ตอนที่ 7 เตือนแล้วนะ
“มองหน้าฉันทำไม ไอ้ลูกเป็ด อย่าบอกนะว่าฉันสวย”
คนตัวโตถอนหายใจพรืด หันกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับเรื่องที่เธอพูดมันไร้สาระสิ้นดี
“คุณปายสวยจริงครับ แต่ผมไม่ได้มองคุณปาย ผมมองว่าคุณจะตั้งใจทำงานมากแค่ไหนต่างหาก อย่าลืมสิครับว่าผมมีหน้าที่มาทำอะไรในห้องนี้”
“นี่พี่แปงส่งนายมาเป็นผู้ช่วยฉันหรือส่งนายมาจับผิดฉันกันแน่”
“ก็ทั้งสองอย่างครับ ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนะครับคุณปาย”
“ไอ้เด็กบ้า”
“ผมไม่เด็กแล้วนะครับ ผมโตแล้วคุณปายก็รู้”
ดวงตาคมวาบขึ้นราวกับมีลูกไฟถูกจุดก่อนจะมอดดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นคนตัวบางที่จ้องตาเขาอยู่ก็ทันได้เห็น
ความประหม่าเกิดขึ้นทันทีเพราะแววตาแบบนั้นมันทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าดูหล่อเหลาอย่างร้ายกาจจนหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก
“พูดมาก จะอ่านก็เอาไปอ่านสิ ฉันจะได้เซ็นสักที”
เธอยื่นแฟ้มให้เขาอย่างกระแทกกระทั้น เมื่อเขารับไปเปิดอ่าน เธอก็โทรหาผู้ชายที่เธอเพิ่งเบี้ยวนัดไปเมื่อวาน
“ยุ่งอยู่ไหมคะวิน”
ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดทำเอาแผ่นดินชะงักสายตาที่กำลังไล่อ่านรายละเอียด สมาธิถูกทำลายทันที
“ไม่ยุ่งเลยครับ ปายมีอะไรหรือเปล่าถึงโทรหาผมแต่เช้าเลย”
มาวินขยับตัวลงจากเรือนร่างเย้ายวนหลังจากเสร็จสมหมาด ๆ เขาทิ้งตัวลงนอนหงายแล้วบังคับลมหายใจที่กำลังหอบกระเส่าให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด
“ไม่ได้ไปทำงานหรือคะ”
เธอยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา นาฬิกาเรือนหรูราคาแพงบอกว่าเวลานี้มันสายมากแล้วด้วยซ้ำ
“เอ่อ ทำสิครับ นี่ผมก็นั่งอยู่ที่บริษัท”
คาสโนว่าหนุ่มโกหกคำโต นาน ๆ ทีเขาถึงจะเข้าบริษัท ถ้าไม่โดนตามให้เข้าประชุมหรือมีงานด่วนที่เขาต้องเซ็นก็แทบไม่ย่างกรายเข้าไปเลย แม้ว่าพ่อและพี่ชายจะบ่นที่เขาไร้ความรับผิดชอบแค่ไหนก็ตาม
“ค่ะ เย็นนี้คุณว่าไหมคะ ปายจะชวนคุณไปดินเนอร์ ชดเชยที่ปายเบี้ยวนัดคุณเมื่อคืนนี้”
เขาขยับตัวขึ้นนั่งแล้วเปิดลิ้นชักข้างเตียงเพื่อหยิบขวดสีชาขนาดเล็กออกมาดู มุมปากหยักยกยิ้มด้วยใบหน้าร้ายกาจ
“ว่างสิครับ เพื่อปายผมว่างตลอดเวลา งั้นมาเจอผมที่โรงแรมเดินนะครับ ดินเนอร์เสร็จแล้วเราลงไปฟังเพลงที่คลับกันต่อ ดีไหมครับ”
“ก็ได้ค่ะ งั้นค่ำนี้เจอกันนะคะ”
“ครับปาย”
เธอกดวางสายไปก่อนจะหันมามองหน้าชายหนุ่มซึ่งเขามองเธออยู่ก่อนแล้วด้วยแววตาวาววับ
“ทำไม มองอะไร”
“คุณปายจะไปเจอเขาที่โรงแรมหรือครับ”
“ใช่ มีอะไร”
“คุณปายไม่ควรเข้าโรงแรมกับผู้ชายคนนั้น พี่ ๆ คุณก็เตือนแล้วไม่ใช่หรือ อยากท้องไม่มีพ่อหรือไงครับ”
กรามแกร่งขบกันแน่น ความกรุ่นโกรธตีวนจนแทบหลุดการควบคุม
“ฉันโตแล้ว ป้องกันเป็น เรื่องส่วนตัวของฉันนายไม่ต้องมายุ่ง ถ้าฉันท้องก็ไม่ได้ให้นายมารับเป็นพ่อ หุบปากให้สนิทแล้วตั้งใจทำงานของนายไป”
“ผมไม่ให้คุณปายเข้าโรงแรมกับเขา”
“นายเป็นแค่เลขา มีสิทธิอะไรมาสั่งห้าม ต่อให้เป็นพ่อหรือพี่ชายฉันมาสั่ง ฉันก็ไม่เชื่อ ถ้ายังอยากทำงานด้วยกันดี ๆ ก็อย่ายุ่ง”
“ผมเตือนคุณแล้วนะ คุณปาย”
“ขอบใจที่เป็นห่วง แต่นี่มันความสุขของฉัน เพราะงั้นฉันสั่งให้นายขับรถพาฉันไปแล้วนั่งรอ นายก็ทำแค่นั้น ถ้าคิดว่าหน้าที่นี้มันหนักหนาไปสำหรับนายก็แค่นอนรออยู่ที่บ้าน ฉันไปและกลับเองได้”
“ผมจะพาคุณไปเอง”
“คุณปายให้ผมพามาดินเนอร์กับคุณมาวินที่โรงแรมครับ ตอนนี้ผมนั่งแอบอยู่ที่โต๊ะมุมห้อง คุณปายไม่เห็นครับ เห็นว่าจะไปฟังเพลงต่อกับคุณมาวินด้วย คืนนี้คงกลับดึกครับคุณแปง”
แผ่นดินโทรรายงานพฤติกรรมของปราลีให้คนเป็นพี่ชายได้รับรู้ เพราะคืนนี้เจ้าตัวคงกลับดึกเลยกลัวครอบครัวของเธอจะเป็นห่วง
“อืม หมอนั่นทำรุ่มร่ามอะไรกับยัยปายหรือเปล่า”
“เท่าที่มองก็ไม่นะครับ ตอนแรกผมคิดว่าคุณปายจะเปิดโรงแรมนอนกับหมอนั่น เห็นว่าโทรนัดกันที่โรงแรม ตกใจแทบแย่”
ดวงตาคมทอดมองสาวสวยที่กำลังนั่งพูดคุยกับผู้ชายอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ที่จริงแม้ว่าเธอจะเปิดห้องนอนกับใครมันก็เป็นสิทธิของเธอ เพราะเธอโตแล้วและรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ ไม่ว่าเขาหรือใครก็ไม่มีสิทธิห้าม แต่บังเอิญว่าผู้ชายคนนั้นมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจจนครอบครัวของเธอไม่สบายใจให้คบหา เขาจึงต้องทำหน้าที่คอยติดตามและสอดส่องอยู่แบบนี้
“อืม ที่จริงต่อให้ยัยปายจะไปนอนกับหมอนั่น เราก็ไม่มีสิทธิไปยุ่ง แต่ฉันไม่อยากได้หมอนั่นเป็นน้องเขย ประวัติมันไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้ว่ามันมีอะไรดี ยัยปายถึงไปเดตกับมัน แถมดื้อ ๆ อย่างยัยปายยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ อะไรตามใจได้ก็ตามใจไป แต่ช่วยตามดูให้หน่อย”
“ครับคุณแปง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะช่วยดูแลคุณปายให้”
“ถ้ายัยปายเมาหรือวันไหนกลับบ้านไม่ไหวนายก็พายัยปายไปนอนที่คอนโดนะ อยู่ใกล้บริษัทเรานิดเดียว แต่ที่ไม่อนุญาตให้ยัยปายไปอยู่ที่นั่นทุกวันเพราะไม่ไว้ใจ กลัวเด็กดื้อมันเอาผู้ชายมานอนด้วย”
“ครับ”
“งั้นนายกินข้าวต่อเถอะ เดี๋ยวพี่บอกพ่อแม่ให้”
“ขอบคุณครับคุณแปง”
เขากดวางสายแล้วมองไปยังชายหญิงที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกตาเขม็ง แม้จะอยากเข้าไปแยกสองคนนั้นออกจากกันแต่ก็ไม่อาจทำได้
ตอนมาถึงโรงแรม เธอให้เขาไปหาข้าวกินแล้วมานั่งรอเธอที่ล็อบบี้จนกว่าเธอจะกินข้าวและฟังเพลงกับหมอนั่นเสร็จ แถมยังบอกด้วยว่าถ้าเขารอไม่ไหวให้กลับบ้านไปก่อน
แต่เขาสามารถทำแบบนั้นได้ที่ไหน ไม่ใช่เพราะกลัวจะโดนผู้ใหญ่ตำหนิ แต่เขากลัวว่าเธอจะได้รับอันตรายจากผู้ชายคนนั้นต่างหาก
ไม่นานเธอกับหมอนั่นก็เดินเข้าไปในคลับหรูของโรงแรมแห่งนี้ เขาจึงเดินตามเข้าไปนั่งในมุมมืดห่างไกลผู้คน
“ปายดื่มหน่อยนะครับ”
มาวินส่งแก้วไวน์แดงราคาแพงให้กับเธอแล้วกระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงสีอำพันลงคออึกใหญ่ ดวงตาคมกล้าจ้องมองใบหน้าสวยงามไม่วางตา
“ผมดีใจนะครับ ที่ปายยอมมากินข้าวฟังเพลงกับผม”
เขาตามจีบเธอมานานตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในงานปาร์ตี้วันเกิดของเซเลบคนดังเมื่อเกือบสองปีก่อน แต่เธอไม่เคยสนใจเขาเลยสักครั้งเพราะผู้ชายที่เธอเลือกออกเดตด้วยแต่ละคนต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง
ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้คบกับใครเป็นแฟนหลังจากออกเดตเลยสักคน แบบนี้คงแปลว่าผู้ชายเพอร์เฟคเหล่านั้นไม่ใช่สำหรับเธอและเขาก็ยังมีโอกาส
“คุณชวนปายมานานแล้วนี่คะ ถ้าปายไม่ยอมมากินข้าวกับคุณเสียทีก็ใจร้ายเต็มทน”
“งั้นเรามากินข้าวฟังเพลงด้วยกันบ่อย ๆ ดีไหมครับ”
“ขอดูก่อนนะคะว่าปายว่างหรือเปล่า”
“ครับ ผมรอปายได้เสมอ”
ดวงตาคมกริบฉายแววปรารถนาอย่างไม่คิดปิดบังจนคนตัวบางขนลุกซู่ ผู้ชายก็เป็นเหมือนกันทุกคน ไม่ได้ต้องการมากินข้าวฟังเพลงกับเธอหรอก แต่อยากลากเธอขึ้นเตียงหลังจากนี้มากกว่า
“อย่าตั้งใจรอปายนักเลยค่ะ เดี๋ยวผู้หญิงของคุณจะว่าเอานะคะ”
“ก็แค่ของแก้ขัดครับ ไม่มีผู้หญิงคนไหนสำคัญสำหรับผมเท่าปายนะ ปายก็รู้ ถ้าปายยอมเป็นแฟนผม ผมจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงทุกคนให้หมด ปายลองดูไหมครับ”
“น่าสนใจเหมือนกันนะคะ”
