายามดิ้นรนต่อสู้สุดกำลังแต่ก็สู้ชายร่างใหญ่สองคนไม่ได้ ถูกลากพาตัวกลับมาทีเดิม
“แจ้งจับข้อหาอะไร ฉันต่างหากจะแจ้งจับเธอข้อหาทำร้ายร่างกาย ดูหัวฉันนี่ปูดเท่าลูกมะกรูดแล้ว”
อัคคีแตะนิ้วบนรอยปูดที่หน้าผาก เขาโบกมือให้ลูกน้องถอยออกไป ขณะเจรจากัยคู่กรณีเพียงลำพัง
“ก็แกจะข่มขืนฉันนี่”
หญิงสาวไม่ยอมให้เขาใส่ร้าย เธอทำเพื่อป้องกันตัว เขาต่างหากที่ทำมิดีมิร้ายกับเธอก่อน ดารินทร์มองใบหน้ารกเรื้อเต็มไปด้วยหนวดเคราของอีกฝ่าย ใบหน้าแบบนี้ช่างคุ้นตา เหมือนเคยพบมาก่อน พยายามนึกทบทวนก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคิดถึงคนที่ปล้นจูบเธออย่างอุกอาจในครั้งก่อน
“เอ๊ะ ! นี่แกคือไอ้โจรบ้ากามนี่ แกลักพาตัวฉันมาใช่ไหม”
ปลายนิ้วเรียวชี้ใบหน้าของเขาพร้อมกล่าวหา ทำเอาคนฟังนิ่วหน้าไม่พอใจ
“ฉันไม่ใช่โจร ฉันเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ นี่แม่เลี้ยงเธอไม่บอกเหรอไงว่า เธอต้องแต่งงานกับฉันใช้หนี้”
“ใช้หนี้อะไร นายพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ”
ดารินทร์ขยับถอยออกมาอีกนิด มองคนตรงหน้าพยายามหาทางเอาตัวรอด ตอนนี้ลูกน้องของเขาออกไปคุมเชิงอยู่ด้านนอก เธอคงไม่มีปัญญาไปทำอะไรคนตัวโตคนนี้ได้
“อย่าทำเป็นไม่เข้าใจ ยายแม่เลี้ยงเธอบอกว่าเธอตกลงแต่งงานใช้หนี้แทนครอบครัวแล้ว พรุ่งนี้เราจะจัดงานแต่งงานที่นี่ เธอตามพวกเขามาอย่าแกล้งทำไม่รู้เลย”
อัคคีมองท่าทางของหญิงสาวอย่างจับพิรุธ ก็ไหนตกลงกันดิบดีแล้ว ทำไมถึงทำท่าเหมือนไม่เต็มใจแบบนี้
“อ้อ.... แต่งงานใช่ไหม ฉันรับปากแล้วใช่ไหม”
ดารินทร์แกล้งเออออไปก่อน ขืนเธอไปเถียงหรือโต้คารมกับเขาตอนนี้ อีกฝ่ายอาจจะจัดการเธอขั้นเด็ดขาดโอกาสในการรอดจะน้อยลง ยายป้านั่นคงเอาเธอมาส่งให้ผู้ชายคนนี้แทนลูกเลี้ยงที่หนีไป ยายลูกสาวสองคนนั่นร่วมมือกับแม่วางยาเธอแล้วคงส่งตัวมาให้เขา หญิงสาวประมวลความคิดวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในใจ
“ใช่ รู้แล้วก็ทำตัวดีๆ สิ มาโวยวายตบตีฉันแบบนี้ได้ยังไง”
อัคคีถอนหายใจแรง มองหญิงสาวที่ดูเหมือนจะยอมจำนนอย่างพอใจ
“ก็ฉันตกใจนี่ ตื่นขึ้นมาก็ถูกนาย เอ่อ... คุณจูบ เป็นใครไม่ตกใจบ้างละ”
ดารินทร์หาข้อแก้ตัวให้การกระทำของตัวเอง มองดูรอยปูดบนหน้าผากของเขาแล้วนึกเสียดายที่เธอมือเบาไปหน่อย น่าจะฟาดตาบ้านี่ให้แรงกว่านี้ จะได้สลบไม่ฟื้น
“โอเค เป็นความผิดของฉันที่อดใจไม่ไหว”
อัคคียอมรับผิด เขานึกถึงการกระทำห่ามๆ ของตัวเองแล้วก็สมควรที่หญิงสาวจะตกใจ เหตุผลพอรับไหวไม่ให้เขาโมโหเธอต่อ
“เธอพักเถอะ ฉันไม่กวนเธอแล้ว ค่ำๆ คุณพ่อคุณแม่ฉันจะมากินข้าวด้วย แล้วฉันจะมารับ”
เขาบอกเธอก่อนจะปล่อยหญิงสาวให้อยู่ในห้อง แล้วเดินออกไป ท่ามกลางความโล่งอกของดารินทร์ เมื่อเขาเดินออกไปเธอรีบปิดประตูทันที
“นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว ทำยังไงดี เราจะหนีออกจากที่นี่ได้ยังไง”
ดารินทร์นั่งเอามือกุมหน้าอกตัวเอง ตอนนี้หัวใจเต้นโครมครามหลังจากพ้นจากเหตุการณ์ระทึกมาได้พยายาม คิดหาวิธีหนีออกจากที่นี่ แต่ดูเหมือนจะยากเหลือเกิน...
