ตอน 5
“ท่าทางรีดเอาความจริงวิธีนี้ไม่ได้ผล สู้วิธีนี้ไม่ได้...” เขาเว้นวรรคอย่างน่าหวาดเสียว ดวงตาจ้องมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเย้ายั่วกิเลสในกายชายไม่วางตา หากได้ฉกชิมลิ้มลองรสชาติจากกลีบปากชมพูระเรื่อคู่นั้น จะสร้างแรงปรารถนาและกระตุ้นความกำหนัดในกายเขาได้มากน้อยเพียงใด ดูเหมือนสิ่งนั้นไม่อาจเดาได้นอกจากต้องได้ลองสัมผัสด้วยตัวเอง
ใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาค่อยๆลดระดับลง ธัญชนกไม่ทันได้รู้ถึงความคิดที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในจิตใจเซบาสเตียน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น เพื่อขอคำตอบจากเขา กลีบปากนิ่มเย้ายวนได้ถูกริมฝีปากหยักคอบครองโดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยอารามตกใจโดยไม่คาดฝัน ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดกับเธอ กายสัมผัสที่หล่อหลอมก่อกวนเธออยู่ทุกวินาที ยังเล่นงานทั้งกายทั้งใจให้หญิงสาวป่วนปั่น ไร้เรียวแรงหยัดกายให้มั่นคงเมื่อได้รับสัมผัสอันจาบจ้วง
ทั้งสติที่กระเจิดกระเจิงเพราะเสน่ห์เหลือล้นมากมายในกายชายร่างสูงใหญ่ เขากักร่างเธอไว้จนมิดชิดอยู่ในอกแกร่งมองเผินๆอาจไม่เห็นเธอเสียด้วยซ้ำ เขาบดเคล้ากลีบปากอิ่มเย้ายวนด้วยชั้นเชิงอันเหนือกว่า มือบางสั่นเทา พยายามออกแรงอันน้อยนิดเท่าหนูตัวน้อยๆผลักหน้าท้องแข็งดุจหินผาของเขาให้ห่างจากไป หากว่าการกระทำของเธอนับจากไม่เกิดประโยชน์อันใดแล้วยัง กระตุ้นให้เขาบดขยี้คอบครองกลีบปากเธอหนักหน่วงขึ้น และยิ่งได้รับรสชาติแปลกใหม่จากหนุ่มต่างชาติ
ธัญชนกถึงกับเขยื้อนกายไปไหนไม่ได้โดยสิ้นเชิง เมื่อพบเจอกับความเร่าร้อน ครั้งแรกในชีวิตสาว เขาเพียงจุมพิต ทว่าดั่งร่างกายถูกลอกคราบไม่เหลืออาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียวบนเรือนกาย ร่างบางร้อนสลับหนาวมือบางยกขึ้นวางตรงเอวสอบขยุ้มเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มจนเกิดรอยยับย่น ส่วนมืออีกข้างวางแปะลงไปบนอกแกร่งลูบไล้ขึ้นลงด้วยอาการลืมตัว
ชายหนุ่มตักตวงชอนไชเพื่อต้องการรับรู้ถึงรสชาติจากเรียวปากชมพูอุดมด้วยความหอมหวาน ความหวานที่ไม่เคยได้สัมผัสจากสตรีคนใด แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เซบาสเตียนมาเฟียผู้ห้าวหาญ ดุเดือด และเด็ดขาด ในชีวิตวัยหนุ่มไม่เคยอาจแคลนความซาบซ่านจากอิสตรีเลยสักครั้ง หากว่าความรู้สึกละมุนละไม ที่เขากำลังตักตวงอยู่ในตอนนี้กลับกระตุ้นความรู้สึกทุกอณู ให้ตื่นเต้นราวกับเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มวัยสิบห้าหมาดๆ
“ไงจะบอกได้หรือยัง ต้องการอะไรจากผม หากต้องการเรื่องนี้ ผมจัดให้ได้นะ” หลังจากถอนริมฝีปากจากเรียวปากหวานนุ่มละมุนละไม ด้วยอาการเสียดาย หากว่าไม่หักห้ามใจ เขาคงเลยเถิดโยนสาวแปลกหน้าขึ้นเตียงอย่างไม่รั้งรอ ประโยคคำถามเดิมจึงถูกเอ่ยถามแม่คนปากแข็งแต่ตัวอ่อนในอ้อมกอดแข็งแกร่งของเขา เพื่อต้องการค้นหาคำตอบจริงๆ หากขืนเธอยังปากแข็ง เซบาสเตียนคงได้ร่วมรักกับผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนนี้เป็นได้
