บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 พันเอกหญิงไป๋อวี้เจียว

บทที่ 1 พันเอกหญิงไป๋อวี้เจียว

แสงไฟนีออนส่องสว่างทั่วตึกสูงใหญ่ที่เป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางของกรมทหาร ณ ใจกลางมหานครปักกิ่ง ที่นี่ไม่ใช่แค่ตึกสูงธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นห้องทดลองวิจัยลับที่เรียกกันว่า Base Xซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานความมั่นคงระดับสูงของรัฐบาล เสียงเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์หลากชนิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ราวกับไม่มีใครได้หยุดพัก

“เชิญครับ ท่านพันเอกไป๋”

นายทหารหนุ่มคนหนึ่งกดปุ่มเปิดประตูห้องทดลองหลัก บานประตูไฮเทคเลื่อนเปิด ภายในห้องนั้นมีแคปซูลแก้วอยู่เรียงราย บ้างบรรจุตัวอย่างดีเอ็นเอ บ้างเก็บสารเคมีหายาก ซึ่งแต่ละแคปซูลมีราคาประเมินค่าไม่ได้ทว่าดวงตาของไป๋อวี้เจียวมิได้หันไปสนใจสิ่งเหล่านั้นมากนัก เธอกลับจับจ้องไปที่แคปซูลสีเงินใบหนึ่ง ซึ่งมีสติ๊กเกอร์ข้อความกำกับไว้ว่า The Eternal-L Project หรือชื่อที่คนทั่วไปเรียกกันว่า โปรเจคยาอายุวัฒนะ ที่เธอนั้นเป็นผู้อำนวยการดูแลโปรเจคนี้ตั้งแต่แรกจนกระทั่งตอนนี้

ไป๋อวี้เจียวสาวเท้าเข้าไปหยุดตรงหน้าแคปซูลนั้น สัมผัสกับผิวโลหะเย็นเฉียบอย่างทะนุถนอม ดวงตาสีดำสนิทฉายแววคมกล้าและท้าทาย

“ในที่สุด ฉันก็ทำสำเร็จ…” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังพูดคุยกับตนเอง

พันเอกหญิงไป๋อวี้เจียว มีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นอัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ผู้สามารถต่อยอดความก้าวหน้าทางพันธุกรรม จนค้นพบสารสกัดที่สามารถยืดอายุมนุษย์ได้เป็นสองร้อยปี เธอไม่ได้เป็นเพียงแพทย์ แต่ยังเป็นอัจฉริยะด้านการวางกลยุทธ์และการเอาตัวรอดในสนามรบ การฝึกฝนในหน่วยรบพิเศษทำให้เธอเก่งกาจทั้งวิชาการต่อสู้และวิทยาการศาสตร์แขนงต่างๆ

ในโลกที่ประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยกว่าร้อยปีอยู่แล้ว การมีอายุขัยที่ยาวนานถึงสองร้อยหรือมากกว่านั้น เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้ามนุษยชาติอย่างยิ่งยวด จึงไม่น่าแปลกใจที่การค้นพบครั้งนี้จะดึงดูดสายตาของ องค์กรลับและไม่ลับที่ไม่ประสงค์ดีต่อสันติภาพแต่โหยหาอำนาจและความเป็นอมตะเหนือผู้อื่น

ยิ่งไปกว่านั้น ความเฉลียวฉลาดและความทรงจำเป็นเลิศของไป๋อวี้เจียว ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามสำหรับใครหลายคนที่หวงแหนตำแหน่งและอำนาจ เธอจึงเป็นที่อิจฉาและยกย่องในคราเดียวกันหลายครั้งที่เธอนั้นรับรู้ว่าพวกเขาพูดถึงเธออย่างไร

“เธอจะมีประโยชน์กว่านี้ ถ้าเราควบคุมเธอได้และงานวิจัยทั้งหมดของเธอก็จะตกเป็นของพวกเขา”

เสียงซุบซิบเหล่านั้นเล็ดลอดเข้ามาในหูเธออยู่เสมอ เธอรับรู้ดีแต่ก็ไม่เคยเผยท่าทีหวาดกลัว ยังคงก้าวเดินอย่างมั่นใจในเส้นทางที่ตนเลือก

“เช็คระบบตรวจวัดคลื่นสมองเรียบร้อยค่ะ ท่านพันเอก”

เสียงผู้ช่วยวิจัยดังขึ้นข้างกายไป๋อวี้เจียวเธอพยักหน้าเบาๆ ตอบรับแล้วหันไปสนทนาเล็กน้อยตรวจสอบทุกอย่างให้แน่ใจว่ายาอายุวัฒนะได้รับการเก็บรักษาในสภาวะปลอดเชื้อสมบูรณ์ เธอหวังว่าในอนาคต สิ่งนี้จะถูกใช้เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ทั่วโลกไม่ใช่ถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือการสงคราม

ขณะนั้นเอง แสงไฟในห้องก็กะพริบวูบวาบโดยไม่ทราบสาเหตุ เสียงสัญญาณเตือนภัย พลันแผดดังลั่น

“บุคคลไม่ได้รับอนุญาตบุกรุก! บุคคลไม่ได้รับอนุญาตบุกรุก!”

“เกิดอะไรขึ้น!”

ไป๋อวี้เจียวขมวดคิ้ว เธอล้วงหยิบปืนพกประจำตัวขึ้นมาเตรียมพร้อม ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังปังๆๆ ตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน

“มีศัตรูบุกเข้ามาใน Base X!”

นายทหารคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงาน เลือดโชกเต็มแขน

“พวกมันใช้เกราะล่องหน และอาวุธพลาสม่า แถมยังมีบางคนใช้ระเบิดคลื่น EMP เพื่อปลดระบบรักษาความปลอดภัย!”

สถานการณ์กลายเป็นสงครามขนาดย่อมในห้องทดลองลับแห่งนี้ในชั่วพริบตา ไป๋อวี้เจียวตาเบิกกว้าง เข้าใจทันทีว่าศัตรูต้องการอะไร “ตัวยาและสูตรอายุวัฒนะ” แน่นอน

เธอสั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่ปิดผนึกห้องทดลองแผนกอื่น และรีบอพยพนักวิจัยที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่

“ไม่ต้องห่วงฉัน ออกไปให้พ้นที่นี่ เร็ว!”

เธอตะโกนสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด พลางยิงตอบโต้ผู้บุกรุกที่ค่อยๆ บุกเข้ามาใกล้

“เป้าหมายอยู่ตรงนั้น!”

เสียงทุ้มเย็นของชายใส่ชุดเกราะสีดำสนิทดังสะท้อนในโถงทางเดิน ควันสีกำมะถันลอยกรุ่นตามร่องเพดาน

“จับเป็นหรือตายก็ได้ แต่ The Eternal-L Project ต้องเอามาให้ได้!”

ไป๋อวี้เจียวรับฟังแล้วริมฝีปากเม้มสนิทเธอพยายามสงบสติ เพราะรู้ดีว่าความลังเลหรือหวาดกลัวเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้สถานการณ์พังทลายลงได้

เสียงปืนกลและระเบิดพลาสม่าดังอื้ออึงไปทั่ว ใครบางคนปาแก๊สน้ำตาเข้าไปในห้อง เธอจึงคว้าหน้ากากกันแก๊สขึ้นมาสวมแบบฉับพลันทันใด ฉับพลันเธอพุ่งไปกดระเบิดเวลาเล็กๆ ที่เธอแอบติดตั้งเอาไว้ในแคบซูลของ The Eternal-L Project ซึ่งตอนที่ทำเธอได้แต่หวังว่าจะไม่จำเป็นต้องใช้มัน..แต่ทว่าคำอธิษฐานของเธอนั้นคงจะไปไม่ถึงสวรรค์ เพราะว่าในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องใช้มันจริงๆ จากนั้นไป๋อวี้เจียวก็เร่งฝีเท้าวิ่งหลบไปทางเส้นทางลับที่เชื่อมต่อไปยังสุสานโบราณด้านหลัง Base X

สุสานโบราณแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ร้างที่ถูกดัดแปลงเป็นที่ฝึกทหารใต้ดินหลายสิบปีก่อน แต่ปัจจุบันแทบไร้คนใช้ ประตูทางเข้าเชื่อมกับ Base X ผ่านอุโมงค์ลับซึ่งมีเพียงไม่กี่คนในค่ายทหารที่รู้ เธอเลือกหนีไปทางนี้เพราะรู้ว่าศัตรูน่าจะไม่คาดคิด หรืออย่างน้อยที่สุดก็ยังไม่รู้ตำแหน่งทางเข้าแน่นอน

“หวังว่าฉันจะถ่วงเวลาให้นักวิจัยคนอื่นหนีได้หมดแล้วนะ”

เธอพึมพำกับตัวเอง ดวงตาลุกวาวมีแววเด็ดเดี่ยวเกินคำว่ากลัวและวิ่งออกไปสู่ความมืดด้านนอกที่เต็มไปด้วยป้ายวิญญาณของคนที่ถูกฝังอยู่ในสุสานที่นี่ทันที…

****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel