บท
ตั้งค่า

EP 7

‘เฮ้อ! อิจฉาไวน์จังเลยนะมีหนุ่มส่งดอกไม้ให้ ว่าแต่ใครกันเหรอ เคยมาที่นี่หรือเปล่า’

แล้ววันทั้งวันไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็มักจะถูกเพื่อนร่วมงานถามแบบนี้แทบทั้งนั้น พิมพ์ภิษาไม่ตอบนอกจากยิ้มแล้วก็ทำงานต่อ พอเย็นก็หอบกล่องไปหารถ ขับกลับบ้านที่นครไชยศรีแทนการกลับคอนโด เพราะพรุ่งนี้กับมะรืนเป็นวันหยุด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงขับรถมาทำงาน ซึ่งปกติแล้วจะนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อความสะดวกและประหยัดกว่า

หนึ่งทุ่มนิดๆ รถก็แล่นผ่านประตูรั้วไม้เก่าๆ ของสวน ‘กำจรนารี’ เข้าไปจอดอยู่หน้าบ้านไม้ทรงไทยสองชั้นหลังใหญ่แล้ว น้องสาวทั้งสองกำลังวุ่นอยู่ในครัวชั้นล่าง รีบวิ่งออกมายกมือไหว้พี่สาว ช่วยหิ้วข้าวของออกจากท้ายรถ

“น้าดาสวัสดีค่ะ”

พิมพ์ภิษายกมือไหว้แล้วยิ้มบางๆ ให้แม่เลี้ยง จากนั้นใบหน้าสวยก็แหงนมองขึ้นไปยังด้านบนเป็นเชิงถามว่า ‘พ่อนอนอยู่ข้างบนใช่หรือไม่’

และได้คำตอบเป็นการพยักหน้ารับน้อยๆ เพียงเท่านั้น หญิงสาวรีบลดความดังของเสียงที่จะคุยกับแม่และน้องๆ ลงหลายระดับ เพราะกลัวจะไปกระทบหูพ่อที่นอนป่วยอยู่

“พี่ซื้อเสื้อมาฝากดีกับดี้คนละตัวจ้ะ อยู่ในถุงเขียวนะ ใครชอบสีอะไรก็เลือกเลยจ้ะ”

“จริงเหรอพี่ไวน์ ขอบคุณค่ะ”

เด็กสาวผมสั้นละต้นคอวัยสิบห้านาม ‘ลิลรดา วัฒนากรณ์’ ซึ่งเป็นน้องเล็กของบ้านยกมือไหว้พี่สาว แล้วรีบคว้าถุงมาเปิดทันที พลอยทำให้ ‘ลิลรดี วัฒนากรณ์’ น้องคนกลางวัยสิบเก้า มัดผมหางม้าสูงๆละความสนใจจากถุงของใช้ ไปหาถุงใบเดียวกับน้องทันที

“พี่เอาสีฟ้านะยัยดี้”

ลิลรดีคว้าสีโปรดมาถือไว้ ส่วนคนเป็นน้องก็ไม่มองอยู่แล้ว เพราะสีขาวนั้นตัวเองหมายตาไว้ตั้งแต่แรกเห็น สองสาวรีบสวมทับลงไปกับเสื้อยืดรัดรูปที่ใส่อยู่ทันที แล้วหมุนตัวรอบๆ อวดแม่ที่นั่งมองลูกทั้งสองเห่อของใหม่ ด้วยสายตาตำหนิน้อยๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดูลูกยิ่ง

“ไวน์ซื้อมาฝากน้าดาด้วยนะคะ แต่ไม่รู้จะชอบหรือเปล่าค่ะ”

ถุงกระดาษในมือถูกยื่นให้ ‘ลัดดา วัฒนากรณ์’ พร้อมใบหน้าเจือรอยยิ้มน้อยๆ

“คุณไวน์ไม่น่าซื้อมาเลยนะคะ เปลืองเงินเปลืองทองเปล่าๆ ค่ะ”

กระนั้นลัดดาก็รับถุงมาเปิดดูด้วยความปลาบปลื้ม เมื่อลูกเลี้ยงมีน้ำใจกับตัวเองและน้องต่างแม่เสมอมา

“นานๆ ไวน์จะได้ซื้อสักทีค่ะ น้าดากับน้องๆ จะได้มีเอาไว้ใส่ไปวัดไงคะ ว่าแต่ทำไปถึงไหนแล้วคะ มีอะไรเหลือให้ไวน์ช่วยบ้างคะ”

หญิงสาวเต็มใจ เพราะถือว่าลัดดาเลี้ยงตัวเองช่วยย่ามา หลังแม่ที่แท้จริงลาจากโลกนี้ไป

“ดี้ห่อขนมจีบยังไม่เสร็จเลย พี่ไวน์มาช่วยก็ได้จ้ะ” น้องเล็กรีบฉวยโอกาสทันที

“น้อยๆ หน่อยยัยดี้ พี่ไวน์มาเหนื่อยๆ ซื้อของมาให้เยอะแยะแล้ว ยังจะใช้งานพี่อีก นิสัยไม่ดีเลยนะเรานี่”

น้องสาวคนกลางรีบกำราบเอาไว้ ทำเอาคนเป็นพี่ยิ้มบางๆ ให้ ส่วนคนเป็นแม่ค่อนข้างเห็นด้วย

“นั่นสิ! คุณไวน์ไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าวเย็นดีกว่าค่ะ หรือจะขึ้นไปไหว้คุณพ่อก่อนดีคะ”

“คุณพ่อหลับอยู่ ไวน์ยังไม่อยากปลุกค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเอาของที่ไวน์ซื้อมาให้คุณพ่อ งั้นไวน์อาบน้ำข้างล่างแล้วค่อยกินข้าวกันนะคะ”

“ค่ะ”

พิมพ์ภิษาเดินไปเปิดกระโปรงหลัง หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมมาเปิดออก ของใช้จำเป็นแบบไม่ต้องทำให้เดินขึ้นบ้านรบกวนพ่อมีครบครันในนั้นแล้ว เพราะทุกครั้งเวลากลับบ้านค่ำมืด มักจะทำแบบนี้เสมอ แล้วใช้เวลาอยู่กับแม่เลี้ยงและน้องทั้งสองตรงใต้ถุนบ้านจนดึกดื่น กว่างานห่อขนมจีบกับเตรียมของไว้ขายตลาดพรุ่งนี้จะเสร็จ ถึงได้พากันขึ้นบ้านนอน โดยไม่รบกวนคนอยู่อีกห้องที่หลับตั้งแต่หัวค่ำแล้วเลย

ชายรูปร่างผ่ายผอม ใบหน้าตอบซีดเซียวค่อยๆ ลุกจากเตียง หลังจากใช้เวลาอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อยอยู่เป็นชั่วโมง ‘ขจร วัฒนากรณ์’ กวาดตามองรอบระเบียงบ้านไม้เก่าแก่ แต่ไม่เห็นใคร หูได้ยินเสียงพูดคุยกันเบาๆ ดังมาจากใต้ถุน ไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นตรงบันได ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลูกกับเมียคงกำลังยกมื้อเช้าขึ้นมาให้

“คุณพ่อตื่นแล้วเหรอคะ”

พิมพ์ภิษาเดินออกมาจากห้องนอน พร้อมถุงกระดาษ แล้วยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ให้ แต่กลับได้เพียงใบหน้าเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆ เป็นเครื่องตอบแทน ยังผลให้แม่เลี้ยงกับน้องทั้งสอง ต่างลอบถอนหายใจด้วยความระอาไปตามๆ กัน

“คุณพี่หิวหรือยังคะ วันนี้ดาผัดยอดอ่อนตำลึงที่คุณไวน์ซื้อมาเมื่อคืนค่ะ แล้วยังมีน้ำข้าวกล้องด้วยนะคะ คุณไวน์ตื่นมาทำไว้ให้ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ”

ลัดดาเอ่ยเสียงเรียบนุ่ม ท่าทีเดินเข้ามาประคองเขานั้น ก็เป็นไปด้วยความนอบน้อมถ่อมตน ผิดจากภรรยาทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนขจรก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการบอกกล่าวของภรรยาสักนิด หากแต่ก็ยอมเดินตามไปทรุดกายลงนั่งบนเบาะ หน้าตั่งไม้สักเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยพ่อแม่มาแล้ว

พิมพ์ภิษารีบตรงเข้าไปคอยช่วยประคอง กับเลื่อนเบาะให้เข้ากับตำแหน่งที่พ่อจะนั่งลง ด้วยท่าทีนอบน้อมไม่แพ้แม่เลี้ยง จากนั้นก็คลานเข่าอ้อมหลังพ่อ ไปยกชามข้าวกล้องต้มออกจากถาด ที่น้องคนกลางถือนั่งคุกเข่าอยู่หน้าตั่งไปวางไว้ให้

แก้วน้ำเปล่ากับน้ำข้าวกล้อง จากถาดน้องคนเล็กถือมาก็ถูกวางไปใกล้ๆ กัน

“คุณพ่อลองชิมผัดตำลึงดูนะคะ เขาบอกว่าเป็นผักออร์แกนิคค่ะ ไม่ใช้สารเคมีอะไรเลย พอดีมีคนมาขายตรงลานจอดโรงพยาบาลค่ะ ไวน์เลยซื้อมาไว้ให้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel