บทที่ 3
บทที่ 2
ได้แกล้งกันพอหอมปากหอมคอแล้ว คนที่ยังไม่ได้กอดมารดาให้หายคิดถึง ก็ร้องโอด ทำตาปริบๆ ตีหน้าม่อยขณะเอ่ยกับมารดาเสียงอ่อยว่า
“มาดามครับ...รอสส์คิดถึงมาดามมากนะครับ จะอนุญาตให้หอมแก้มและกอดมาดามได้หรือยังครับ”
มาดามแคทรียาหัวเราะเบาๆ กับคำอ้อนของลูกชายคนเล็ก พยักหน้ารับคำขอของลูกชาย โดยไม่ลืมชี้นิ้วไปบนใบหน้าหล่อๆ บอกให้รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนจะมาหอมแก้มท่าน
“เช็ดคราบลิปสติกให้หมดก่อน รอสส์ ไม่ยังงั้นมาดามไม่ให้หอมแก้มแน่”
“ตามบัญชาเลยครับ มาดาม”
รอสส์รีบเช็คคราบลิปสติกออกจากใบหน้าของตนเอง กระทั่งมั่นใจว่าใบหน้าหล่อๆ ของตนเองสะอาดเกลี้ยงเกลาแล้ว ก็เข้าไปสวมกอดมารดาบ้าง หลังจากปล่อยให้เรอัลได้กอดและหอมแก้มมารดาจนเป็นที่พอใจแล้ว
“ชื้นใจที่สุด ไม่มีแก้มของสาวคนไหนที่หอมแล้วชื้นใจเหมือนแก้มของมาดามอีกแล้ว”
เรื่องเจ้าเล่ห์และประจบประแจงต้องยกให้รอสส์เป็นที่หนึ่ง นอกจากจะหอมแก้มมารดาดังฟอดๆ แล้ว รอสส์ยังอ้อนมารดาเก่งที่สุด
อารอนหันมามองหน้าเรอัล พากันกลอกตาด้วยความหมั่นไส้รอสส์สุดกำลัง และอารอนก็ไม่ลังเลเล่นงานน้องชายตัวแสบกลับคืนบ้าง
“คำพูดนี้ฟังคุ้นๆ นะ รู้สึกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน พี่กับเรอัลได้ยินนายพูดกับนางแบบสาวด้วยคำพูดนี้เป๊ะเลย จริงไหม เรอัล” อารอนหันไปพยักพเยิดใส่เรอัล ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบรับคำในทันที
“จริงครับ ผมเดินผ่านห้องนอนของเจ้ารอสส์ ได้ยินเสียงเจ้ารอสส์ครางแบบนี้แหละครับ”
เรอัลต้องใช้ความสามารถสุดกำลัง เพื่อไม่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ขณะเผาน้องชายฝาแฝด
“เฮ้ย! อย่าใส่ความกันสิ เราไม่ได้พูดแบบนี้สักหน่อย”
รอสส์ค้านพี่ชายทั้งสองทันควัน ถลึงตามองพี่ชายทั้งสองที่ต่างก็กลั้นเสียงหัวเราะจนหน้าแดงไปตามๆ กัน จากนั้นก็เค้นเสียงต่อว่าด้วยความโมโห
“สองรุมหนึ่ง ไม่แฟร์เลยนะพี่ชาย...”
“ใครใส่ความนายว่ะ ก็เราได้ยินแบบนี้จริงๆ”
เรอัลตอบกลับ พอหันไปมองมารดา เห็นท่านกำลังจ้องมองน้องชายฝาแฝดเขม็ง ก็ยกมือทำท่าเชือดคอใส่รอสส์ พร้อมกับทำปากขมุบขมิบว่า
“ตายแน่ๆ ไอ้รอสส์เอ๋ย...”
