บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน ราชิตตัดสินใจอยู่ที่บริษัทต่อพร้อมกับจิณวัฒน์ โดยมีษริสาที่ยืนยันว่าจะอยู่ช่วยงานเขากับเลขาในการเจรจากับลูกค้าที่สิงคโปร์เรื่องการส่งออกวัสดุก่อสร้าง และการนัดดูรายละเอียดของงานก่อนการลงมือก่อสร้างสำนักงานใหม่อย่างเป็นทางการของเอ็มซีออฟฟิศ บริษัทลูกของตระกูลเฉิน ภายใต้การบริหารงานของคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างเฉินหยงหมิน

เมื่อหลายเดือนก่อนราชิตให้เมฆาตรวจสอบประวัติของอีกฝ่ายแบบละเอียดยิบไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องผู้หญิง ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ลูกชายเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่แห่งเกาะฮ่องกงบุกเข้าไปภายในหอพักหญิงของมหาวิทยาลัยในอังกฤษยามวิกาล แต่กลับถูกฝ่ายหญิงจัดการเสียน่วมถึงขั้นกระดูกแขนร้าว กระดูกขาเคลื่อน ใบหน้าฟกช้ำจนดูไม่ได้อยู่เกือบเดือนโดยไม่คิดจะแก้แค้นเลยสักนิด

...นี่มันผิดวิสัยของคนตระกูลเฉินสุดๆ

“จิน”

“ครับเฮีย”

“ไอ้เมฆมันรู้หรือยังว่าผู้หญิงของเฉินหยงหมินคือใคร” เขาถามคำถามที่ค้างคาใจออกไป แต่ลูกน้องที่สนิทสนมกันราวกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ กลับมีท่าทางแปลกไปจากเดิม แถมยังยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่เริ่มไหลออกมาตามไรผม ทั้งที่อากาศภายในห้องนี้แทบจะมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับตู้แช่เย็นอยู่แล้ว “ว่ายังไง”

“อ่ะ เอ่อ… พี่เมฆบอกผมมาได้สักพักแล้วล่ะครับ” จิณวัฒน์สารภาพ ขณะที่แผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วใส่เป็นเชิงถาม แล้วเอ่ยขึ้น “แล้วทำไมแกถึงไม่บอกเฮีย”

“ผมว่าจะหาโอกาสบอกอยู่พอดีครับ”

“แล้วสรุปว่าผู้หญิงของไอ้หยงหมินเป็นใครกันแน่ ลูกเจ้าพ่อหรือมาเฟียที่ไหน เมฆมันสืบมาละเอียดดีแล้วใช่ไหม ว่าเป็นคนนี้แน่ๆ เรายังต้องใช้ประโยชน์จากไอ้หยงหมินอีกเยอะ อย่าให้พลาด” ราชิตถามพลางกำชับคู่สนทนาไปด้วย

“เฮียคิดจะทำอะไรครับ”

“ถามแปลก ก็หาทางเข้าถึงตัวไอ้หยงหมินผ่านทางผู้หญิงคนนั้นน่ะสิ” ร่างสูงโปร่งที่นั่งผ่อนคลายอยู่บนเก้าอี้หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อรอเวลาต่อสายวิดีโอคอลคุยกับเฉินหยงหมินเอ่ยขึ้น “มันไม่กล้าลงมือทำอะไรผู้หญิงคนนั้น แถมยังปล่อยให้อีกฝ่ายซัดกลับมาซะน่วม ถ้าไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็น่าจะเป็นเพราะความรักบังตาแน่ๆ”

เสียงกลั้วหัวเราะในประโยคสุดท้ายของราชิต ส่งผลให้คนฟังมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปกันใหญ่ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าถ้าอีกฝ่ายได้รู้คำตอบแล้วยังจะกล้าพูดว่ามันคือ ‘ความรัก’ อยู่ไหม

“อ่า… คงงั้นมั้งครับ”

“แล้วสรุปว่าแกจะบอกเฮียได้หรือยังว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

“ครับ เจ้หลิงครับ” จิณวัฒน์รีบพูดเร็วๆ ก่อนจะยืนนิ่งเพื่อรอดูปฏิกิริยาของคนตรงหน้า

“อาหลิงทำไมนะ”

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูหนักๆ ดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่เรือนร่างเย้ายวนของษริสาจะเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของประธานบริษัทด้วยรอยยิ้มหวานหยดที่เธอจงใจโปรยไปให้เขาเพียงคนเดียวจนเลขาหนุ่มรู้สึกได้ และตัดสินใจถอยออกไปหลบอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องอย่างโล่งใจเพื่อรอเวลาเริ่มงาน

“กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอคะ ต้องการกาแฟสักแก้วไหม” ษริสาเอ่ยถาม ขณะที่ก้าวเท้าเข้าไปหยุดอยู่ใกล้กับเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับเจ้าของห้อง

“ไม่ครับ” ราชิตตอบ และหันไปถามเลขาของตนต่อ “เอาหน่อยไหมจิน”

“ไม่ดีกว่าครับ” จิณวัฒน์รีบปฏิเสธทันควัน เพราะตอนนี้เขาไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเจ้านายสองต่อสอง และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกขอบคุณในความไม่มีกาลเทศะของผู้ช่วยเลขาเป็นอย่างมาก

หญิงสาวหนึ่งเดียวภายในห้องแสร้งระบายรอยยิ้มกว้างจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้นวมหนานุ่มตรงข้ามกับผู้ชายที่เธอหมายปองด้วยสายตาแฝงความนัย ราวกับว่าภายในห้องนี้มีเพียงเขาและเธออยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างไรอย่างนั้น

“ได้ยินมาว่าคุณเฉินคนลูกเป็นคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ น่าจะคุยง่ายกว่าคนพ่อนะคะ” เธอว่า

“แต่เฉินหยงหมินเป็นคนใจร้อน กล้าได้กล้าเสียเหมือนพ่อเขาไม่ใช่หรอ ถ้าผิดพลาดจากข้อตกลงในสัญญาเพียงนิดเดียว เขาอาจจะยกเลิกสินค้าจากเราทั้งหมดและเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าอื่นแทนก็ได้ เท่าที่ผมได้ยินมาหมอนี่กระเป๋าหนัก แถมยังหัวการค้าใช่ย่อย รอดูท่าทีกันไปก่อนจะดีกว่า”

“แหม… คุณน่ะ สนใจเรื่องของคู่ค้ารายใหม่มากกว่าเรื่องของคนใกล้ตัวอีกนะคะ” ษริสาว่าพลางทำปากคว่ำใส่เขาอย่างแง่งอน แต่กลับยื่นมือออกไปสัมผัสมือหนาของคนตรงหน้าคล้ายต้องการปลุกเร้าสัญชาตญาณความต้องการของเขาให้ตื่นตัวขึ้นมาบ้าง

“ผมต้องทำงานนะ ริสา” ราชิตปรามเสียงเข้ม

“ขอโทษค่ะ”

เมื่อตำหนิผู้ช่วยเลขาจนหน้าเสียไปเรียบร้อยแล้ว หน้าจอคอมพิวเตอร์ของราชิตก็ปรากฏสายเรียกเข้าวีดีโอคอลจากคู่ค้ารายใหม่ ที่เขากำลังรอคอยอยู่พอดี

“สวัสดีครับคุณเฉิน ผมราชิต ยินดีที่ได้พูดคุยกับคุณเฉินเป็นการส่วนตัวนะครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel