บทที่ 2...ไฟรักเพลิงเสน่หา...
“ธานินทร์ คุณกีรยาเช็กอินเข้าพักหรือยัง” เควินเอ่ยถาม
ดวงตายังจับจ้องอยู่กับแฟ้มประวัติของหญิงสาวผู้ถูกถามถึงที่ พริ้นต์ออกมาอ่านมาซ้ำไปซ้ำมาเป็นครั้งที่สามที่สี่ตั้งแต่ได้รับอีเมล์จากทางนิตยสารไดมอนสตาร์ ที่เขาได้ขอรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและภาพของเธอเพิ่มมา จึงได้รับรู้ว่าเธอเป็นญาติผู้น้องของมิสซิสเฌอมาลย์(วีรากิตติ์)ลี บรรณาธิการบริหาร
ระหว่างเรียนปริญญาโทเธอมีผลงานดีเด่นสองสามชิ้นเป็นสารคดีท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมวัฒนธรรม งานสัมภาษณ์บุคคลสำคัญทางธุรกิจทางเอเชียสองรายและรายล่าสุดเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ทางกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเพิ่งเข้าทำงานเป็นนักเขียนคอลัมน์พิเศษให้แก่นิตยสารไดมอนสตาร์ที่เขาเลือกมาเป็นผู้สัมภาษณ์
“ครึ่งชั่วโมงแล้วครับ มีเพื่อนติดตามมาสองคน”
ธานนินทร์ผู้จัดการโรงแรมรับคำสั่งให้ส่งคนขับรถประจำตัวเจ้านายไปรับ กีรยา วีรากิตติ์ มาจากสนามบิน และได้รับรายงานการเข้าเช็กอินจากผู้ช่วยของเขาที่แจ้งว่ามีเพื่อนสาวสองคนติดตามมาด้วย
“มีเพื่อนมาด้วยหรือ ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าที่เงยขวับจากแฟ้มเอกสารเคร่งขึ้นทันที
เควินเคยได้ยินเรื่องเล่าจากเพื่อนนักธุรกิจโรงแรมอย่างเขาหลายรายเกี่ยวกับผู้ขอเข้าสัมภาษณ์ ส่วนมากจะพาเพื่อนสนิทเป็นสตรีหรือบุรุษติดตามมาด้วย เพราะรู้ว่าทางโรงแรมของพวกเขาจัดบริการฟรีทุกอย่างต้อนรับ บางรายถึงกับพาครอบครัวติดตามมาก็มี
“เพื่อนสตรีขอครับ”
“สตรี สตรีแบบไหน”
“แบบปกติครับ แต่งเนื้อแต่งตัวดีมีสไตล์และมารยาทสังคมดีเหมือนกับสตรีทั่วไป”
ผู้ถูกถามอมยิ้มกับคำตอบของตัวเอง พลางมองหน้าคนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ ดูเจ้านายจะสนใจคุณกีรยาเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะจัดที่พักพิเศษเป็นบ้านรีสอร์ตรับรองไว้แล้ว ยังสั่งให้คนขับประจำตัวนำรถวีไอพีที่จะนำออกใช้เฉพาะบุคคลสำคัญไปรับมาจากสนามบิน และสีหน้าเปลี่ยนเหมือนกับโล่งใจกับคำรายงานเกี่ยวกับเพื่อนสตรีที่ติดตามมา
“พูดอย่างกับตาเห็นเชียวนะ” ผู้กล่าวเริ่มยิ้มออก
“มิได้ครับเจ้านาย ผมได้ข้อมูลมาจากผู้ช่วยของผมอีกที” คนตอบยอมรับหน้าตาเฉย เพราะเขาซักถามหาข้อมูลมาอย่างละเอียด
“ดีมาก” คนชมยิ้มอารมณ์ดีขึ้น
“เอ้อ...แต่คุณกีรยาปฏิเสธจะรับบริการฟรีจากทางโรงแรมครับ บอกว่ามีเพื่อนเดินทางมาร่วมเข้าพักอีกสองคนจึงขอจ่ายค่าที่พักและอาหารเองตามปกติ” ธานินทร์รายงาน
เขาเองก็แปลกใจไม่ต่างจากสีหน้าของคนฟังเพราะปกติไม่มีใครเคยเอ่ยปากปฏิเสธบริการฟรีของทางโรงแรมเหมือนหญิงสาวกลุ่มนี้
“ถ้าเธออยากอวดมั่งอวดมีก็ตามใจ” ว่าประชดประชันทั้งน้ำเสียงคำพูด ไม่พอใจที่กีรยาปฏิเสธสิ่งที่เขายินดีมอบให้ แม้เธอจะพาเพื่อนมาอีกสองคน เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะโรงแรมแห่งนี้กำลังทำเงินให้เขามากขึ้นทุกวัน
“มิได้ครับ เพื่อนของเธอที่ชื่อ บุษบากร โทณวิบุลย์ทรัพย์ ขอลงชื่อเป็นผู้เข้าพัก และแจ้งความจำนงจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง” ธานินทร์กล่าวรายงานพร้อมส่งแฟ้มเอกสารให้เจ้านายดูรายนามผู้ลงชื่อเข้าพัก
“มาเข้าพักสองคืนเองหรือ”
“ใช่ครับ คืนวันนี้กับคืนวันเสาร์ และจะเช็กเอ้าท์บ่ายวันอาทิตย์ครับ”
“อืม...ให้ผู้จัดการฝ่ายการเงินใช้โปรโมชั่นกรณีพิเศษของเราลดค่าใช้จ่ายให้สามสิบเปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน”
“ได้ครับ”
“ส่วนเรื่องการสัมภาษณ์ ถ้าคุณกีรยาสอบถามมา ก็บอกว่าผมจะแจ้งวันเวลาให้ทราบอีกที”
เควินจบการสนทนาด้วยการปิดแฟ้มประวัติคนขอเข้าสัมภาษณ์ แล้วเดินไปยืนมองออกทางนอกหน้าต่าง พลางคิดว่าท้องฟ้ายามพลบค่ำวันนี้ดูสีสวยกว่าทุกวัน ดวงอาทิตย์ยอแสงสีแดงส้มเสมือนภาพดวงไฟกลมโตที่กำลังจมลงสู่มหานที แผ่รัศมีสุกสว่างสู่ท้องฟ้าและท้องน้ำเป็นสีเดียวกัน
เควินนึกเห็นใบหน้าหญิงสาวสวยนาม กีรยา วีรากิตติ์ ปรากฏเด่นชัดขึ้นในใจ เขาไม่เคยติดตาตรึงใจผู้หญิงคนใดเท่าผู้หญิงคนนี้ แม้ได้เห็นเพียงภาพถ่ายก็หลงใหลได้ปลื้มไม่อาจลืมเลือน เธอเป็นเสมือนดอกไม้งามอุดมน้ำหวานโอชะยั่วตายั่วใจให้หมู่ภมรลิ้มลอง และเขาก็เป็นภมรหนุ่มผู้ต้องการลิ้มรสหวานอันยั่วยวนชวนซ่านใจนั้น