EP 4
ครั้นทุกอย่างจะดีขึ้นพี่ชายที่ห่วงแม่แต่มาดูแลด้วยตัวเองไม่ได้เพราะงานข้าราชการไม่เอื้ออำนวยเหมือนเขาที่ดูแลกิจการทุกอย่างในอิตาลีก็มาด่วนจากไปอีกคน
แม่เขาแทบจะตายให้ได้เมื่อรู้ข่าว และแทนที่เขาจะต้องดูแลแค่แม่เพียงคนเดียว กลับต้องมีพี่สะใภ้ที่ยังคงช็อกกับการจากไปของสามีอีก หลานชายที่คาดว่าจะช่วยอะไรได้ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
เมื่อเด็กอายุเพียงสิบแปดปีต้องเสียพ่ออันเป็นที่รักไปแบบไม่ได้สั่งลา เลยกลับกลายเป็นว่าเขาต้องเป็นเสาหลักที่เข้มแข็งให้ทุกคนทั้งทางด้านกายและจิตใจนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กิจการในไทยที่พ่อเพิ่งมาเริ่มต้นเขาก็ต้องมาสานต่อ แถมจะต้องดูแลกิจการทางอิตาลีอีก ปีหนึ่งๆ เขาบินไปมาสองประเทศนับครั้งไม่ถ้วนไม่มีใครรู้ว่าเขาเหนื่อยและหวาดกลัวแค่ไหนกับการสู้เพียงคนเดียว
และไม่เคยเอาเรื่องงานมาบอกคนในบ้านเลย ดีหน่อยที่ยังมีเพื่อนๆ ของพ่อคอยช่วยคอยให้คำปรึกษาหลายคน ไม่งั้นเขาคงไม่รอดมาจนวันนี้แน่
“ไว้ผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองครับพี่ดวง รับรองว่าเจ้าราฟฟ์จะต้องแยกจากเด็กคนนั้นได้แน่นอน ผมรับรอง”
“แล้วนีลจะทำยังไงจ๊ะ”
คาดิลแลค เอสคาเลดสีดำมันวาวจอดห่างบีเอ็มดับบลิวสีขาวที่จอดตรงหน้าบ้านสวนหลายสิบเมตร เจ้าของร่างสูงใหญ่ลูกครึ่งไทยอิตาเลียนนั่งอยู่ส่วนหลังของรถ
จับจ้องไปยังสองหนุ่มสาวที่กำลังกล่าวอำลากันนานนับสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรจะต้องคุยกันนักหนา ทำให้ปลัมน์หงุดหงิดไม่น้อย เพราะนั่งรออยู่ในรถนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“คุณราฟฟ์ออกไปแล้วครับคุณนีล จะให้ผมขับไปจอดหน้าบ้านเลยหรือเปล่าครับ”
อลันโซ่บอดี้การ์ดหนุ่มอิตาเลี่ยนแท้แต่พูดไทยชัดยิ่งกว่าคนไทยที่นั่งอยู่ส่วนหน้ากับคู่หูคือสามารถซึ่งเป็นทั้งบอดี้การ์ดและคนขับรถในวันนี้หันมาหาเจ้านายเพื่อขอความแน่ใจ
“ได้! แล้วเข้าไปบอกด้วยว่าผมอยากคุยด้วยครู่เดียว”
เขาหยิบแฟ้มที่อ่านมาโดยละเอียดแล้วขึ้นดูอีกครั้งหลังสั่งลูกน้องเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าจำรายละเอียดของสาวเจ้าปัญหาที่จะคุยด้วยครบถ้วน ทั้งที่รู้และเข้าใจดีแล้วตั้งแต่อ่านในรอบแรก
แค่ไม่อยากทำอะไรพลาดไปเท่านั้น เมื่อสามารถเดินมาเปิดประตูรถให้ นั่นหมายความว่าเจ้าหล่อนอนุญาตให้เขาเข้าบ้านได้แล้ว
“คุณคงรู้จักผม ถึงแม้เราจะไม่เคยพบกันแบบจังๆ เลย”
เขากวาดตามองสาวรูปร่างผอมบางตั้งแต่ปลายเท้าสวมรองเท้าแตะที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด กางเกงยีนฟอกสีซีดๆ ขาดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแถวหน้าขา เสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีขาวปล่อยชายยาวปิดสะโพก
ผมตรงดกดำยาวบางส่วนตกลงมาปิดหน้าอกแทบจะมองไม่เห็นทั้งสองข้างอย่างพินิจพิเคราะห์ เพราะเมื่อครู่เห็นในระยะไกล เขายิ่งไม่เข้าใจว่าหลานรักชอบเข้าไปได้ยังไง ไม่เห็นมีอะไรให้น่าหลงใหลสักนิด
“สวัสดีค่ะ”
พลอยหยกไม่ชอบสีหน้าท่าทางชายตรงหน้าที่มองสำรวจตัวเองเลยสักนิด แม้จะอยู่ในฐานะอาของแฟนก็ตาม แต่ยังฝืนใจบังคับยกมือขึ้นไหว้อย่างคนมีมารยาท และขัดใจนิดๆ เมื่อเห็นเขารับไหว้แบบเสียไม่ได้ แล้วมองสำรวจเข้าไปในบ้านที่อยู่ห่างจากประตูรั้วไม้เก่าๆ หลายสิบเมตร
“ผมอยากคุยธุระสำคัญด้วยสักครู่ เราพอจะมีที่คุยกันแบบส่วนตัวๆ กว่านี้หรือเปล่าครับ”
“เชิญทางนี้ก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวชี้ไปทางโต๊ะไม้เก่าๆ อย่างเสียไม่ได้ แล้วเดินนำไปยังใต้ซุ้มจันทร์กระจ่างฟ้าข้างเรือนเพาะชำมีกระถางกล้วยไม้นับร้อยห้อยอยู่ ใจก็ภาวนาให้ธุระของเขาจบสิ้นก่อนแม่กับตาจะออกจากสวนมาเห็น
เพราะไม่ใช่แค่ญาติแฟนหนุ่มเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องรักต่างชั้นวรรณะนี้ หากแต่แม่กับตาก็ด้วยที่ไม่อยากให้เธอต้องถูกอีกฝ่ายดูถูกด้วยสายตาอย่างที่อาของเขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
“ผมขอสั้นๆ ตรงๆ และได้ใจความนะ เรื่องคุณกับนายราฟฟ์”
พลอยหยกมองชายหนุ่มกับการแต่งกายในสูทสีเข้มพิถีพิถันเกินกว่าจะมาพบลูกสาวชาวสวนอย่างเธอเพียงเท่านั้น ถ้าให้เดาเขาก็คงจะไปงานสังคมที่ไหนสักแห่งต่อ
หรืออาจจะเป็นงานเดียวกับที่แฟนหนุ่มบอกว่าต้องไปกับแม่เมื่อครู่นี้ก็เป็นได้ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากรอฟังจากเขาเท่านั้น
“หนึ่งล้านบาท สำหรับการเดินจากชีวิตนายราฟฟ์ คุณคิดว่ายังไง”
ปกติแล้วปลัมน์จะเป็นคนมีชั้นเชิงมากกว่านี้ แต่สำหรับสาวเซอร์แถมจืดชืดตรงหน้าเขาคิดว่าการเอ่ยตรงๆ จะรวบรัดมากกว่า แล้วเขาก็เห็นแววตาเกรี้ยวโกรธที่จ้องมองมาหาอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน
นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาแปลกใจอยู่แล้ว เป็นใครก็คงต้องโกรธถ้าถูกเอาเงินมาฟาดหัว แต่เขาไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงคนไหนชนะเงินไปได้ เพียงแต่จะรีบตะครุบทันทีหรือฉกแบบมีชั้นเชิงเท่านั้น
“อะไรคือเหตุผลที่ฉันจะต้องเดินออกจากชีวิตผู้ชายที่ฉันรักด้วยล่ะคะ”
พลอยหยกหมดสิ้นความนับถืออันน้อยนิดที่มีในตัวอาของแฟนทันที เลยส่งเสียงแข็งกลับไปอย่างไม่เกรงใจอีกต่อไปแล้ว “เงินไง หนึ่งล้านไม่ใช่น้อยๆ นะ”
“ฉันไม่เคยตีค่าความรักเป็นเงินทองที่ใครๆ จะเอามาซื้อ จะมาสั่งให้ฉันรักหรือไม่รักใครได้”
“ถ้าประเด็นนั้นทำให้คุณรู้สึกถูกลดค่า งั้นเรามาคุยกันในแง่ที่ว่าถ้าคุณรักเขาจริง คุณต้องอยากเห็นชีวิตเขาไปได้ไกลมากกว่านี้ เอกอัครราชทูตคืออาชีพของเขาที่พวกเราทุกคนหวังเอาไว้รวมทั้งพ่อของเขาที่ตายไปแล้วด้วย จะว่าไปก็รวมไปถึงพ่อผมที่ตายไปแล้วด้วยเหมือนกัน คุณคงไม่อยากให้วิญญาณของคนที่ราฟฟ์รักทั้งสองคนเป็นทุกข์หรอกนะ”