บทที่ 2
ทั้งสี่วิ่งไปตามอุโมงค์ทอดยาวเพื่อหลบหนีออกจากคฤหาสน์ โดยที่ไม่รู้เลยว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากเสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ที่ต่อให้ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่พวกเขาก็พอจะรู้ว่าตอนนี้คฤหาสน์ตระกูลหวังที่อยู่ข้างบน คงโดนระเบิดทำลายจนราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว
“โอ๊ย!”
ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบที่ถูกมารดาจับจูงมาตลอดทางสะดุดล้มลงกับพื้นขรุขระ เป็นเหตุให้หัวเข่าครูดไปกับพื้นจนเกิดรอยถลอกมีเลือดไหลซิบออกมาจากปากแผล
นายหญิงตระกูลหลานรีบก้มตัวพยุงบุตรสาวของตนเองขึ้น ทำให้เทียนเหิงต้องชะลอฝีเท้าลงเพื่อวกกลับมาช่วยเหลือทั้งคู่ ทว่าเสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งที่วิ่งตามมาติดๆ จากทางด้านหลัง แม้จะอยู่ในระยะที่ไกลพอสมควร หากแต่มันก็ได้ยินถึงกัน และยิ่งสร้างความกังวลให้มือขวาอย่างเขาเป็นอย่างมาก
“รีบลุกขึ้นเร็วอาหลิง พวกมันตามมาแล้ว”
“ให้อาหลิงขี่หลังผมดีกว่าครับ” หวังเล่อที่มีสภาพมอมแมมต่างไปจากเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเอ่ยขึ้น ทั้งที่ดวงตาคมกริบยังมีคราบน้ำตาเอ่อคลออยู่
“เร็วเข้าอาหลิง!”
เมื่อถูกมารดาเร่งรัด เด็กหญิงรูปร่างผอมบางก็รีบตะกายขึ้นขี่หลังของพี่ชายตรงหน้าอย่างว่าง่าย ถึงแม้ว่าตนเองจะอยากจับมือกับผู้เป็นแม่ เพราะกลัวว่าความตายจะเข้ามาพรากทั้งคู่ออกจากกันก็ตาม
นายหญิงตระกูลหลานดึงชายกระโปรงของตนขึ้น เผยให้เห็นปืนสีดำขลับกระบอกหนึ่งซ่อนอยู่ เจ้าของมือขาวละเอียดไม่รอช้ารีบคว้ามันออกมาถือไว้อย่างเตรียมพร้อม เนื่องจากสามีเคยสั่งให้เธอเรียนยิงปืนมาก่อน และเจ้าตัวก็มั่นใจว่าตนเองสามารถทำได้
“เทียนเหิง ฉันฝากอาหลิงด้วย”
“นี่คุณนายหลานจะ…” เทียนเหิงทำท่าจะห้ามปรามอีกฝ่าย แต่กลับถูกหญิงสาวตรงหน้ายื้อแย่งระเบิดไปจากตนเสียก่อน “แต่นายท่านหลานสั่งให้ผมดูแลคุณนายกับคุณหนูนะครับ”
“ฉันกับลูกจะเป็นภาระเปล่าๆ ถ้าฉันถ่วงเวลาพวกมันอยู่ที่นี่ แล้วใช้ระเบิดปิดทางซะอย่าง พวกมันก็ตามออกไปไม่ได้แล้ว” นายหญิงหลานกล่าวด้วยวาจาหนักแน่น เนื่องจากตนเองได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องช่วยทุกคนออกไปจากที่นี่ให้ได้
ใบหน้างดงามและอ่อนเยาว์เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา มือขาวละเอียดยื่นออกไปสัมผัสกับใบหน้าของบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนอย่างรักใคร่ และเอ่ยฝากฝังหลานหลิงกับทั้งคู่อีกครั้ง
“ฝากลูกสาวของฉันด้วยนะเทียนเหิง ฝากน้องด้วยนะอาเล่อ”
เทียนเหิงที่มีภาระอันยิ่งใหญ่ในการปกป้องดูแลหวังเล่ออยู่บนบ่าไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ อีกทั้งเขายังต้องให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมาเสียสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือตนเองอีก หากเขายังไม่ยอมตกปากรับคำของนายหญิงหลาน ชีวิตนี้ก็คงจะเกิดมาได้เสียชาติเกิดเต็มที
“ผมจะปกป้องและเคารพคุณหนูหลานหลิงเหมือนเป็นนายของผมอีกคนครับ”
คำสัญญาที่เทียนเหิงให้ไว้ทำให้ผู้ฟังคลายความกังวลลง ก่อนจะปิดตาแน่นเพื่อฟังเสียงร้องเรียกตนเองจากบุตรสาวเป็นครั้งสุดท้ายอย่างเจ็บปวดใจ
เทียนเหิงพาหวังเล่อที่บนหลังมีหลานหลิงทั้งร้องทั้งดิ้นวิ่งต่อไปตามทางคับแคบอย่างไม่คิดจะหยุดพัก ในขณะที่นายหญิงหลานกลับถือระเบิดมุ่งหน้าเข้าหาศัตรูอย่างกล้าหาญโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
ตู้มม~
ไม่นานเสียงระเบิดก็ดังขึ้น พร้อมกันกับที่แรงอัดของมันได้ผลักดันให้สามร่างออกมาถึงปลายทางด้วยสภาพสะบักสะบอมเกินเยียวยาในระยะเวลาสั้นๆ
บาดแผลจากแรงระเบิดส่งผลให้ร่างกายของเทียนเหิงที่ใช้ตัวเองรับแรงกระแทกแทนเด็กทั้งสองเอาไว้เกิดบาดแผลเหวอะหวะไปทั่วทั้งตัว หากแต่เขาก็ยังคงฝืนร่างกายของตนเองลุกขึ้นยืน และเข้าไปประคองหวังเล่อ ก่อนจะอุ้มร่างสลบไสลของหลานหลิงขึ้นมาพาดบ่า
“อดทนไว้ก่อนเถอะครับ คุณชายรอง”
เสียงแหบพร่าของเทียนเหิงส่งผลให้ดวงตาที่แทบจะปิดของหวังเล่อพยายามปรือตามองขึ้นมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะกัดฟันเดินออกไปพร้อมกับมือขวาคนสนิทของบิดาเพื่อหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้…
.....