ปราลีคนสวยมองสบตาเขาอย่างไม่มีลดละก่อนจะยกไวน์แดงราคาแพงขึ้นจิบอย่างยั่วยวนจนคนตัวโตกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กับท่าทีแสนเซ็กซี่ของทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน
“ถ้าสนใจ งั้นคืนนี้ ไปต่อที่คอนโดของผมไหม”
“ใจเย็นสิคะ เราเพิ่งมากินข้าวกันแค่มื้อเดียวเอง”
“ผมรอปายมานานมากแล้วนะครับ และผมอยากให้ปายรู้ว่าผมจริงจังกับปายนะ แค่ปายคนเดียวเท่านั้นที่สำคัญ”
มือใหญ่ลูบไล้ลาดไหล่นวลเนียน ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของเธอเบา ๆ
“ใจเย็นสิคะ”
เธอไม่ได้ปัดป้อง แต่ค่อย ๆ ขยับตัวหนีสัมผัสของชายหนุ่มจอมเจ้าชู้อย่างไม่ให้เสียมารยาท
“ถ้าผมบอกว่าคืนนี้ผมเย็นไม่ไหวแล้วล่ะ ปายจะว่าไงครับ”
“ไม่ว่าไงค่ะ แต่ตอนนี้ปายขอไปห้องน้ำก่อน”
คนสวยส่งยิ้มยั่วยวนแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ แผ่นดินเห็นดังนั้นจึงเดินตามเธอไปทันที
“น้อง เอาไวน์มาอีกแก้ว”
เมื่อไวน์แก้วใหม่ถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ มาวินก็หยิบขวดสีชาออกมาหยดบางอย่างที่อยู่ในนั้นใส่แก้วไวน์เพียงเล็กน้อยแล้วยกขึ้นเขย่าเบา ๆ ด้วยดวงตาเป็นประกายกร้าวมีรอยยิ้มร้ายแต่งแต้มมุมปาก
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำก็ถูกมือใหญ่กระชากจนถลาตามไปในมุมมืด
“นาย”
“คุณตั้งใจจะทำอะไร คุณปาย”
“ทำอะไร ฉันแค่มาดื่มกับวิน ต้องตั้งใจจะทำอะไรด้วยเหรอ แล้วใครใช้ให้นายตามฉันเข้ามาในนี้ บอกให้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ไม่ใช่หรือไง”
“ถ้าผมไม่ตามมาจะรู้เหรอว่าคุณปายอ่อยผู้ชายคนนั้น”
“มันเรื่องของฉัน ปล่อย ฉันจะไปดื่มต่อ”
เธอสะบัดมือเขาจนหลุดแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทันที เขาถอนหายใจพรืดก่อนจะเดินกลับไปนั่งมองเธอจากมุมมืดมุมเดิม
“ดื่มอีกแก้วนะครับปาย”
ปราลีรับไวน์แดงแก้วใหม่มาจิบ แต่เขากลับคะยั้นคะยอให้เธอดื่มจนหมดแก้ว ซึ่งคนอย่างปราลีก็ไม่เคยขัดศรัทธาจึงกระดกไวน์แดงแก้วนั้นจนหมด
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น หัวใจดวงน้อยก็เต้นกระหน่ำจนแทบทะลุออกมานอกอก เลือดสูบฉีดวิ่งไหลแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างก่อนจะกระจุกรวมกันตรงส่วนอ่อนไหวกลางกายสาวจนรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
“อืม ร้อนจัง”
ปราลีสะบัดผมที่ปกคลุมบ่าบอบบาง มือเล็กปาดเหงื่อที่ผุดพรายเต็มซอกคอ ดวงตากลมโตหรี่ปรือมองเห็นภาพชายหนุ่มตรงหน้าซ้อนกันเป็นสองคน