ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่เหมือนเดิม2
อีกด้านบนห้องนอนเล็กชั้นสองแต่สำหรับคนที่อยู่ข้างในนั้นอย่างศิรินทรากลับคิดว่านี้คือกรงขังดี ๆ นี้เอง เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอทั้งเจ็บใจเจ็บแผลที่เหยียบเศษแก้วจนเลือดไหลออกมา เธอได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่ชีวิตเธอจะหลุดพ้นจากเรื่องบ้า ๆ นี้เสีย เมื่อไหร่ที่ชีวิตเธอจะได้เป็นอิสระ
"พี่อาทิตย์ รินคิดถึงพี่ ฮื่อออ!"
เท้าหนาชะงักหยุดตรงหน้าประตูเมื่อได้ยินเสียงที่เอ่ยออกมาจากคนตัวเล็กอย่างศิรินทราแต่ทว่าในครั้งนี้เขารู้สึกจุก ๆ ในหัวใจของเขาแปลก ๆ หึ คนอย่างกวินฑาจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาแย่งของ ๆ เขาไปแน่ ชายหนุ่มลั่นวาจาไว้อย่างนั้น ในเมื่อเธอเป็นของเขาแล้วก็ไม่มีสิทธิ์ไปเป็นของคนอื่นเด็ดขาด
ปัง! เสียงประตูดังขึ้นทำเอาคนที่กอดเข่าร้องไห้อยู่ที่พื้นสะดุดตกใจก่อนจะหันหน้ามามองคนที่ย่างกายเข้ามาหา แววตาตกใจมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ร่างบางอรชรอ้อนแอ้นจะรีบลุกขึ้นแต่พอก้าวขาก็พรวดล้มลงไปกองที่เดิม
"อย่านะ อย่าเข้ามา!" สายตาที่มองมายังเขาอย่างหวาดกลัวยิ่งทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดใจมากขึ้นกว่าเดิม เสียงถอนหายใจดังออกมา เขาแค่จะช่วยพยุงเพียงเท่านั้นเอง
"ใครอยู่ข้างนอก!"
"ครับนาย" เสียงคนสนิทรีบเข้ามาหาเจ้านายตามเสียงเรียก
"ไปตามปานดาวมา ให้มาช่วยทำแผลคนอวดดีหน่อย อย่าให้มาตายที่บ้านของฉันเด็ดขาด!" พูดจบชายหนุ่มร่างกำยำก็เดินออกไปทันทีเขาดูหงุดหงิดไม่น้อย ทันทีที่เข้ามาในห้องทำงาน มือหนาก็หยิบแจกันปาเข้ากับกำแพงห้องจนแตกกระจายไปคนละทิศคนละทาง
"โธ่เว้ย! รักมันมากใช่ไหมริน เธอจะได้รู้ว่ามันจะมีจุดจบยังไง!" ใช่ เขาไม่ปล่อยไว้แน่ใครที่คิดยุ่งกับผู้หญิงของเขามันต้อง ไม่ตายดีแน่
ไม่นานปานดาวก็เข้ามาในห้องนอนของศิรินทราพร้อม ถือกล่องปฐมพยาบาลมานั่งลงที่พื้นอย่างอดสงสารไม่ได้ มือบางของปานดาวเอื้อมไปจับเท้าของอีกฝ่ายก่อนจะจัดการทำความสะอาดแผลให้
"ฉันอยากไปจากที่นี่ คุณปานต้องช่วยฉันนะคะ" เธอพูดออกมาด้วยน้ำตา ก่อนที่ปานดาวจะทำมือไม่ให้พูดต่อเพราะเธอ กลัวว่าคนของกวินฑามาได้ยินเข้า
"ฉันสัญญาค่ะ ฉันจะพาคุณออกไปให้ได้" ปานดาวกระซิบบอกก่อนจะยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า ถึงแม้จะแอบรักสุริยะมากแค่ไหนเธอก็มักเจียมตัวเสมอว่าเป็นได้แค่ไหนสำหรับเขา สิ่งหนึ่งที่เธอจะได้จากการช่วยศิรินทราก็คือการได้อยู่ข้าง ๆ กายของสุริยะตลอดไป เพียงเท่านี้ที่เธอต้องการ
ตกดึกของวัน
ภายในห้องนอนของคนตัวเล็กที่ตอนนี้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอจนไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาคมเข้มของใครอีกคนจับจ้องเธออยู่ไม่ห่าง คราบน้ำตาบนใบหน้ายิ่งตอกย้ำให้เขาเจ็บปวดขึ้นมา หรือว่าเขาหวั่นไหวกับผู้หญิงคนนี้แล้ว มือหนาค่อย ๆ ขยับเคลื่อนไหวบรรจงลูบใบหน้าจิ้มลิ้มของอีกฝ่ายอย่างเบามือ แต่พอนึกถึงใบหน้าของน้องสาวตนก็ทำให้ชายหนุ่มชะงักการกระทำทันที
'ไม่สิ ฉันต้องไม่หวั่นไหวกับเธออีก ศิรินทรา!'
พรึบ! ผ้าห่มหนาถูกกระชากออกจากร่างกายของคนที่นอนหลับอยู่จนเธอต้องสะดุ้งเฮือกตกใจขึ้น
"คะ คุณจะทำอะไรออกไปนะ!" เสียงสั่นเอ่ยปากออกมาที่ จู่ ๆ เขาก็เข้ามาหาเธอกลางดึกแบบนี้
"นี่บ้านฉัน ทำไมต้องออกไปด้วย!"
"ว้ายยย! อย่านะคะรินขอร้อง!" เขาผลักเธอนอนแนบลงบนเตียงก่อนจะทาบทับร่างของเธอเอาไว้ แต่ทว่าพอได้ยินเสียง หญิงสาวที่เอ่ยปากห้ามเขาก็ทำเอาชายหนุ่มชะงักไป รินอย่างนั้นหรือ นี่เขาได้ยินเธอแทนตัวเองว่ารินใช่ไหม ใบหน้าคมสันจ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง คนใต้ร่างกลับทำอะไรไม่ถูก ทำไมสายตาในตอนนี้ที่มองมาที่เธอกลับแตกต่างไปจากเดิม
"ริน? เธอแทนตัวเองแบบนี้น่ารักดีนะ ต่อไปเวลาอยู่กับผัว ก็แทนตัวเองแบบนี้บ่อย ๆ สิ" น้ำเสียงกระเส่ากระซิบข้างใบหูจน เจ้าตัวขนลุกซู่ขึ้น
"เอ่อ ฉันแค่พูดผิดไปค่ะ อีกอย่างอย่าลืมว่าเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น" เธอรีบแก้ตัวแต่ใบหน้ากลับแดงขึ้นแปลก ๆ ไม่รู้เพราะเขินหรือเพราะตกใจในคำว่า 'ผัว' ที่ออกมาจากปากเขากันแน่
"หื้ม พูดผิดเหรอ?" เขาเลิกคิ้วสูงขึ้นก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างมาลูบใบหน้าของศิรินทราอย่างอ่อนโยน เธอไม่รู้ว่าวันนี้เขามา ไม้ไหน ทำไมจู่ ๆ ถึงแสดงท่าทีแบบนี้ มันเหมือนไม่ใช่เขาเลยสักนิด
"ถ้าพูดผิดคงต้องโดนทำโทษสินะ คนที่นี่ทำผิดไม่มีใครไม่ถูกลงโทษ อีกอย่างเธอจะได้สนิทกับฉันมากขึ้นยังไงล่ะ" เขายังพูดต่อ
"ไม่นะ อุ๊บบบ!" ริมฝีปากหยักหนาก้มลงมาประกบจูบหญิงสาวอย่างเอาแต่ใจ ปากหนาดูดดื่มความหวานจากปากเรียวบางของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้ม ยิ่งคิดถึงชื่อผู้ชายอีกคนที่ออกมาจากของคนตัวเล็กความรู้สึกร้อนระอุก็ปะทุขึ้น เขาบดขยี้จนริมฝีปากของเธอแดงเจ่อ
“อย่านะ!” เสียงห้ามของเธอไม่เป็นผลเมื่อคนตรงหน้า เอาแต่ใจ จากจูบเปลี่ยนมาเป็นซุกไซ้ตามซอกคอขาวระหงอย่างพอใจ ก่อนจะดึงเสื้อผ้าที่สวมกายของศิรินทราออกอย่างรวดเร็ว พร้อมดูดเม้มผิวกายจนเกิดรอยแดง เขากระหายร่างกายนี้เต็มทน จะให้ปล่อยเธอให้ไปอยู่กับผู้ชายอื่นหรือ ไม่มีวันเด็ดขาด
แม้จะปฏิเสธมากแค่ไหนกับสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำ แต่ทว่าความเชี่ยวชาญของชายหนุ่มกลับทำให้ร่างกายของเธอคล้อยตาม จนไม่อาจต้านแรงธรรมชาติได้ ร่างกายของเธอรู้สึกแปลก ๆ ทุกการสัมผัสของเขา
“พูดออกมาสิว่าเราสนิทกันขนาดไหน สนิทถึงขั้นเรียกว่าผัวได้หรือยัง” เขาถามพร้อมยกมือยกมาบีบคั้นขยำหน้าอกหน้าใจของอีกฝ่าย หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมานอกจากสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างทรมาน เขายิ้มพอใจก่อนจะก้มลงไปดูดดื่ม เนื้อตัวสั่นเทายามที่เขาดูดดื่มตามร่างกายเธอ
ผมยาวสลวยปลิวสะบัดกระจายทั่วกรอบหน้า ตามร่างกายมีเหงื่อกาฬผุดขึ้นบริเวณหน้าผาก ไม่นานนักชายหนุ่มร่างกำยำก็ปลดอาภรณ์ของตนออก พร้อมขยับกายจับเรียวขางามแยกออกจากกัน แทรกกลางก่อนจะเห็นสีหน้าคนใต้ร่างทุรนทุรายมากกว่าเดิมเมื่อเขาดันความเป็นชายเข้าไปจนลึกสุดลำ หนทางช่างคับแคบเหมือนวันแรกไม่มีผิด ร่างกายหนาโหมกระหน่ำจนเนื้อตัวของศิรินทรา สั่นคลอน เสียงครางของคนตัวโตดังขึ้นมาพร้อมเสียงเนื้อกระทบกัน เขาก้มใบหน้ามาจูบดูดดื่มควานหาความหวานจากโพรงปากของอีกฝ่ายจนพอใจ ในตอนนี้ในหัวใจของศิรินทราได้แต่ด่าทอตัวเองที่ไม่อาจห้ามเขาได้เลยสักนิด ยิ่งเป็นแบบนี้เธอเองก็แทบไม่มีหน้าไปสู้หน้าสุริยะ ใช่ เธอเคยมีใจให้กับเขา ผู้ชายที่แสนดีต่อเธอเสมอมา มีใครบ้างจะไม่รู้สึกชอบพอ มาวันนี้ความรู้สึกนั้นมันเหมือนตราบาปที่ทำให้เธอไม่กล้าชอบเขาอีก ร่างกายเธอมันสกปรกแล้ว เธอไม่คู่ควรกับเขาแล้ว เมื่อคิดอย่างนั้นน้ำตาเจ้ากรรมที่ไหลรินออกมาสีหน้าคิ้วขมวดของกวินฑาเผยออกมาเมื่อเห็นหยาดหยดน้ำตาของหญิงสาว
ผ่านไปหลายชั่วโมง
ร่างกำยำเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มส่วนล่างเท่านั้น ชายหนุ่มยืนอยู่ที่ระเบียงพร้อมในมือคีบบุหรี่ไว้ก่อนจะยกขึ้นมาสูบ ทำไมหัวใจของเขาถึงรู้สึกผิดมากขนาดนี้ ทำไมกันนะ แววตาคมเข้มหันไปมองหญิงสาวร่างบางที่นอนสลบอยู่บนเตียงกว้างเขาแพ้ให้แก่เธอแล้วนั้นคือคำตอบที่ดังออกมา กวินฑาเดินกลับเข้ามาในห้องนอนพร้อมทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ กายของศิรินทราก่อนจะยกมือขึ้นมาโอบกอดดึงเธอเข้ามาหาตนเสียงครางคลายละเมอของหญิงสาวดังขึ้นชายหนุ่มได้ยินไม่ชัดจึงขยับกายเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
“แม่ขา รินเจ็บ ฮึกฮือ รินเจ็บจังเลยค่ะ” เสียงของเธอดังออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มนวลเนียนอีกครั้ง