บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

กวิสรามองนาฬิกาข้อมือเรือนเล็ก ที่บอกเวลาเกือบบ่ายสองโมงครึ่งอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย นายจ้างของเธอเลทเวลาไปแล้วเกือบสองชั่วโมง หลังจากที่เธอโทรศัพท์ไปนัดแนะตามเบอร์โทรศัพท์ ที่ได้มาจากผลิดา เสียงหวานของสตรีที่อยู่ปลายสายฟังดูอ่อนเยาว์ และผิดคาดจากที่เธอคิดไว้ ว่าจะต้องได้ยินเสียงทรงอำนาจบอกความเป็นเจ้ายศเจ้าอย่างตอบกลับมา

‘ดิฉันเป็นเลขาของคุณวรปรัชญ์ บังเอิญท่านเข้าประชุม แต่ท่านบอกว่าถ้าคุณกวิสราโทรมาให้นัดคุณได้เลยค่ะ’

‘เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณวรปรัชญ์สะดวกนัดที่ไหนค่ะ แล้วกี่โมง ดิฉันจะได้เตรียมตัวน่ะค่ะ’

‘ร้าน เดอะแกรนด์ เบส อิตตาเลียนน่ะค่ะ เวลาบ่ายโมงตรง ท่านชอบคนตรงเวลานะคะ’

“ชอบคนตรงเวลา แต่ป่านนี้ยังไม่โผล่มานี่นะ”

เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง มือเรียวคว้าแก้วน้ำส้มแช่เย็นขึ้นมาจิบแต่ปรากฏว่ามันหมดแล้ว กวิสราถอนใจเฮือก

“แล้วนัดมาร้านแพงหูดับแบบนี้เสียด้วย น้ำส้มแก้วหนึ่งก็เกือบสองร้อยแล้ว หรือว่าจะเหลวนะงานนี้”

กวิสรามองไปรอบๆ สลับกับมองนาฬิกา ที่เข็มเวลาเคลื่อนไปเรื่อยๆ เธอยังไม่เห็นใครที่จะดูเหมาะกับเป็น ‘คุณวรปรัญช์’ เลยสักนิด มือเรียวคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และกดเบอร์ของนายจ้างอีกรอบ ก่อนจะขมวดคิ้ว เมื่อทางฝ่ายนั้นปิดเครื่อง

หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ เออหนอ...หรือว่าจะชวดเงินล้านแล้วล่ะมั้งเราคราวนี้ เลทนัดเธอไปหนึ่งชั่วโมง และปิดโทรศัพท์หนีการติดต่อแบบนี้ งานนี้คงจะเป็นเพียงแค่ฝันหวานแล้ว มือเรียวทำท่าจะขยับเรียกบริกรมาคิดเงิน ไว้ค่อยไปคุยกับผลิดาอีกทีถ้าเกิดฝ่ายนั้นมาโวยวายทีหลัง ก็อยากผิดนัดเองนี่นา ช่วยไม่ได้ และตอนนี้เธอก็หิวมากแล้ว อาหารที่นี่แพงหูดับเธอคงสู้ราคาไม่ไหวแน่ๆ แค่สั่งน้ำส้มดื่มไปแก้วเดียว เงินในกระเป๋าก็เกือบจะหมดแล้ว หญิงสาวพกเงินสดมาแค่พันกว่าบาทเท่านั้นเอง

“สวัสดีครับ คุณกวิสราใช่ไหม?”

เสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทายขึ้น ก่อนที่กวิสราจะทันร้องเรียกบริกรมาเก็บเงิน แล้วเดินออกไปจากร้านอาหารชั้นหรูแห่งนี้ เธอหันขวับมาทางต้นเสียง ชายหนุ่มใบหน้าคมสัน นัยน์ตาสีนิลดำ กำลังมองจ้องเธออยู่ เขาแต่งกายด้วยชุดสูททำงานสีดำหรู เข้ากับบุคลิกที่ดูเป็นหนุ่มนักธุรกิจผู้คล่องแคล่วกระชับกระเฉง

“เอ่อ..ค่ะ”

หญิงสาวหรี่ตา ก่อนจะมองไปรอบๆ มีเขาเพียงคนเดียวที่มาทักทายเธอ โต๊ะนี้เลขานุการของวรปรัชญ์จองไว้เพื่อจะมาพบปะพูดคุยกับเธอ ทักเธอถูกคนแบบนี้น่าจะเป็นคนของนายจ้างแน่ๆ คิดได้ดังนั้น กวิสราก็ยิ้มเยือนให้เขา รอยยิ้มนั้นทรงเสน่ห์และกระตุกหัวใจคนมองยิ่งนัก ชายหนุ่มหรี่ตาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที เมื่อได้พินิจใบหน้าสวยเย้ายวนของอีกฝ่ายเต็มตา

‘แบบนี้สิ ที่จะทำให้ไอ้ไก่อ่อนนั่น หลงใหลจนหัวปักหัวปำ หึๆ”

“ไม่ทราบว่าคุณวรปรัชญ์ส่งคุณมาหรือเปล่าคะ แล้วเธออยู่ที่ไหน หรือว่าดิฉันต้องรออีก”

“ผมนี่แหละครับวรปรัชญ์”

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ขณะที่คนฟังทำตาโตอย่างตกใจ คาดไม่ถึงที่นายจ้างของเธอเป็นผู้ชาย!

“คุณกวิสรา ปองทิวาใช่ไหมครับ สวยมาก มีเสน่ห์อย่างที่มีคนบอกไว้จริงๆ ต้องแบบนี้สิถึงจะคุ้มกับเงินที่ลงทุน ไปคุยรายละเอียดกันที่อื่นดีกว่าครับ งานของเราต้องการที่ลับเฉพาะหน่อย ผมหวังว่าคุณคงจะตกลงทำงานให้ผมได้ ผมจ่ายไม่อั้น อาจจะเกินที่ตกลงไว้ถ้าคุณผลงานดี”

คำพูดของวรปรัชญ์ทำให้กวิสราถึงกับลืมความตกใจไปในทันที เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับพยักหน้า นัยน์ตาสวยคมเฉี่ยวกวาดมองคนตรงหน้าอย่างจะเก็บรายละเอียดของชายหนุ่มหน้าตาดีมาดนักธุรกิจ ไว้เพื่อประเมินคนที่เป็นนายจ้างของเธอ

“คุยรายละเอียดกันก็ดีเหมือนกันค่ะ ดิฉันจะได้ดูว่ามันคุ้มกันหรือเปล่า กับงานที่ต้องทำให้กับคุณ สำหรับเรื่องข้อเสนอที่ให้มา ต้องดูเนื้องานด้วยว่าต้องทำอะไรมากขนาดไหน ถ้าเกิดว่าต้องทำยากมากๆ ล่ะก็ ดิฉันก็อาจจะขอเรียกเพิ่มเติมน่ะค่ะ”

“ไม่มีปัญหาครับ”

วรปรัชญ์หรี่ตา มองสาวสวยข้างหน้าอย่างพิเคราะห์ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ใช่ประเภทมีดีแค่หน้าตาอย่างเดียวเสียแล้ว เธอยังเจ้าเล่ห์ และดูท่าทางจะเอาเรื่องเหมือนกันทีเดียว แบบนี้สิที่เขาต้องการ ไม่ใช่มีแค่หน้าตาสวยเย้ายวน หากแต่เจ้าตัวยังมีสมองและฉลาด

“เราไปคุยกันเลยดีกว่า คุณกวิสรา ผมอยากจะแจ้งรายละเอียดของงานให้คุณทราบเต็มทีแล้ว และหวังว่าคุณคงจะชอบกับข้อเสนอของผม อ้อ...ส่วนเรื่องการขอเรียกเพิ่มเติมของค่าจ้าง ต้องลองมาคุยกันดูครับ ว่าคุณจะทำให้ผมพอใจกับความฉลาดและเสน่ห์ของคุณได้มากขนาดไหน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel