ตอนที่ 5 คุณปายของผม
ร่างบางในชุดเดรสสูทกระโปรงจีบรอบตัวสีขาวแต่งกระดุมฉลุสีทองเดินหน้างอเข้ามาในห้องอาหารที่บัดนี้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
เธอนั่งลงประจำที่แล้วเริ่มกินอาหารเช้าของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองเด็กในบ้านเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะยังไม่ยอมย้ายขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ แต่ราศีหลานชายนอกไส้ของเจ้าของบ้านมันจับ รู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างไรก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อก่อนเธอออกจะเอ็นดูเขาด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์ให้เธอเสมอมา
“วันนี้เริ่มงานวันแรก มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่แปงเขาได้นะดิน”
“ครับ คุณผู้ชาย”
ลูกสาวคนเล็กลอบเบะปากในความใจดีของพ่อที่นับวันจะจางหายไปจนหมด ถึงได้บีบบังคับจิตใจลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเธอด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้
“ปาย ให้ดินขับรถให้ ถ้าวันไหนต้องเดินทางต่างจังหวัดค่อยเอารถตู้ที่บ้านไป”
“ค่ะพ่อ”
เธอตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เดี๋ยวจะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเสียเปล่า ๆ
เมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็ส่งกุญแจรถยนต์คันหรูให้เขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งกอดอกไขว่ห้างที่เบาะด้านหลัง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างน่ามันเขี้ยว
แผ่นดินหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วออกรถอย่างนุ่มนวลที่สุด
“อืม ขับรถดีนี่ เลิกงานก็ช่วยขับพาฉันไปกินข้าวกับวินหน่อยแล้วกัน เมื่อวานเบี้ยวนัดเขาเพราะนาย”
“ครับ”
ดวงตาคมเหลือบมองใบหน้าสวยงามผ่านกระจกมองหลังก็บังเอิญสบตากับคนตัวบางที่มองมายังเขาพอดิบพอดี หนุ่มสาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตาหลบกันด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ
เจ้านายสาวสวยเดินนำหน้าเลขานุการหนุ่มรูปหล่อเรือนร่างสูงใหญ่ภายใต้สูทแบรนด์ดังเข้าไปในบริษัท ประชาสัมพันธ์และพนักงานสาว ๆ ต่างหันมองแผ่นดินด้วยความสนใจจนเขาหายเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารจึงรีบวิ่งมาจับกลุ่มซุบซิบด้วยความตื่นเต้น
“ใครอะ โคตรหล่อเลย”
“เห็นว่าเป็นเลขาคนใหม่ของคุณปายนะ จบมาจากอเมริกา หล่อมากจริง ๆ แกว่าเขามีแฟนหรือยัง”
“หล่อ ๆ แบบนี้จะเหลือเหรอ เผลอ ๆ เสร็จพวกแหม่มหัวทองไปตั้งแต่อเมริกาแล้ว”
“เสียดายอะ คนบ้าอะไร หล่อชะมัด”
ปราลีเหลือบมองเลขาหนุ่มด้วยความไม่พอใจ แค่วันแรกที่มาทำงานก็ทำเอาสาว ๆ ในตึกแตกตื่นกันเป็นแถว ถ้าอยู่ไปนานกว่านี้ ผู้หญิงไม่มาตบกันแย่งเขาถึงหน้าห้องทำงานของเธอเลยเหรอ
“เสน่ห์แรงนะ สาว ๆ ที่นี่สวย ๆ ทั้งนั้น ก็ทำตัวให้มันดี ๆ ล่ะ อย่ามีกิ๊ก อย่าให้แฟนนายมาตบพนักงานของฉันถึงที่นี่เด็ดขาด ไม่งั้นฉันไล่นายออกแน่”
“ผมยังไม่มีแฟนครับ”
เธอเหลือบมองดวงตาคมกริบแสนมีเสน่ห์คู่นั้นอีกครั้ง ก่อนจะเบะปากเพื่อกลบเกลื่อนความประหม่ากับสายตาที่แปลความหมายไม่ออก รู้แค่ว่าต่างจากลูกเป็ดคนเดิมของเธอจนเป็นคนละคน
