ไฟสวาทซาตานเถื่อน

75.0K · จบแล้ว
ไอริส
41
บท
47.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อมารดาอยากอุ้มหลานใจจะขาด แต่เจ้าลูกชายตัวแสบ ขุนพลทั้งสามแห่งตระกูลเนวิลล์ก็หวงความเป็นโสดซะยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่ ‘มาดามแคทรียา’ จึงจำต้องจับลูกชายเชือด เป็นรายตัว เริ่มจาก ‘อารอน เนวิลล์’ ลูกชายคนโตของตระกูล ที่ถูกคลุมถุงชนด้วยแผนการอันแยบยล กระทั่งตกหลุมรัก ‘ฟ้าคราม’ หญิงสาวที่มารดาเลือกเฟ้นมาให้เขาโดยเฉพาะจากที่ตั้งใจยอมให้มารดาจับคลุมถุงชน จัดงานแต่งงานให้สมเกียรติฝ่ายเจ้าสาว แต่ว่าที่เจ้าสาวดันมางัดข้อและตั้งใจจะหนีการแต่งงาน แถมยังด่าให้อารอนต้องแสบๆ คันๆ ขุนพลใหญ่แห่งตระกูลเนวิลล์อย่าง ‘อารอน’ มีหรือจะยอม งานนี้ต้องพาว่าที่เจ้าสาววิวาห์เหาะเท่านั้น จับปล้ำให้ท้อง แล้วค่อยแต่งงานทีหลัง...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานแต่งงานสายฟ้าแลบรักแรกพบโรแมนติก

บทที่ 1

บทที่ 1

ตึกสูงระฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเดอะ คิง ออฟ โกลด์ กรุ๊ป (The King Off Gold Group) ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือระหว่างประเทศชื่อดัง มีลูกค้าทั่วโลกเลือกใช้บริการส่งสินค้าจากเดอะ คิง ออฟ โกลด์ กรุ๊ป เพราะไว้วางใจกับบริการของบริษัทแห่งนี้ นอกจากจะส่งสินค้าได้รวดเร็วแล้ว ลูกค้าทุกรายต่างก็มั่นใจว่าสินค้าที่ส่งไปจะถูกส่งถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ไม่มีแตกหักสูญหายแม้แต่ชิ้นเดียว

นอกเหนือจากบริการอันน่าประทับใจแล้ว ลูกค้าทั่วโลกยังมั่นใจ ไว้วางใจในการบริหาร

งานของบริษัท เพราะมีผู้กุมบังเหียนบริษัทเป็นสามขุมพลมือฉมัง มันสมองระดับหัวกะทิ ไม่เคยบริหารงานผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

สามขุนพลแห่งเดอะ คิง ออฟ โกลด์ กรุ๊ป ทำให้บริษัทแห่งนี้มีกำไรปีละหลายพันล้าน และแค่เพียงได้ยินชื่อสามขุมพล ลูกค้าทั่วโลกต่างก็เลือกใช้บริการจากบริษัทเดอะ คิง ออฟ โกลด์ กรุ๊ป โดยไม่มีลังเล

และในวันนี้ภายในบริษัทเดอะ คิง ออฟ โกลด์ ก็เต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อผู้บริหารระดับบิ๊ก ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในบริษัทแห่งนี้ แม้แต่ขุนพลทั้งสามยังต้องยอมสยบให้ ได้บินตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมาเปิดประชุมเป็นการพิเศษในวันนี้โดยเฉพาะ

ทว่า...ผู้บริหารท่านนี้หาได้เรียกให้คณะกรรมการบริษัทคนอื่นๆ เข้าร่วมประชุมด้วยไม่! ท่านต้องการประชุมลับกับสามขุมพลเท่านั้น

และนั่นทำให้สามขุนพลต้องวางงานที่มีอยู่ในมือทั้งหมด เพื่อตรงดิ่งไปยังห้องประชุมใหญ่ ซึ่งตอนนี้ท่านผู้บริหารได้นั่งรออยู่นานหลายสิบนาทีแล้ว

อารอน เนวิลล์ หนุ่มใหญ่ผู้หล่อเหลา ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบไม่ต่างจากดวงตาพญาอินทรี มีมันสมองเป็นเลิศ ฉลาดเป็นกรด กำลังก้าวเดินยาวๆ เกือบเป็นวิ่งตรงไปยังห้องทำงานของอีกสองขุนพล เพื่อบอกถึงการเดินทางมาถึงของผู้บริหารระดับบิ๊กท่านนี้

เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองอย่างสวยงามว่า รองคณะ

กรรมการ อารอนก็ทุบห้องดังโครมๆ และไม่ได้รอให้ผู้ที่อยู่ให้ห้องเอ่ยอนุญาตหรือเปิดประตูให้ มือใหญ่ผลักประตูออกกว้าง พอโผล่หน้ามองเข้าไปในห้อง ก็ต้องกลอกตาขึ้นบน ส่ายหน้าด้วยความระอา เมื่อเห็นท่านรองคณะกรรมการสุดหล่อ กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการซ้อมไดร์ฟกอล์ฟภายในห้องทำงานโอ่อ่าหรูหรา

“ตั้งใจทำงานเหลือเกินนะ เจ้าเรอัล”

อารอนเหน็บผู้เป็นเจ้าของห้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในสองขุนพลฝาแฝด ผู้เป็นน้องชายของเขานั่นเอง

เรอัล เนวิลล์ ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาคมเข้มไม่แพ้อารอนผู้เป็นพี่ชาย หันมาเลิกคิ้วใส่พี่ชาย พลางเอ่ยตอบกลั้วเสียงหัวเราะร่วน ไม่สะทกสะท้านกับดวงตาคมกริบที่จ้องมองตนเองเขม็ง

“ก็ต้องตั้งใจหน่อยสิครับ วันหยุดนี้ผมจะพาสาวหุ่นสะบึมดีกรีเป็นถึงนางเอกละครไปออกรอบ ถ้าไดร์ฟกอล์ฟไม่ลงหลุมก็เสียชื่อนายเรอัลหมดสิครับ”

“หวังว่านายคงได้ไปออกรอบนะเจ้าเรอัล เพราะตอนนี้มาดามมาถึงเมืองไทยแล้ว สาบานได้ว่านายไม่มีทางกระดิกตัวไปไหนได้แน่”

“เฮ้ย! จริงหรือครับ” เรอัลร้องเสียงหลง เบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “มาดามมาถึงเมื่อไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“อย่าว่าแต่นายเลย พี่ก็ไม่รู้ว่ามาดามกลับมาถึงประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไร และที่สำคัญตอนนี้มาดามกำลังนั่งรอพวกเราอยู่ในห้องประชุมแล้วด้วย”

“ฮ้า!”

เรอัลร้องเสียงหลงดังกว่ารอบแรก ทิ้งไม้กอล์ฟในมือ พาร่างใหญ่ล่ำสันในสูทสีดำสนิทเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพี่ชาย เอ่ยถามต่อด้วยความระมัดระวัง

“ทำไมมาดามมาประเทศไทยโดยไม่บอกใคร แถมยังกลับมาก่อนกำหนดด้วย”

“พี่ตอบคำถามของนายไม่ได้ เรอัล คนที่จะตอบคำถามนายได้คือมาดามเพียงคนเดียวเท่านั้น”

อารอนเอ่ยตอบเสียงเครียด รู้สึกถึงกลิ่นไม่ดีกับการกลับประเทศไทยอย่างกะทันหันพลันด่วนของผู้เป็นมารดา

“นายไปเรียกเจ้ารอสส์ด้วย พี่จะไปหามาดามก่อน ป่านนี้มาดามคงบ่นอุบ ที่ปล่อยให้ท่านรอนาน”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปลากคอเจ้ารอสส์เองครับ”

เรอัลรับคำพร้อมกับเดินตามหลังพี่ชายออกมาจากห้องทำงาน เพื่อไปลากคออีกหนึ่งขุนพลให้ไปพบกับมารดาด้วย

และขณะเดินผ่านห้องทำงานของน้องชายฝาแฝดอีกคน อารอนก็ได้ยินเสียงครางกระเส่าดังเล็ดลอดออกมา จนต้องเอ่ยเตือนเรอัลว่า

“เคาะประตูให้มันรู้ตัวด้วย ไม่ยังงั้นนายได้เจอของดีแน่”

เรอัลหัวเราะร่วนพยักหน้า พออารอนเดินตรงไปยังห้องประชุมแล้ว หาได้ทำตามที่อีกฝายเอ่ยบอกไม่ เสียงครางแหลมเล็กที่ดังเล็ดลอดมากระทบหู บ่งบอกให้รู้ว่าภายในห้องทำงานของรองคณะกรรมการคนนี้กำลังมีกิจกรรมรักเกิดขึ้นอยู่ จึงเปิดประตูห้องออกกว้างโดยไม่มีการเคาะประตูห้องให้อีกฝ่ายรู้ตัว

“ไอ้รอสส์!”

เรอัลตะโกนเรียกเสียงดังลั่น ทำเอาคนที่กำลังยืนเท้าสะเอวให้เลขาฯ สาวสุดเซ็กซี่ช่วยปลดเข็มขัด เพื่อบรรเลงเพลงรักด้วยริมฝีปากน้อยๆ ของเธอถึงกับสะดุ้งโหยง

รอส เนวิลล์ ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาพิมพ์เดียวกันกับแฝดพี่ หันขวับมาเค้นเสียงต่อว่าพี่ชายด้วยความโมโห

“เฮ้ย! เรอัล เข้ามาขัดจังหวะทำไมว่ะ”

เรอัลหัวเราะร่วน ยักคิ้วใส่น้องชาย เมื่ออีกฝ่ายหันมาตะโกนด่าแล้วทำท่าจะให้เลขาฯ สาวบรรเลงเพลงรักต่อ ทั้งๆ ยังมีเขายืนอยู่ในห้องด้วย

“กำลังสอนงานเลขาฯ อยู่หรือยังไง ไอ้รอสส์”

“เห็นแล้วจะถามทำไมอีก เรอัล” รอสส์ต่อว่าพี่ชาย แถมยังออกปากไล่อีกฝ่ายด้วย “ออกไปได้แล้ว เรอัล เราจะสอนงานเลขาฯ ต่อ”

“เราคิดว่านายคงมีเวลาสอนงานเลขาฯ ไม่พอแน่ว่ะ เพราะตอนนี้มาดามนั่งรอพวกเราอยู่ในห้องประชุมแล้ว”

“ฮ่ะ! อะไรนะ มาดามมาหรือ?”

คราวนี้รอสส์หันมามองพี่ชายพร้อมกับเบิกตาโตกับเรื่องที่ได้ยิน รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมไล่เลขาฯ สาวออกจากห้องของตนเองด้วย

เรอัลพยักหน้ารับ พลางเอ่ยตอบว่า “ใช่ มาดามมาถึงประเทศไทยแล้ว และก็กำลังรอเราสองคนอยู่ด้วย”

“ทำไมมาดามกลับประเทศไทยก่อนกำหนด” รอสส์ขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งขณะเอ่ยถามแฝดพี่

“นายถามคำถามเดียวกันที่เราถามอารอน”

เรอัลบอกน้องชาย พอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ก็แทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ และแทนที่จะบอกน้องชายว่าบนในหน้าหล่อๆ และต้นคอของอีกฝ่ายมีรอยลิปสติกสีแดงสดเปื้อนอยู่ กลับเก็บเงียบ เพราะอยากแกล้งน้องชายให้โดนมารดาเฉ่งเล่นสักยกสองยก

“แล้วอารอนบอกว่ายังไงบ้าง” รอสส์เอ่ยถามต่อ ขณะเดินเคียงคู่กับแฝดพี่ออกมาจากห้องทำงานของตนเอง

“อารอนบอกให้ไปถามมาดามเอาเอง” เรอัลตอบกลั้วเสียงหัวเราะร่วน สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนถามเป็นอย่างมาก

“อุว่ะ! อุตส่าห์รอฟังคำตอบ นึกว่าคุยกับอารอนรู้เรื่องแล้ว”

รอสส์บ่นอุบ พอเห็นแฝดพี่มองหน้าเขาแล้วกลั้นเสียงหัวเราะพร้อมกับหันหน้าหนี ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง พึมพำพูดอยู่คนเดียว

“เป็นอะไรของมันว่ะ หน้าตาเราดูตลกขนาดนั้นเลยหรือยังไง”

ทางด้านของเรอัลได้ยินเสียงบ่นงึมงำของน้องชาย ก็แทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เขากลั้นหัวเราะไว้จนปวดกรามไปหมด

‘เดี๋ยวเถอะไอ้รอสส์ นายโดนมาดามเล่นงานเละแน่’

เรอัลเอ่ยด้วยความขบขำอยู่ในใจ พอเดินไปถึงห้องประชุมแล้ว ก็เป็นฝ่ายเอื้อมมือเปิดประตูออกกว้าง และเห็นอารอนพี่ชายคนโตกำลังสวมกอดมารดาสุดที่รักของพวกเขาอยู่