รอสส์แยกเขี้ยวใส่พี่ชายทั้งสอง หันไปนวดเฟ้นต้นแขนมารดา ประจบประแจงท่านต่อ เพื่อเอาตัวให้รอดพ้นจากการถูกมารดาซักฟอกเรื่องของบรรดาสาวๆ
“มาดามอย่าไปเชื่อนะครับ อารอนกับเรอัลเห็นผมหล่อกว่าก็เลยใส่ความผม มาดาม
กลับมาเหนื่อยๆ มาดามนั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวรอสส์ไปจะเอาน้ำเย็นๆ มาให้มาดามดื่มนะครับ”
มาดามแคทรียาทรุดกายลงนั่งตามการประคองของลูกชาย พอรอสส์ทำท่าจะผละออกไปหาเครื่องดื่มให้ท่าน ก็กวักมือเรียกลูกชายคนเล็กไว้
“รอสส์”
“ตายแน่เรา”
รอสส์ตีหน้าเหยเกทำท่าขมุบขมิบ ขณะยืนหันหลังให้มารดา คิดว่าตนเองต้องโดนมารดาเชือดแน่ๆ แต่พอได้ยินคำพูดของท่าน ก็เป่าลมออกจากปากด้วยความโล่งอก
“ไม่ต้องหาน้ำมาให้มาดามหรอก นั่งลงก่อนรอสส์ มาดามมีเรื่องจะพูดกับลูกๆ”
“ครับมาดาม” รอสส์รับคำ จำต้องเดินมาทรุดตัวลงนั่งใกล้เรอัล ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอารอน
อารอนทอดสายตามองมารดา เห็นริ้วรอยความไม่สบายใจเผยอยู่บนใบหน้าของท่าน จึงเอ่ยถามแทนน้องชายทั้งสอง
“มาดามเป็นห่วงเรื่องงานหรือครับ ถึงได้กลับประเทศไทยก่อนกำหนด” อารอนเอ่ยถามในคำถามที่ฝาแฝดทั้งสองอยากรู้คำตอบเป็นอย่างยิ่ง
“นั่นนะสิครับ มาดามมีกำหนดไปทัวร์ยุโรปอีกสองสัปดาห์ไม่ใช่หรือครับ” เรอัลเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง
และด้วยความเข้าใจผิด คิดว่ามารดาคงเป็นกังวลเรื่องการบริหารงานของพวกตน รอสส์จึงบอกให้มารดาสบายใจว่า
“มาดามไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงานในบริษัทนะครับ พวกผมดูแลงานได้เรียบร้อย สินค้าทุกชิ้นส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยและตรงตามกำหนดด้วยครับ”
มาดามแคทรียาโบกมือปฏิเสธ พลางเอ่ยบอกบรรดาขุนพลสุดหล่อทั้งสามด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“มาดามไม่ได้เป็นห่วงเรื่องงานหรอก มาดามรู้ว่าลูกๆ บริหารงานได้ดีมาก แต่ที่มาดามกลับประเทศไทยก่อนกำหนด ยกเลิกโปรแกรมทัวร์ที่เหลือ เพราะมาดามเบื่อไม่อยากไปทัวร์ยุโรปต่อแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ ทัวร์กรุ๊ปนี้มีแต่เพื่อนสนิทของมาดามเดินทางไปด้วยไม่ใช่หรือครับ”
อารอนเอ่ยถาม ค่อนข้างแปลกใจหลังจากได้ยินมารดาบอกว่าเบื่อในการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกในครั้งนี้
มาดามแคทรียาพยักหน้ารับ บอกถึงสาเหตุที่ทำให้ท่านหมดอารมณ์ไปท่องรอบโลกกับบรรดาเพื่อนสนิท
“ก็เพราะไปกับพวกเพื่อนสนิทนี่แหละที่ทำให้แม่เบื่อ แต่ละคนจูงลูก จูงหลานไปเที่ยวด้วย บางคนพาหลานตัวเล็กไปถึงสองคน...”
“มาดามรำคาญเด็กๆ หรือครับ”
รอสส์เอ่ยถามด้วยความเข้าใจผิด เด็กๆ กระจองอแงร้องไห้เวลาเดินทาง อาจทำให้มารดาของเขารำคาญได้
“มาดามไม่รำคาญเด็กๆ หรอก ลูกๆ ก็รู้ว่ามาดามชอบอยู่กับเด็กๆ มาก”
“แล้วทำไมมาดามบอกว่าเบื่อล่ะครับ”
เครื่องหมายคำถามวิ่งวนทั่วใบหน้าของเรอัล รวมทั้งอารอน ที่รอฟังคำตอบจากมารดา
“ก็มาดามเบื่อตรงที่มาดามไปเที่ยวคนเดียว ไม่มีหลานๆ ไปเที่ยวด้วยเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ”
เอาล่ะสิ! คำตอบของมารดา ทำเอาสามหนุ่มแห่งเนวิลล์ ซึ่งแต่ละคนต่างก็ ‘หวง’ ชีวิตความเป็นโสดไม่ต่างจากงูจงอางหวงไข่ ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ มองสบตากันไม่อยากได้ยินคำพูดของมารดาในประโยคต่อไป
“มาดามอยากมีหลาน”