Ep.4 ดั่งนางฟ้ากับทาซาน
โยลดาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความมืดก็มาเยือนแล้ว มีเพียงแสงไฟจากที่ไหนสักแห่งสาดส่องมาถึงที่เธอนอนอยู่
ร่างเล็กค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อมองสำรวจไปโดยรอบ
“ที่นี่ที่ไหน เรามาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย”
“ที่นี่คือถ้ำ” คำตอบจากทางด้านข้างทำให้หญิงสาวรีบหันขวับไปมอง ก็เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงามที่สุดทันที
“ทาร์ซาน! คุณคือคนป่าเหรอ” หญิงสาวมองอย่างระแวงระไวระคนตื่นเต้น เขาตัวโตมาก ผมยาวเคลียบ่า ผิวสีแทน สวมชุดคล้ายทาร์ซานที่เคยเห็นในภาพยนตร์ เขาอาจจะเป็นคนของเผ่าบารายันต์ก็ได้
แต่ความจริงก่อนที่หญิงสาวจะตื่น ไซฟานสวมชุดของคนในเมือง แต่พอมาอยู่ในถ้ำและเป็นเวลากลางคืนที่ไม่มีใครเห็น เขาก็กลับมาอยู่ในชุดสบายๆที่เคลื่อนไหวสะดวกแทน
“ใช่ ผมเป็นคนป่า เรียกผมว่าทาร์ซานก็ได้”
แล้วโยลดาก็พยายามนึก ว่าเมื่อตอนกลางวันเธอเจออะไรมา แล้วก็คิดว่าระหว่างเสือกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้อย่างไหนน่ากลัวกว่ากัน
“ฉันจำได้ว่า ฉันเกือบโดนเสือขย้ำ”
“ใช่ ถ้าผมไปช่วยคุณไม่ทัน คุณคงเหลือแค่เศษกระดูก” เขาบอกไปตามตรง ทำเอาหญิงสาวรู้สึกสยองจนขนลุกขนพองเมื่อนึกไปถึงวินาทีนั้น วินาทีที่เจ้าเสือตัวใหญ่กำลังกระโจนเข้ามาหาเธอ
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน” อย่างน้อยการที่เขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้ เขาก็น่าจะเป็นคนดีมีน้ำใจ น่าจะไว้ใจได้
“คุณคงเป็นคนในเมือง”
“ค่ะ ฉันมาจากกรุงเทพฯ แต่ว่าคุณพูดภาษาของเราได้ คุณเป็นคนป่าจริงๆเหรอคะ”
“ผมว่าคุณอย่าถามมากเลย นอนพักผ่อนดีกว่า ตอนเช้าผมจะไปส่งคุณกลับ”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้โยลดาค่อยคลายใจลงหน่อย เขาบอกว่าตอนเช้าเขาจะไปส่งเธอ ก็แสดงว่าเขามีน้ำใจจริงๆ เธอควรไว้ใจเขาใช่ไหม แต่ค่ำคืนในถ้ำ บรรยากาศแบบนี้มันน่าไว้ใจเหรอ แต่เธอไม่มีทางเลือกแล้วนี่
จะออกไปไหนยามค่ำคืนก็คงไม่ได้ เพราะพวกสัตว์ที่มีพิษภัยคงกำลังออกหากินกัน
“ขอบคุณมากค่ะ แต่ว่าฉันรู้สึกเหนียวตัวจัง ขอฉันล้างหน้าเช็ดตัวหน่อยได้ไหม คุณพอมีน้ำหรือเปล่า” คนหน้าตามอมแมมหันมาถาม ไซฟานมองใบหน้าที่ดูไม่ออกว่าหล่อนหน้าตาเป็นเช่นไรก็พยักหน้าให้ แล้วเดินไปหยิบถุงน้ำที่ทำด้วยหนังยื่นมาให้
“เป็นน้ำสะอาดในลำธาร ใช้ดื่มด้วยก็ได้” เขาบอก เผื่อว่าหล่อนจะหิวน้ำ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับไป แล้วเดินออกไปในทิศทางตรงข้ามกับเขา แล้วก็จำได้ว่า ตอนที่เธอหกล้มตอนกลางวัน เธอเจ็บข้อเท้าจนลุกไม่ขึ้น แต่ตอนนี้เดินได้เป็นปกติแล้ว หรือว่าเขาช่วยเธองั้นเหรอ โยลดานึกแปลกใจแต่ก็เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ เธอล้างหน้าล้างตา เพราะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะจนคันยิบๆ
เมื่อหญิงสาวเดินกลับมาอีกครั้ง ด้วยใบหน้าที่ล้างจนสะอาดใส ก็ทำให้ไซฟานตะลึงมองจนตาค้างทีเดียว
‘นางไม้ เธอสวยเหมือนนางไม้’ ในใจคนคิดเริ่มเต้นแรง ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้ามอมแมมจะซ่อนความงามเอาไว้เช่นนี้ แม้แต่แปยีที่เขาคิดว่าหล่อนสวยที่สุดในเผ่า ก็ยังไม่เทียบเท่าแม่สาวชาวเมืองคนนี้เลย
โยลดาเมื่อรู้ตัวว่าถูกจ้องมอง ก็ออกอาการขัดเขินบ้างเหมือนกัน ในเมื่อรูปร่างหน้าตาของคนป่าตรงหน้า ก็ดูมีเสน่ห์พาใจให้หวามไหว ชายหนุ่มเหมือนกับกระโจนออกมาจากปกนิยายแปลก็ไม่ปาน
หล่อล่ำ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หน้าท้องเป็นลอนสวยไร้ไขมันส่วนเกิน ช่างมีรูปร่างที่ขยี้ใจสาวๆเหลือเกิน
“คุณหิวไหม” เพราะหญิงสาวเพิ่งตื่นยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง หล่อนน่าจะหิว
“ฉันเริ่มรู้สึกหิวเหมือนกันค่ะ” ไม่หิวได้ยังไง ในเมื่อตอนกลางวันเธอกินขนมปังไปแค่ห่อเดียว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรนอกจากน้ำเปล่าในถุงนี่
เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินไปหยิบย่ามที่เขาสะพายมา แล้วล้วงดูข้างใน หยิบห่อข้าวที่ห่อด้วยใบตองออกมายื่นให้ ห่อหนึ่ง
“อะไรคะ”
“เปิดดูสิ คุณน่าจะกินได้”
หญิงสาวเปิดออก มันคือข้าวเหนียวหมูแดดเดียวย่าง ช่างน่ากินอะไรแบบนี้ นาทีนี้เธอหิวเสียจนจะกินช้างเข้าไปได้ทั้งตัว กับข้าวธรรมดาๆแบบนี้กลายเป็นอาหารเลิศรสไปเลย
“อร่อยมากค่ะ” พอกินเข้าไปคำแรกก็น้ำลายแตกฟอง คำต่อๆมาจึงถูกกลืนลงท้องอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณมากนะคะ หมดเกลี้ยงเลย”
“เอาอีกห่อไหม” เขาถามอย่างมีน้ำใจ
“ไม่ดีกว่าค่ะ อยู่ในป่าแบบนี้ควรประหยัดของกินของใช้”
“คุณชื่ออะไร” เขาถามเสียงเรียบ
“โยลดา เรียกฉันว่ายาโยก็ได้ค่ะ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร”
“เรียกผมว่าไซฟาน”