“ฉันไม่ได้อยากรู้ แล้วก็ไม่ได้สนใจด้วยว่านายจะมีแฟนหรือมีเมียกี่คน แต่ที่ฉันพูดเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงพวกนั้นมาสร้างความเดือดร้อนที่บริษัทฉันก็แค่นั้น”
“ครับ เรื่องนี้คุณปายไม่ต้องเป็นห่วง ผมสามารถทุ่มเทเวลาทำงานให้คุณปายได้ตลอดเวลาครับ”
“ถ้าจะให้ดี ตอนฉันไปเที่ยวกับเพื่อน นายไม่จำเป็นต้องตามไปด้วยหรอกนะ ฉันต้องการเวลาส่วนตัว”
“อันนี้คงไม่ได้เพราะคุณแปงสั่งเอาไว้ครับ”
“ถ้านายไม่บอก ฉันไม่พูด พี่แปงจะรู้ได้ไงว่านายไม่ได้ตามไปด้วย หัดฉลาดเสียบ้างนะ หลับหูหลับตาทำตามคำสั่งของฉันมาตั้งแต่เด็ก ๆ โตมายังต้องมาทำตามคำสั่งของพี่แปงอีก”
“ผมเป็นคนในบ้านของคุณปายครับ”
“น่าเบื่อที่สุด”
เธอสะบัดก้นเดินหนีเขาออกมาจากลิฟต์ ผ่านโต๊ะทำงานของเลขานุการหน้าห้องคนใหม่ก็หยุดทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณปาย ดิฉันชื่อมารี เป็นเลขานุการคนใหม่ของคุณปายค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณมารี ยังไงฝากดูแฟ้มเอกสารของแผนกต่าง ๆ ด้วยนะคะ ตรวจให้ละเอียด เพราะฉันไม่อ่าน จะเซ็นอย่างเดียว เข้าใจนะคะ”
“เอ่อ ค่ะคุณปาย”
เมื่อเลขานุการซึ่งน่าจะแก่กว่าเธอไม่กี่ปีตอบรับ เจ้านายคนสวยก็เดินเข้าไปในห้องทำงานด้วยท่วงท่ามั่นใจตามแบบฉบับสาวเปรี้ยว
มารียิ้มแห้ง ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตั้งแต่ทำงานด้วยตำแหน่งเลขานุการมาหลายปีไม่เคยมีเจ้านายคนไหนสั่งงานแบบนี้ โดยเฉพาะผู้บริหารที่เป็นลูกหลานของผู้ที่ก่อตั้งบริษัทมาด้วยความยากลำบาก
“สวัสดีครับพี่มารี ผมแผ่นดิน เรียกดินก็ได้ครับ ผมเป็นเลขาอีกคนของคุณปาย”
“สวัสดีค่ะดิน ท่านประธานบอกพี่แล้วค่ะว่าดินเป็นเลขาอีกคน แต่ต้องดูแลคุณปายทุกเรื่อง”
มารีส่งยิ้มให้กำลังใจ จากวีรกรรมของท่านรองประธานคนสวยที่เธอได้รับรู้มา ท่าทางว่าแผ่นดินคนนี้จะต้องรับบทหนัก
“ครับ มีอะไรแนะนำผมได้เลยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
“นายดิน ชงกาแฟมาให้หน่อย”
เสียงอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานของมารีดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา เขาส่งยิ้มให้กับเลขารุ่นพี่ก่อนจะเดินเข้าไปในโซนครัวโดยที่มารีมองตามแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้ รู้สึกเห็นใจเขาอย่างไรก็ไม่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่จะถูกเปิดเข้ามาโดยแผ่นดินพร้อมด้วยกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหอมฟุ้ง
“กาแฟครับ”
“ขอบใจ วางไว้ตรงนั้นนั่นแหละ”
เธอพยักเพยิดหน้าให้เขาวางแก้วกาแฟไว้มุมขวาของโต๊ะ ก่อนจะเปิดแฟ้มแล้วจรดปลายปากกาลงไปโดยไม่มีการอ่านเนื้อหาของเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น
มือใหญ่กำปากกาด้ามสวยทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาวาววับ
“นี่นาย มาจับปากกาฉันทำไม ปล่อย”
“นี่คุณปายจะไม่อ่านเอกสารที่คุณกำลังจะเซ็นชื่อลงไปหน่อยหรือครับ”
เธอถอนหายใจ กระชากปากกาออกมาจากมือเขาแล้ววางมันลงบนโต๊ะเสียงดัง
“ทำไมต้องอ่าน ก็บอกให้เลขาตรวจให้แล้วไง มีอะไรอีกไหม อย่ามารบกวนการทำงานของฉัน เกะกะ ไปนั่งที่ของนายโน่น”
“นี่เรียกว่าการทำงานหรือครับ เอกสารนี้มาจากฝ่ายไหน เป็นเรื่องอะไร คุณปายรู้บ้างไหม”
“พนักงานแต่ละฝ่ายก็ทำงานกันมานาน งานก็แบบเดิม ๆ ไม่ได้มีอะไรสำคัญ แถมเลขาก็ตรวจให้แล้ว มีอะไรที่ฉันต้องใส่ใจ ต่อให้ฉันไม่รู้ว่างานนี้มาจากฝ่ายไหนหรือเป็นงานอะไร บริษัทก็เดินต่อไปได้”
คนตัวโตถอนหายใจพรืด เท้ามือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะแล้วยื่นหน้าไปหาเธอช้า ๆ ใบหน้าหล่อเหลาเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึก แต่ดวงตาคมไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคุณแปงต้องส่งผมมาควบคุมพฤติกรรมคุณ”
“นี่นาย”
เธอลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือทั้งสองข้างตบโต๊ะ ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่อง
“ทำไมครับ”
“อวดดีเกินไปแล้วนะ คิดว่าพี่แปงให้ท้ายแล้วฉันจะไม่กล้าไล่นายออกหรือ”
“มีเพียงคุณแปงเท่านั้นที่จะไล่ผมออกได้ แต่ถ้าคุณปายอยากไล่ผมออกก็ลองไปบอกให้คุณปู่หรือคุณพ่อคุณไล่ผมออกแทนคุณแปงดูสิครับ เผื่อท่านทั้งสองจะช่วยคุณได้”
คนตัวบางกำมือแน่นจนตัวสั่น ให้เธอเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อหรือปู่เหรอ มีหวังพวกท่านต้องรู้ว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยอ่านเอกสารในแฟ้มเลยแม้แต่เรื่องเดียว เป็นแบบนั้นชีวิตอิสระที่เธอต้องการคงไม่มีหวัง
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งแล้วเลื่อนแฟ้มเอกสารอันเดิมมาอ่าน คิ้วที่กันแต่งเป็นทรงสวยขมวดมุ่น เรื่องธุรกิจและการบริหารงานนั้นเธอเข้าใจเพราะเรียนจบปริญญาโทมาด้านนี้ แต่เพราะความขี้เกียจจึงไม่ได้สนใจจะรับผิดชอบการงาน
เมื่ออ่านไปได้สักพักก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เขายังยืนอยู่ที่เดิม มองเธออ่านเอกสารในแฟ้มนิ่ง ๆ แต่มันช่างขัดหูขัดตาเหลือเกิน
“มายืนทำอะไรตรงนี้ ไปนั่งที่นายสิ เกะกะลูกตา”
“ผมมีหน้าที่ช่วยคุณปายครับ อ่านเข้าใจหรือเปล่า”
“นี่นายจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ก็แค่...”
“ขี้เกียจเฉย ๆ”
เธอตวัดสายตามองเขาด้วยความไม่พอใจ เด็กนี่มันจะรู้ทันเธอเกินไปแล้ว
“ใช่ แล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกครับ ผมไม่กล้าทำอะไรคุณปายหรอก”
“งั้นก็ไปนั่ง”
“ครับ”
เขาเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอออกมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งหน้าตาเฉย ทำเอาคนตัวบางอ้าปากมองเขาด้วยความตกใจ
“ฉันบอกให้นายไปนั่งที่โต๊ะนาย จะมานั่งทำไมตรงนี้ ฉันไม่มีสมาธิ”
“ก็ผมต้องอ่านเอกสารในแฟ้มนั่นหลังจากที่คุณปายอ่าน อย่าเพิ่งเซ็นนะครับ ขอผมอ่านก่อน”
”ค่ะ รับทราบค่ะท่านรอง”
เสียงหวานเอ่ยประชด ก่อนจะก้มหน้าลงตั้งใจอ่านเอกสารด้านการตลาดอีกครั้ง เพราะคนอย่างปราลีจะให้ใครมาดูถูกความสามารถไม่ได้เด็ดขาด
ดวงตาคมมองท่านรองประธานที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารสำคัญด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป เขากวาดตามองใบหน้าสวยงามที่ยังประทับอยู่ในหัวใจเขาตลอดมาตั้งแต่จำความได้ด้วยความคิดถึง
สิบปีที่ผ่านมาทำให้เธอเติบโตเป็นสาวสวยงามเย้ายวนได้ขนาดนี้เชียวหรือ แม้ใบหน้าและร่างกายของเธอจะเปลี่ยนไป แต่นิสัยเอาแต่ใจตัวเองและความพยศราวแมวป่ายังคงเหมือนเดิม
คิดถึงเหลือเกิน คุณปายของผม