“บะ...บอกแล้วปล่อยก่อนค่ะ” แม้แรงจะหยัดยืนยังถูกเขาสูบไปเสียสิ้น หากยังปากกล้าบอกให้เขาปล่อย เรียวปากที่ถูกเขาครอบครองเมื่อครู่สั่นระริก แสบร้อนราวกับโดนของร้อนนาบครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ปาน นิ้วเรียวแตะตรงร่องรอยที่เขาฝากไว้ ยังรู้สึกร้อนรุ่มไม่จางหาย ใบหน้าหวานซบอยู่กับอกแกร่ง ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัวเร็วของเขาด้วยใจไหวหวั่น เขากำลังตื่นเต้น เธอทำให้เขาตื่นเต้น
“งั้นว่ามา” เขาอยากรู้เหมือนกันแม่รสหวานตัวเล็กคนนี้ มีจุดประสงค์อะไร ถึงได้ลงทุนทำเรื่องบ้าๆ ไม่เกรงเขาจะสั่งตัดมือตัดแขนบ้างเลยหรือไร เห็นอย่างนี้ได้ลิ้มลองขนาดนี้ ต่อให้เธอทำกับเขามากกว่านี้ เขาคงไม่กล้าแม่แต่ให้ยุงตอมหรือไรไต่ ก็ปากหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งขนาดนี้
เพียงแค่เขาปล่อยมือจากการกกกอด ธัญชนกเหมือนร่างไร้กระดูกหยัดยืนด้วยลำแข้งตัวเองยากเย็น สมองมึนงง สติเลื่อนลอย ดวงตาซุกซนกลมโต พร่าเลือนราวกับถูกสูบพลังทั้งหมดในกายไปเสียสิ้น อานุภาพจากจุมพิตเมื่อครู่ร้ายแรง ยิ่งกว่าเธอลงไปเตาไฟที่มีเปลวไฟร้อนแรง ราวกับร่างกายจะหลอมละลายเมื่อถูกเปลงไฟจากกายแกร่งหลอมละลาย
เซบาสเตียนเห็นดังนั้นรีบขยับกายสูงใหญ่ช้อนลำแขนประคองร่างบางซวนเซเพื่อให้หญิงสาวยืนบนเรียวขาอ่อนแรงให้มั่นคง ชายหนุ่มอดระบายยิ้มบางกับตัวเองไม่ได้ ความไร้เดียงสาที่เธอแสดงออกหาได้เป็นการแสร้งใส่จริตกับเขาเพื่อให้ชายเช่นเขาหลงใหล แต่เพราะสิ่งที่เขาได้สัมผัสทั้งหมดคือความน่ารัก อ่อนประสบการณ์จากแม่ตัวเล็กอย่างแท้จริง เขาชักคิดอะไรสนุกได้บางอย่าง แต่...คงต้องเอาไว้ก่อน รอฟังคำสารภาพจากเธอซักหน่อย เรื่องสนุกระหว่างรองานใหญ่คงทำให้เขากระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้าง เซบาสเตียนคิดอย่างสุขใจ พลางจ้องเหยื่อโอชะ ซึ่งกำลังตัวสั่นไม่ต่างอะไรกับลูกหนูตกน้ำคลำ หาที่ซุกเพื่อคลายหนาว หากเธอไม่มีใครเขาพร้อมสละอกอุ่นให้เธอคลายหนาว อันเนื่องจากเขาคือสาเหตุแห่งอาการสั่นนั้นได้
“ฉันต้องการความร่วมมือจากคุณ...เอ่อ...นิดหน่อย” ท้ายประโยคหญิงสาวราวกับคนติดอ่าง เธอยอมหน้าด้านเผยความต้องการของตัวเอง ในการได้เข้าใกล้ผู้ชายทรงเสน่ห์ที่มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการนี้ หากแต่ลืมนึกบางประเด็นไปเสียสนิท บิดาเธอค่อนข้างไม่ชอบให้ลูกหลานหรือคนในครอบครัวมีแฟนต่างชาติไม่ได้ระบุชาติไหน แต่เขาเพียบพร้อมเกินกว่าเธอจะปล่อยไป เพื่อผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ ดูเหมือนเขาไม่ยอม หนำซ้ำยังถือโอกาสรังแกเธออีกด้วย เสียเปรียบทั้งที่อยากได้เปรียบ
“ร่วมมือ ตัวเล็กครับผมจำได้ว่าระหว่างเราสองคน” เขาชี้นิ้วสลับระหว่างเธอกับเขา “ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำไมต้องการความร่วมมือจากผมกันล่ะ” เขาเอียงหน้าใกล้แก้มเนียน ถือโอกาสสูดดมความหอมหวานซึ่งเขาเริ่มรู้ตัวบ้างว่าตัวเองต้องการเนื้อหวานจากเธอด้วยอาการร้อนรน หากแต่ด้วยความสามารถเขาจึงสะกดมันไว้ได้ในท่าทีเยือกเย็น ราวภูเขาน้ำแข็ง
“คือฉันเจอปัญหานิดหน่อย แบบว่านิดหน่อยในสายตาคนอื่น แต่สำหรับฉันมันยิ่งใหญ่ ในเมื่อฉันมีความฝันไว้ในใจ จึงไม่อยากให้ความฝันสะดุด เพราะการจับคู่ของพ่อฉันก็เท่านั้น” เธอเล่าพร้อมตีสีหน้าเคร่งราวกับโลกจะแตก
“จับคู่” เขาทวนคำ มองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจนัก หากว่าพอเดาสถานการณ์บางอย่างได้ แต่ไม่ทั้งหมด
“ใช่...คือพ่อของฉันท่านมักจับคู่ให้ฉันบ่อยๆ อาจจะรวมครั้งนี้ด้วย” เธอคาดซึ่งมันค่อนข้างถูก
“ครั้งนี้ หมายถึงที่คุณมาที่นี่เพื่อมาดูตัว ใช่หรือไม่ ผมถามถูกต้องไหม” เขาถามได้ตรงจุด
“ถูกต้อง พ่อฉันท่านนัดฉันให้มารับประทานอาหารกับท่าน ซึ่งทุกทีมันก็มีเพื่อนของท่านด้วย แถมท้ายด้วยชายหนุ่มซึ่งคือลูกของเพื่อนพ่อ” หลายครั้งมันเป็นแบบนั้น
“แล้วมันเกี่ยวกับผมยังไง” แค่เธอเล่าให้เขาฟังถึงการนัดดูตัว ทำไมเซบาสเตียนถึงรู้สึกไม่ค่อยดี ราวกับในใจส่วนลึกเกิดความรู้สึก หวงแหนหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างนั้น
“คือฉันบอกไปคุณอย่าหาว่าฉันงี่เง่า หรือไม่มีเหตุผลนะ หรือเป็นเด็กไม่รู้จักโตนะ” เธอออกตัวได้น่ารักเขาฟังแล้วกดยิ้มลึกโดยที่หญิงสาวทันได้สังเกต
“ว่ามา” เสียงเขาเข้มขึ้น เพราะโดยส่วนตัวไม่ชอบคนอ้อมค้อม ตัวเองยังไม่ชอบอ้อมค้อม คนที่สนทนาอยู่กับเขาไม่ควรมีนิสัยอย่างนั้นเช่นกัน
“ฉันต้องการให้คุณเป็นแฟน”
“แฟน...!!!” แม่ตัวเล็กกล้าบ้าดีเดือดดีจริงๆ ในเมื่อเธอยังไม่รู้จักเขา แม้แต่ชื่อยังไม่เคยรู้จัก เพียงแค่เดินเข้ามาในโรงแรมนี้ไม่ถึงห้าก้าว เธอหมายมั่นจะให้เขาเป็นแฟนกับเธออย่างนั้นหรือ
“คือ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ฉันต้องการให้คุณแค่ทำตัวเป็นแฟนหลอกๆ เพื่อให้พ่อล้มเลิกการยัดเยียดให้ฉันไปอยู่ในความดูแลของผู้ชายคนใดคนหนึ่งเท่านั้น บอกแล้วไงฉันมีความฝัน ฉันยังเด็ก ไม่อยากแต่งงานไม่อยากต้องเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านไหนทั้งนั้นในตอนนี้” เธออธิบายยาวเหยียด กลัวเขาไม่เข้าใจหาว่าเธอ สติไม่ดีอยากเป็นแฟนกับคนระดับเขา ทั้งที่ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ใช่...เธอยังไม่รู้จักเขา ที่บอกก็ไม่ได้หมายใจอยากให้เขาตอบตกลง แต่เมื่อเขาบีบบังคับให้เธอพูด ก็ต้องรีบอธิบายให้เขาฟัง เพื่อจะได้เข้าใจการกระทำสิ้นคิดของเธอ
“แค่นี้ใช่ไหมตัวเล็ก” เมื่อฟังเรื่องราวจากปากหญิงสาวจบ เซบาสเตียนรู้สึกเรื่องนี้มันตลกมากกว่ามีสาระ แต่เขาดันหัวเราะไม่ออก ยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกภาพเธอต้องกลายเป็นของคนอื่น เออ..เขากำลังบ้าหรือไรที่คิดหวงผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จักแม้แต่ชื่อ แถมยังไม่เคยขึ้นเตียงด้วยสักครั้ง