ตอนที่5
ตอนที่5
“อย่างข้าหรือจะตกอับเช่นเจ้า” ปาริชาติบิดปาก ส่งสายหาเย้ยหยันใส่คนที่เคยเป็นดั่งเพื่อนสนิท
“ที่เข้ามาปรากฏตัวเช่นนี้ ข้าเดาว่าเจ้าคงรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับข้า” ราตรีสวรรค์ตอนนี้มืดบอกไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง หากอยู่ๆ ปาริชาติอดีตสหายมาปรากฏตัวเช่นนี้นางย่อมรู้ดีกว่า
“ก็เจ้าอยากไม่ใช่เหรอ อยากเป็นมนุษย์ อยากเข้าสู่งสงวสารวัฏลงมาเวียนวายตายเกิด ทั้งๆ ที่เป็นถึงพระธิดาของท้าวปชาบดีเทวราช แต่เพื่อการนั้นเจ้าถึงกลับย่อมทำงานต้อยต่ำ สิ้นเกียรติยศและศักดิ์ศรี” ผ่านมาเกือบพันปีแล้ว ปาริชาติก็ไม่เข้าใจจริงๆเหตุใดราตรีสวรรค์ถึงตัดสินใจทำแบบนี้
“เจ้าบูลลี่ผีพราย” ราตรีสวรรค์กว่ายิ้มๆ แม้ผีพรายกับนางฟ้าที่อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าจะแต่ต่างกัน เกิดมาสูงแต่ก็ไม่เห็นต้องเหยียบย่ำอีกฝ่ายด้วยท่าทีดูหมิ่นและเยียดหยามเช่นนี้ หาผีพรายเล่านี้จริงอยที่ย้างตนชั่วร้ายมอบเมามนุษย์ให้หลงผิด แต่ผีพรายดีๆก็มีไม่น้อย
“เจ้าคงอยู่กับมนุษย์มากเกิดไป เอาคำศัพท์ของมนุษย์มาใช้กับข้า”
“ยุศสมัยล่วงเลยมานานมากแล้ว เจ้าอย่ายึดติดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกินไปเลย ว่าธุระเจ้ามาเถิด หรือจะใช้ 'มนต์ตรานางฟ้า' กระซิบสั่งข้าแทนก็ได้ ข้าอยู่ในร่างมนุษย์แล้วนิ” ราตรีสวรรค์เปลี่ยนเรื่องพูด ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องทะเลาะกันรุนแรงเหมือนครั้งล่าสุดที่พบกัน
“ของพวกนั้นใช่กับเจ้าไม่ได้หรอก แม้เจ้าจะเป็นแบบนี้ แต่วิญญาณของเจ้าก็ยังเป็นเช่นเดียวกับข้า ที่ข้ามาข้าเพียงได้ยินความคิดโง่เง่าของเจ้าเลยจะมาเตือนเท่านั้น หากความตายมันง่าย ท่านท้าวคงจะไม่ลงโทษเจ้าที่เป็นพระธิดาขนาดนี้ ขนาดท่านให้เจ้าทำงานเป็นผีพราย กระซิบสั่งมนุษย์ให้เดินตามทางที่ท้าวต้องการ เจ้าก็ยอมทำ ลงมาใช้ชีวิตคลุกคลีกับมนุษย์มานานเจ้าก็เห็นแล้วว่ามนุษย์เป็นใช่ไร ไร้สีขาว มีเพียงสีเทาและสีดำ โสมมยิ่งนัก จากนี้ไปเจ้าจะมีกายเนื้อ อยู่ในทีที่ดำมืดของมนุษย์ที่สุด เจ้าจะเจ็บได้ตายเป็น หากเจ้าเปลี่ยนใจในตอนนี้ ท่านท้าวจะยกโทษให้เจ้า”
“ขอบใจเจ้าก็แล้วกันที่หวังดี ข้าทำมาขนาดนี้แล้ว ข้าล้มเลิกกลางคันเห็นจะไม่ได้แล้ว” จริงอยู่งานที่บิดาสั่งให้ทำนั้นคือกระซิบชักจูงมนุษย์คนที่ท่านต้องการ แต่ระหว่างภารกิจนั้นนางทั้งกระซิบปลอบใจ ปลอบโยนให้กำลังใจยามท้อแท้และสิ้นหวัง กระซิบผลักดันให้มนุษย์ที่นางดูแลก้าวไปข้างหน้า เห็นด้านสีเทาและความเลวร้ายใจจิตใจของมนุษย์มาก็มากมายแต่ในนั้นมีสีขาวสว่างไสวอยู่ไม่น้อยเลยที่เดียว
“เหอะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เจ้าก็ไม่เคยเปลี่ยน” หมดคำจะพูด นางหรือสู้อุตส่าห์มาหาเตือนเผื่อราตรีสวรรค์จะคิดได้ การเป็นมนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งถูกส่งมายังที่แห่งนี้ ปาริชาติกลัวนางจะอยู่ได้ไม่พ้นวันนี้เสียด้วยซ้ำ ขนาดเจ้าของร่างเองเพียงแค่ถูกหยางหลงข่มขืนเยี่ยงสัตว์ป่าก็ถึงกับฆ่าตัวตายในอ่างน้ำนั้น
“ข้าขอโทษปาริชาติ ข้ารู้ดีว่าเจ้าหวังดีกับข้าเสมอมาแต่งานนี้แม้จะไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรให้ข้าทำภารกิจนี้ให้ลุล่วง แต่ข้าก็จะทำ” งานสุดท้ายแล้ว ข้าจะได้พบคนผู้นั้น พระบิดารับปากกับข้าเอาไว้แล้ว ‘ข้าเพียงอยากพบคนผู้นั้นอีกสักครั้ง’
“ในเมื่อคุยกันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ข้ากลับไปยังที่ของข้าดีกว่า” ร่างกายของปาริชาติค่อยๆ เลื่อนลางกลายเป็นมอกควันและหายไปต่อหน้าต่อตาราตรีสวรรค์ รู้สึกผิดหวังจนไม่อาจทนคุยกับราตรีสวรรค์ได้อีกต่อไป ‘ความรักทำให้เจ้าหลงผิดได้ขนาดนี้เลยเหรอ ใครเตือนเจ้าก็ไม่เคยฟังแม้แต่ข้าที่อยู่เคียงข้าเจ้ามาตั้งแต่ลืมตา’
เมื่อหมอกควันจางไป ความอันอั้นในใจที่กักเก็บไว้ก็ระเบิดออกมา
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟู่ ฟู่”
เสียงกรีดร้องนั้นดังออกไปถึงด้านนอก บอดี้การ์ดที่นั่งเฝ้าระวังอยู่หันไปสบตากันเพียงเล็กน้อย ‘สงสัยจะตื่นแล้ว’ เมื่ออีกฝ่ายแสดงภาษากายว่าจะเป็นคนจัดการเอง บอดี้การ์ดอีกคนก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นต่อ ส่วนอีกคนเดินไปสั่งแม่บ้านให้เข้ามาดูสตรีที่อยู่ในห้องและเก็บกวาดห้อง ดูจากที่ตื่นเกือบบ่าย เมื่อคืนคงจะเจอศึกหนัก ไม่ลืมแจ้งเข้าไปในหูฟังให้คุณจางรับทราบว่าผู้หญิงของนายตื่นแล้ว
“บอกให้คุณมิ้งค์อาบน้ำแต่งตัวจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เย็นนี้นายจะไปทานอาหารเย็นและค้างด้วย” อาจางตอบกลับมาเพียงเท่านี้