EP 3
เพราะไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไง ให้ตัวเองไม่ถูกตำหนิติติงหรือไม่ถูกมองว่าเย่อหยิ่งจองหองพองขน
“คุณจะเอาไปนอนคิดก่อนก็ได้นะ พรุ่งนี้ค่อยมาให้คำตอบ เพื่อนหมอไม่รีบหรอก”
อีกครั้งที่ในห้องเงียบไปเกือบนาที หลังจากเจ้านายกรุณาผ่อนผันเวลาให้ แต่ในเมื่อเธอมีธงปักลงไปแล้ว ว่าเป็นตรงไหน ก็ไม่ควรจะปล่อยให้ยืดเยื้อต่อ สู้รีบๆ บอก รีบๆ ออกจากห้องนี้จะดีกว่า อย่างมากก็แค่หางานใหม่เท่านั้น
“ว่าไงครับ” เจ้านายย้ำ
“ไวน์ให้คำตอบเลยได้มั้ยคะ”
คราวนี้เป็นทีของคนถามจะอึ้งบ้าง เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้า จะใช้เวลาคิดไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ส่วนคำตอบเขาก็เดาได้ไม่ยากเลยสักนิด
‘ใครจะปฏิเสธไอ้เบียร์ได้วะ หล่อรวยขนาดนั้น’
“ครับ! หมอรอฟังอยู่”
“เอ่อ! ถ้าไวน์ขอไม่รับข้อเสนอ ไวน์ยังทำงานอยู่ที่นี่ได้ใช่มั้ยคะคุณหมอ” อีกครั้งที่หมอหนุ่มอึ้งในคำตอบ เพราะมันช่างตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ราวฟ้ากับเหว
“เอ่อ! ได้สิครับ ก็หมอบอกแล้วว่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่คุณพอจะบอกหมอได้มั้ย ทำไมถึงปฏิเสธ หมอจะได้ไปบอกเพื่อนถูก”
“เอ่อ! คือไวน์พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีและหาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงค่ะ เลยไม่อยากใช้ร่างกายไปในทางผิดๆ สักเท่าไหร่ อีกอย่าง ผู้หญิงทุกคนก็อยากจะอยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรักทั้งนั้นค่ะ ขอโทษนะคะคุณหมอถ้าไวน์ตอบตรงเกินไป”
“หมอดีใจมากกว่าครับ เอาเป็นว่าหมอจะบอกเพื่อนตามนี้ก็แล้วกันนะ”
“ขอบพระคุณค่ะคุณหมอที่เข้าใจไวน์”
พิมพ์ภิษายกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม อีกฝ่ายก็ยกมือรับไหว้ด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ เช่นกัน
“งั้นหมอก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ถือซะว่าเราไม่เคยคุยเรื่องนี้เลยก็แล้วกันนะครับ”
“ค่ะคุณหมอ”
“แกว่าอะไรนะไอ้ขวด! ไม่ยอมเหรอ ทำไม หรือเงินที่ฉันเสนอมันน้อยไป หรือแกจำตัวเลขจากฉันผิดวะ”
คฑาธรหัวเสียนิดๆ เมื่อเพื่อนโทรมาบอกข่าวร้ายแต่เช้า ทำเอาความหวังจะได้ลิ้มลองผิวขาวๆ หน้าสวยๆ หุ่นเย้ายวนใจ ที่ติดอยู่ในหัวตั้งแต่วันก่อน พังทลายลงในพริบตา และด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกผู้หญิงปฏิเสธ
‘อ้าวไอ้นี่! แกบอกตัวเลขเท่าไหร่ฉันก็ว่าไปตามนั้นล่ะ’
“เหรอ! งั้นแกช่วยบอกให้ทีซิว่าจากเดือนละแสนเป็นแสนห้า โทรไปตอนนี้เลย”
‘เอางั้นเลยเหรอ! แปลว่าอยากได้มากล่ะสินะถึงยอมทุ่มขนาดนี้’
“เอ่อน่า! รีบๆ จัดการให้ฉันที อ้อ! ส่งไลน์มานะ เดี๋ยวจะเข้าประชุม”
เพราะหลายฝ่ายกำลังนั่งรอในห้องแล้ว เลยไม่อาจยืดยาดได้ วางสายเสร็จเขาก็คว้ามือถือกับเอกสารตรงหน้า ออกจากห้องทำงานตรงไปยังห้องประชุมใหญ่ชั้นถัดลงไปทันที แม้จะรีบแต่เขาก็ไม่คิดจะใช้ลิฟต์ เพราะมีนโยบายไว้ให้ทุกคนขึ้นลงต่ำกว่าสองชั้นให้ใช้บันไดเท่านั้น และไม่มีข้อยกเว้นให้ไม่ว่าจะกับใคร นอกจากมีแขกพิเศษ
“ขอโทษครับที่ให้รอ”
พอเข้าห้องได้เขาก็รีบเอ่ยอย่างคนเป็นสุภาพบุรุษ กับพนักงานหลายแผนกที่นั่งรอหน้าสลอน เมื่อเลขาคนรู้ใจส่งแฟ้มอ่อนให้ เขาก็ทิ้งทุกอย่างในหัว แล้วมีสมาธิกับงานทันที แม้จะกำลังอ่านรายงานอยู่แต่ปากก็สั่ง
“เริ่มได้เลยครับ”
ได้ไม่ยาก ส่วนหูก็ฟังฝ่ายสถาปนิกรายงานก่อน ต่อมาเป็นฝ่ายวิศวกร ร่ายยาวถึงโครงการอาคารทรงสูงยี่สิบเก้าชั้นของลูกค้าที่ ‘V.K.T. Construction & Developments Co., Ltd.’ ของเขา
มักจะได้รับความไว้วางใจ ให้มีโปรเจคที่สอง สาม สี่ และห้ามาเรื่อยๆ เพราะติดใจในฝีมือและความรับผิดชอบอันดีเยี่ยมกับงานของเขา
“เดี๋ยวคุณรุนสั่งให้อีกทีมเข้ามาเลยนะครับ”
เขาสั่งขณะจรดปลายปากกาลงบนเอกสาร ที่ผู้ช่วยเลขานำมาให้เซ็นถึงห้องประชุม ส่วนพนักงานบริษัทแรก ก็ทยอยออกจากห้องไป แล้วมีพนักงาน ‘V.K.T. Lands & Houses Co., Ltd.’
ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นมา เพื่อจัดสรรที่ดินปลูกบ้าน ปลูกคอนโดมิเนียม ขายให้ลูกค้ากระเป๋าหนักจ่อคิวเข้ามาต่อ
‘คุยแล้วเว้ย แต่เขาไม่รับข้อเสนอนะ ยังยืนยันเหตุผลเดิม’
ไลน์เพื่อนหมอส่งมา สร้างความหงุดหงิดให้ไม่น้อย เพราะไม่คาดคิดว่าแค่ผู้หญิงคนเดียว จะกินยากถึงขนาดนี้ มือหนากับผิวสีเข้มอย่างชายชาตรี กดส่งข้อความกลับไปด้วยความคล่องแคล่ว ระหว่างรอให้พนักงานเดินเข้ามาในห้องประชุมจนครบ
‘เดือนละสองแสน รถยุโรปป้ายแดง บ้านเดี่ยวอีกหลัง อยากได้กี่ชั้น แบบไหนเลือกมาเลย’
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มกับตัวเอง เมื่อเดินไปยืนกอดอก มองออกนอกหน้าต่างห้องประชุมชั้นสิบเก้าของ ‘อาคาร ไวทยาพาณิชย์’ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับนามสกุลที่เขากับพ่อใช้มากว่ายี่สิบเจ็ดปีแล้ว ส่วนนามสกุลเดิมคือ ‘กองทอง’ นั้น ไม่ได้คิดถึงมาหลายปีดีดัก
“เริ่มได้ครับ”
เขาละทิ้งเรื่องส่วนตัวเอาไว้ แล้วกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม เริ่มประชุมแบบเคร่งเครียดอย่างเคยทำ กระทั่งเที่ยงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ อาหารเลยถูกยกมาเสิร์ฟให้ทุกคนเหมือนเคยทำมา เขาแทบจะกลืนอาหารตรงหน้าไม่ลง เมื่อคำตอบจากเพื่อนคือ
‘เขาไม่สนใจจริงๆ ว่ะ ฉันว่ายอมแพ้แล้วหาคนอื่นเหอะ แค่นี้นะ จะทำงานแล้ว’
ในชีวิตมีคำหนึ่งเขาเกลียดและไม่ยอมรับเลยคือ ‘ยอมแพ้’ เพราะนั่นหมายถึงเขากำลังเป็นคนอ่อนแอ ไร้ทางสู้ ไร้ความสามารถ การที่เขากับพ่อดิ้นรนจนพลิกสถานการณ์อันย่ำแย่มาได้
ชนิดหน้ามือเป็นหลังมืออย่างนี้ ก็เพราะท่องไว้ในใจเสมอ ว่าจะต้องไม่มีคำนี้อยู่ในพจนานุกรมของครอบครัวไวทยาพาณิชย์
‘งั้นเดี๋ยวฉันคุยเอง ช่วยนัดให้ที อาหารเย็นหนึ่งทุ่มตรง ที่ร้าน...’
เขาอยากจะรู้นัก ว่าแม่สาวพนักงานต้อนรับผู้เย่อหยิ่ง จองหอง กล้าลองของกับเขาจะทำหน้ายังไง จะปฏิเสธแบบไหนเวลาอยู่ใกล้ๆ กัน เขาไม่เชื่อว่า ความหล่อเหลาและเสน่ห์ของตัวเอง จะลดน้อยถอยลงจนถูกปฏิเสธ มีเพียงเหตุผลเดียวที่เจ้าหล่อนยังไม่ตกลงนั่นก็คือ
‘ตัวเลขยังไม่เป็นที่พอใจ’