ตอนที่7 พิสูจน์
สเต็กเนื้อชั้นดีถูกวางลงจานอย่างน่ากิน เป็นอาหารที่เหมาะกับไวน์ชั้นดีที่เข้ากันเหมือนเธอกับเขา
“น่ากินจังเลยค่ะ” ไม่ได้อวย แต่มันน่ากินจริง ๆ
ตอนเขาทำมองบ้างไม่มองบ้าง เพราะส่วนใหญ่สายตาโฟกัสแต่ร่างกายแกร่ง
พอได้มองอาหารชัด ๆ ถึงได้รู้ว่ามันน่ากินมาก ๆ
“งั้นก็กินสิ ดูว่าถูกปากหรือเปล่า”
“ไม่เกรงใจแล้วนะ” จับส้อมจิ้มเนื้อที่ถูกคนใส่ใจหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำนำเข้าปาก
“เป็นไง” ถามพร้อมกับมองริมฝีปากอวบอิ่มขณะเคลื่อนไหว
ดึงดูดเป็นบ้า
“อื้ม! อร่อยมาก!!” อร่อยจริงไม่ได้โกหก “เนื้อนุ่มด้วย”
บ้าไปแล้ว!
หล่อขนาดนี้ รวยขนาดนี้ แล้วยังทำอาหารเก่งอีก
นี่มันครบเครื่องครบสูตรพ่อบ้านในอุดมคติของเธอเลยนะ
พ่อบ้านที่หมายถึงพ่อของลูกนั่นแหละ
“พี่เพลิงทำอาหารเก่งจังเลยค่ะ” ชมออกไปด้วยความจริงใจ “แต่เพิร์ลทำไม่ได้เรื่องเลย”
ยู่หน้าขึ้นอย่างอิจฉาคนตรงหน้า
ตอนแรกไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่พอมีคนตรงหน้ากลับอยากทำอาหารให้เขากินบ้างจัง
“พี่ทำเป็นแล้ว อยากกินเดี๋ยวทำให้เอง”
“พูดแบบนี้คิดไกลแล้วนะ” พูดแบบนี้หมายความว่าจะเป็นผัวหนูหรอคะ
หมายถึงจะทำให้หนูกินตลอดไปใช่หรือเปล่า
“คิดได้ ไกลแค่ไหนก็คิดเลย” ยิ่งไกลสุดขอบฟ้าพี่ก็ยินดี
“แล้วได้แค่คิดเองหรอ”
“นั่นก็ต้องพิสูจน์เอง” เด็กอยากเล่น พี่จะเล่นกลับ
“อยากพิสูจน์แล้วสิ” วิธีไหนน๊า อยากรู้จัง
“แน่ใจ?” น้องอย่ารีบ พี่พร้อมพุ่งอยู่แล้ว
“มีอะไรต้องไม่แน่ใจ” แน่ซะยิ่งกว่าแน่ เร็วกว่านี้ก็ไม่หวั่น
แล้วนับอะไรกับตอนนี้ที่เต็มใจมากค่ะ
“พูดเองนะ” ทั้งที่ทุกคำทุกประโยคไม่มีอันไหนบอกและสื่อความหมายชัดเจนเลย
แต่กลายเป็นว่าเขากับเธอคุยเรื่องเดียวกัน พูดโดยไม่ต้องเจาะจงก็เข้าใจกันได้ตรงประเด็น
ก็อย่างว่า เด็กมันห้าว
“.....” กระตุกไหล่ให้คนหล่อหนึ่งกรุบ ก่อนจะเคี้ยวเนื้อนุ่มในปากอย่างมีความสุข
เนื้อหนึ่งคำ ไวน์สองคำ
สลับกันไปแบบนั้นเรื่อย ๆ กว่าเนื้อจะหมดจาน ไวน์หมดขวดพอดี
เพลิงไม่มีทางเมากับปริมาณแอลกอฮอล์แค่นี้
ส่วนเพิร์ลมึนไปไม่น้อย แต่ก็มีสติรับรู้ทุกอย่าง
เอนหัวพิงอกแกร่งพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายหอมยั่วเหมือนเจ้าตัว กลายเป็นหลงใหลกลิ่นของเขาไปด้วยอีกอย่าง
พูดให้มากความทำไม บอกให้คนอื่นรู้ไปเลยว่าเธอหลงเขาทุกอย่าง หลงทุกอย่างที่เป็นเขา
จบ!
“มึนหัวจัง” พูดเสียงอู้อี้กับอกแกร่ง แต่นิ้วกลับอยู่ไม่นิ่งปัดป่ายวนเวียนอยู่แถวอกแน่น ปัดผ่านเม็ดนูดเล็กที่แข็งดันเสื้อ
“อย่าซน” อย่าซนแต่ไม่ดันมือเธอออก ปล่อยให้เด็กมันสำรวจร่างกายของเขาต่อไป
ถึงเวลาเดี๋ยวพี่ตรวจคืนถึงภายในแน่
“ซนแบบไหนหรอ” เงยหน้าขึ้นถาม
“.....” ก้มมองเธอจนลมหายใจเป่ารดกัน
“หล่อจัง” ไม่อายจะพูดหรือชม ยกมือไปลูบหน้าของเขาแทน
คิ้ว ตา จมูก ริมฝีปาก
เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว
เพอร์เฟกอะไรขนาดนั้นพ่อคุ๊ณ
“ชอบไหมล่ะ” เลิกคิ้วถามเสียงพร่า ปล่อยให้เธอมองอย่างเคลิบเคลิ้มต่อไป
มือเขาเองก็เริ่มตอบรับสัมผัสของเธอด้วยการสัมผัสกลับคืน
ลูบแผ่นหลังบางเล่นแผ่วเบา วนเวียนอยู่แบบนั้นให้อีกฝ่ายสยิวเสียว
“มากว่าชอบอีก”
“หมายถึง?” ไม่รู้จริง ๆ พี่มันใสซื่อให้น้องหลอกล่ออยู่นี่ไง
“รักได้ไหมล่ะ” ยังไม่บอก แต่ลองถามดูก่อน
“ได้หมดถ้าเป็นเพิร์ล”
“งั้นรักนะ”
“อันนี้ขอหรือบอก” ยกยิ้มกริ่มย้อนกลับไป
ดูคนยิ้มติดเขินสวนทางกับการแสดงออกอย่างสิ้นเชิง
เด็กนี่มันแปลกดี
น่าสนไม่น้อยเลย
ทำเอาเขาสนุกกับการหยอกแหย่จนถึงตอนนี้ไม่รู้เบื่อ
“บอก” ใคร่ครวญนิดหน่อย สุดท้ายก็ตอบกลับไป
ตอนพูดน่ะขอ
แต่ประโยคที่ออกมาแบบนั้น เขาถามอย่างนั้น
ก็ได้ ถือว่าบอกไปเลยแล้วกัน
“รักพี่ไม่ง่ายนะจะให้เลิกรัก”
“บังคับได้หรอ”
“ได้”
“ยังไงหรอ”
“กักขัง หน่วงเหนี่ยว”
“แบบนี้ต้องใช้โซ่แส้กุญแจมือไหม”
“หึ!” เด็กนี่มันได้
ถามอย่างใสซื่อ แต่ดูสิ่งที่ออกจากปาก
“ครบ” หาได้ จะจัดให้ครบเซ็ทชุดใหญ่เลย
“อยากถูกขังจัง” พูดเฉยได้ที่ไหน มือเลื้อยอีกแล้ว
สะกิดหยอกหัวนมของเขาเล่นอย่างไม่เกรงใจ ยิ่งแข็งก็ยิ่งหยอกแหย่
“เดี๋ยวเขี่ยคืนนะ” ที่พูดนี่คือบอกให้เตรียมตัว บอกให้เตรียมใจ
แม้จะรู้ว่าเด็กมันเตรียมตัวมาดีนานแล้วก็ตาม
“หรอ” ลากเสียงหรอเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ท้าทายอยู่ค่ะ
เขี่ยคืนสิ
รีบเขี่ยเลย
“คิดว่าไม่กล้า?” ถามไปงั้น รู้ว่าเด็กกำลังท้าอยู่
“ไม่ได้คิดอะไรเลย” เสียงสูงปฏิเสธ มือสลับไปหยอกอีกฝั่งตาใสสวนทางการกระทำมาก
หมับ!