บทที่ 5 แอบมาหา
บทที่ 5 แอบมาหา
ด้านลินลดาเธอทนปวดข้อเท้าไม่ไหวจึงมาหาหมอที่โรงพยาบาล ระหว่างนั่งรอเข้าพบหมอก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดดูเวลาด้วย
"ว๊าย!" หญิงสาวหลุดเสียงอุทานด้วยความตกใจปนอึ้งที่เห็นสายไม่ได้รับจากพันไมล์ตั้งหลายสาย และพอกดดูวันและเวลาแล้วหัวใจเธอก็ยิ่งเต้นระส่ำ มือข้างที่จับโทรศัพท์มือถือสั่นเทิ้มอย่างหนัก
"คุณลินลดาเชิญที่ห้องตรวจสองค่ะ" เสียงนางพยาบาลที่ดูแลตั้งแต่แรกเอ่ยเรียกลินลดาเสียงหวาน นางผายมือไปที่ห้องตรวจในตอนที่ลินลดาเงยหน้าขึ้นมอง "คนไข้จะเป็นลมเหรอคะ ทำไมหน้าซีด ๆ" นางพบาบาลรีบเข้ามาหาเพราะเห็นเม็ดเหงื่อผุดออกจากขมับลินลดาและใบหน้าเธอดูซีดกว่าเมื่อหลายนาทีก่อน
"ฉันคงเจ็บข้อเท้ามากค่ะ ช่วยพาเข้าไปหาหมอหน่อยนะคะ" เธอขอความช่วยเหลือจากนางพยาบาลให้พยุงตัวเข้าไปในห้องตรวจสอง พอเข้ามาด้านในแพทย์หญิงก็ให้ลินลิดาขึ้นไปนอนบนเตียงผู้ป่วย
หลายนาทีที่ลินลดาอยู่ในห้องตรวจกระทั่งหมอตรวจและรักษาเบื้องต้นเสร็จ เธอได้ใส่เฝือกอ่อนและให้งดการลงน้ำหนักเท้าข้างที่บาดเจ็บเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ มียาให้กินควบคู่ไปด้วย หมอนัดดูอาการอีกทีก็อาทิตย์หน้า
"อ้าวน้องลิน" น้ำเสียงไม่คุ้นหูลินลดาเท่าไหร่แต่เธอก็หันไปยิ้มให้คนที่เรียกชื่อเธอเมื่อครู่นี้อย่างเป็นมิตร "มาทำอะไรคะ อ้าวนั่นเท้าไปโดนอะไรมา" พอได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวเจ้าของเสียงแล้วลินลดาก็พลอยได้ถอนหายใจ ที่แท้ก็เป็นคุณป้าที่เคยเจอกันที่งานเลี้ยงนี่เอง คุณป้าคนนี้เป็นเพื่อนของแม่เธอที่สนิทสนมกันผ่านการรู้จักคุณลุง
"เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะคุณป้า แล้วคุณป้าเป็นอะไรเหรอคะ"
"โรคคนแก่นั่นแหละลูก แล้วนี่หาหมอเสร็จแล้วใช่ไหม"
"ค่ะ ลินกำลังจะกลับบ้านพอดีเลย"
"ไหวไหมลูก ให้ป้าไปส่งไหม"
คุณป้าท่านนี้ใจดีเป็นที่สุด แต่ลินลดาเกรงใจมากจึงยิ้มให้เธอแล้วปฏิเสธไป
"เดี๋ยวให้คนที่บ้านมารับค่ะคุณป้า" ลินลดาโกหกคำโตพร้อมกับเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อเลี่ยงคำถามซอกแซกที่คุณป้าแกชอบถามตอนเจอหน้ากัน
ความเจ็บปวดค่อย ๆ ทุเลาตามลำดับด้วยหมอฉีดยาลดอาการปวดแบบเฉียบพลันให้เธอและกำกับว่า หลังจากฉีดยาครบสองชั่วโมงแล้วให้กินข้าวและกินยาตามที่จัดให้ได้เลย และยังมียาคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้ง่วงนอนมาด้วย
ลินลดามาถึงบ้านก็เกือบมืด เธอเร่งฝีเท้าที่พอจะเดินไหวอยู่ขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเตรียมตัวกินยาแล้วนอนพักผ่อน ก่อนหน้านี้เธอกินหมี่คลุกเจ้าดังกับเพื่อนที่ทำงานมาแล้วจึงไม่หิวอะไรมาก
ครืด~ ครืด~
ลินลดาหยุดชะงักเท้า เอี้ยวใบหน้าไปมองโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอน เห็นแค่ชื่อคนโทร. เข้ามา ร่างกายเธอก็ร้อนวูบวาบเหมือนจะเป็นไข้แล้ว สายของพันไมล์เป็นสิ่งที่เธอเลี่ยงไม่ได้แต่ก่อนหน้าก็ทำมาแล้วและให้เดาสีหน้าเขาตอนนี้คงไม่ต่างอะไรจากยักษ์ร้าย ที่กำลังแยกเขี้ยวและขมวดคิ้วแน่น
"ค่ะ"
(ยังมีชีวิตนี่) น้ำเสียงยียวนที่ส่งทอดมาทำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
"ลินไม่สบายค่ะ ก็เลยไม่ได้จับโทรศัพท์เลย"
(อ่อนแอ)
ลินลดาย่นหัวคิ้ว เธอเจ็บขนาดนี้เขายังมองว่าอ่อนแออีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เขาพาเธอไปเดินวันนั้นมันจะเกิดอุบัติเหตุไหม อยากจะโทษว่าเป็นความผิดเขาสักครั้งแต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
"ลินข้อเท้าพลิก แล้วหมอให้เข้าเฝือกอ่อนค่ะ" เธอบอกความจริงเขา แต่ทุกอย่างเป็นเหมือนลมที่พัดผ่านร่างกายพันไมล์เท่านั้น
(ยี่สิบนาที)
"คะ?" หัวใจเริ่มเต้นเร็วกับคำพูดนั้น
(ฉันต้องเห็นหน้าเธอที่คอนโด)
"แต่ลินไปไม่ไหวหรอกค่ะ ลินเจ็บเท้าจริง ๆ" เธอบอกเสียงอ่อยและหวังว่าเขาจะเห็นใจ
(เธอเสียเวลาไปแล้วหนึ่งนาทีนะ เหลือสิบเก้านาที)
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความกระวนกระวายใจ
"ค่ะ ลินจะไป" หญิงสาววางสายชายหนุ่มแล้วคว้ากระเป๋าผ้าใบโปรด เดินออกมาจากห้องนอนตัวเอง ลงไปชั้นล่างเพื่อหยิบกุญแจรถทว่าไม่ทันได้ออกไปไหนก็มีลูกน้องของคุณลุงเดินเข้ามาถาม
"คุณลินจะไปไหนครับ"
"อะ..อ๋อ ลินว่าจะออกไปร้านสะดวกซื้อค่ะ แล้วก็ไปซื้อของกินเพราะหิวมาก"
ลูกน้องทำหน้างงเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นลินลดาออกไปซื่อของตอนค่ำ ๆ แบบนี้ และยังไม่เคยได้ยินว่าเธอหิวเวลานี้ด้วย กลับจากโรงเรียนเธอก็ขึ้นห้อง จะลงมาก็ตอนที่คุณผู้หญิงเรียกมาทานข้าว
"งั้นผมขับรถให้ดีกว่าครับ"
"ไม่เป็นไร ๆ ลินขับเองได้"
"แต่เท้าคุณลินยังไม่หายดีนะครับ" เธอจำใจต้องให้ลูกน้องขับรถให้เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย พอมาถึงร้านสะดวกซื้อลินลดาก็เข้าไปเลือกซื้อของ เธอได้นมรสช็อกโกแลตมาสองขวดและขนนขบเคี้ยวอีกสี่ห่อ พอได้ของที่ต้องการก็ขึ้นมาบนรถ คราวนี้เธอสั่งให้คนขับรถพาไปร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่อยู่ใกล้กับคอนโดมิเนียมของพันไมล์
ขณะที่ลินลดายืนซื้อก๋วยเตี๋ยวอยู่เธอก็ไม่ลืมมองหาทางไปที่ไม่ให้คนของคุณลุงเห็น พอเห็นทางแล้วจึงหันไปมองรถยนต์หรูที่จอดอยู่ด้านหลัง เธอสั่งให้เขารออยู่ในรถ
"ได้แล้วค่ะ" แม่ค้ายื่นถุงก๋วยเตี๋ยวแห้งที่เธอสั่งไปทั้งหมดสามถุงมาให้ ลินลดาจ่ายเงินเสร็จจึงค่อย ๆ เดินเรียบ ๆ ไปทางด้านหลังร้านทำทีว่าไปหยิบตะเกียบที่วางอยู่ในกล่องบนโต๊ะด้านในสุด พอได้โอกาสจึงรีบเดินเข้าไปในมุมมืด เดินซอกแซกไปตามทางแคบ ๆ จนมาโผล่ด้านหน้าทางเข้าคอนโดมิเนียมของพันไมล์ "ทำไมเราต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย" หญิงสาวพรูลมหายใจออกด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในแต่ก็ไม่วายถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ให้ขึ้นไปอีก คอนโดมิเนียมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยมาก ๆ
ลินลดาถอนหายใจออกแล้วโทร. หาพันไมล์เพื่อให้เขาลงมารับเธอที่ด้านล่าง
"พี่พันไมล์"
(ว่าไง)
"ลินอยู่ข้างล่าง พอดีว่าเขาไม่ให้ขึ้นไปค่ะ"
(แล้ว)
"ลงมารับลินได้ไหม" พันไมล์เงียบไปครู่หนึ่งแล้ววางสาย จากนั้นไม่นานพนักงานสาวก็เดินเข้าบอกให้ปล่อยลินลดาขึ้นไปหาพัมไมล์ได้
"เฮ้อ…" คนตัวเล็กพาตัวเองมาจนถึงห้องพักชายหนุ่ม เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าสวยของลินลดา
"เธอมาช้า"
"ลินต้องแอบออกมาค่ะ" ท่าทางเหนื่อยล้าของลินลดาเรียกความสนใจจากมาเฟียหนุ่ม เขามองข้อเท้าที่ถูกหุ้มด้วยเฝือกอ่อน จากนั้นจึงเลื่อนสายตาขึ้นมาหยุดที่ใบหน้าเธอ
"ไปเตรียมตัว ฉันไม่เอาผู้หญิงสกปรกหรอกนะ"
"…" เธอวางถุงก๋วยเตี๋ยวและถุงขนม-นมที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ ตอนนี้เหมือนยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วด้วย ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย พออาบน้ำแทนที่จะสดชื่นแต่กลับง่วงมากกว่าเดิม ในห้องพัมไมล์ค่อยข้างสะอาดและมีกลิ่นหอมผ่อนคลาย เมื่ออาบน้ำเสร็จลินลดาก็เดินออกมารอเขาในห้องนอน
เตียงนุ่ม ๆ และแอร์เย็นฉ่ำทำเปลือกตาเธอปรือแทบลืมไม่ขึ้น หญิงสาวล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนด้วยความง่วงและเผลอหลับไป
มาเฟียหนุ่มถือแก้วไวน์เดินเข้ามาในห้องนอนหรู เขามองร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำที่นอนหันหลังให้อยู่บนเตียงด้วยสายตากระหาย แก้วไวน์ถูกวางลงบนโต๊ะจากนั้นเขาก็เริ่มปลดเชือกเสื้อคลุมอาบน้ำของตัวเองออก
"หันมา" ออกคำสั่งเสียงเข้มแต่ลินลดาก็นอนนิ่งไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนที่เธอเป็น "ลิน" น้ำเสียงเริ่มขุ่นมัว "ลินละ…." คราวนี้เขาจับตัวเธอพลิกมา จึงได้รู้ว่าลินลดาหลับไปแล้วและเธอก็หลับลึกเสียด้วย
"แม่ง! ให้มาเอาไม่ได้ให้มานอนหลับสบายแบบนี้!"