EP_3
“พ่อมอบความหวังทั้งหมดไว้ในมือแจม รวมทั้งชีวิตของคนงานหลายร้อยคนด้วย”
แต่สิ่งที่ลูกคนนี้ต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อเอ่ยมาเลยสักนิด ‘ความรักจากพ่อ’ ต่างหากที่ลูกอยากได้ อยากสัมผัส แต่ไม่เคยได้เลยแม้เพียงครั้งเดียว
ถ้าความเสียสละในครั้งนี้ จะแลกกับ ‘ความรักจากพ่อ’ จากพ่อที่พึงมีให้ลูกคนนี้บ้าง วิวรรญาก็ยินดีจะเอาหัวใจที่ไร้รัก กับเรือนกายที่ไร้ชายคนรักต้องการเข้าแลกอย่างไม่ต้องคิดนาน
“ก็ได้ค่ะคุณพ่อ แจมจะช่วยค่ะ”
กระนั้นวิวรรญาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตอบพ่อออกไปแบบนั้น รวมทั้งเกรียงไกรกับอรพินด้วยที่ต่างงวยงงกับหลานสาวผู้น่าสงสารไม่น้อย ไกรเดชเองก็แปลกใจ แต่เหนือสิ่งใดคือมีความดีใจอย่างที่สุดแล่นเข้ามาในหัว เพราะจะได้ปลดแอกที่แบกไว้บนหลังลงสักที
“แกแน่ใจแล้วเหรอแจม ที่รับปากพ่อไปอย่างนั้น แต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เรื่องช้อปปิ้งนะที่ไม่ถูกใจแล้วจะเอาไปคืนไปเปลี่ยนได้น่ะ”
ลดาลัยเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนร่วมงานย้ำถามอีกครั้งอย่างคนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“แกจะไปถามมันซ้ำๆ ทำไมล่ะยีน ก็รู้ๆ อยู่แล้วว่ามันตอบพ่อไปอย่างนั้นมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว ย้ำคิดย้ำถามอยู่นั่นล่ะ น่ารำคาญ”
ทาริกาเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนร่วมงานอีกคนรีบแย้ง ขณะทั้งสามนั่งอยู่ม้าหินอ่อนหน้าบริษัท เพื่อรอเกรียงไกรมารับวิวรรญา เพราะวันนี้เอารถไปทำธุระ
ครั้นเพื่อนทั้งสองจะไปส่ง บ้านก็อยู่คนละทิศละทาง คือวิวรรญาไปบ้านบึงระยะทางสี่สิบกว่ากิโลเมตร ส่วนเพื่อนไปฉะเชิงเทราสามสิบกว่ากิโลเมตร
“ถึงจะเปลี่ยนใจก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะยีน เพราะคุณพ่อรับเงินมาจากเขาเอาไปหมุนในบริษัทแล้ว และวันนี้ลุงเจียงเอาเงินของเขาที่พ่อโอนมาให้ไปไถ่ที่สวนแล้วด้วย”
วิวรรญาเอ่ยเสียงอ่อย จนเพื่อนทั้งสองอดสงสารไม่ได้
“แล้วความสุขของแกล่ะแจม จะมีบ้างหรือเปล่า แต่งงานกับผู้ชายที่ยังไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ นิสัยใจคอเป็นยังไงก็ไม่รู้ สูงต่ำดำขาว หล่อล่ำหรือขี้ริ้วขี้เหร่ยังไงก็เดายาก”
ลดาลัยถึงกับโอดครวญเพราะกลัวแทน วิวรรญาถอนหายใจออกมาน้อยๆ อย่างเหนื่อยหน่าย
“ความสุขของเราตอนนี้กับตอนที่จะต้องไปแต่งงานกับใครสักคนคงจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นักหรอกนะยีน บางทีถ้าเราจะโชคดี คนที่เราไม่เคยเห็นหน้าอาจจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าคนที่คบหากันมาหลายปีก็ได้นะ”
ด้วยหัวใจนั้นอดคิดถึงแฟนที่คบหากันมาตั้งสามปีไม่ได้ แต่จู่ๆ ก็เลิกกันไปทิ้งให้ตัวเองต้องพกพาแต่ความเจ็บช้ำมาเกือบจะสองปีแล้ว และยิ่งเจ็บหนักเข้าไปอีกเมื่อได้เห็นการ์ดแต่งงานของเขา
“ลุงเจียงมาแล้ว! กลับกันดีกว่าพวกเรา ขอบใจนะที่นั่งรอเป็นเพื่อน ไว้เจอกันวันจันทร์นะ”
วิวรรญาโบกมือลาเพื่อนด้วยความเคยชินก่อนจะขึ้นรถที่ลุงเป็นคนขับ โฉนดในซองพลาสติกถูกยื่นให้หลานสาวดูเป็นขวัญตาทันทีที่รถแล่นออกจากประตูนิคมฯ
“ได้คืนมาลุงก็ดีใจอยู่หรอกนะแจม แต่ลุงรู้สึกผิดจริงๆ เลยที่จะต้องเอาชีวิตของหลานสาวที่ลุงรักเหมือนลูกไปแลก”
เกรียงไกรเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อหลานยัดโฉนดกลับเข้าซองแล้ว
“แจมดีใจค่ะที่มีโอกาสได้ตอบแทนที่ลุงกับป้าเลี้ยงแจมมา”
น้ำเสียงที่แผ่วเบานั้นเกรียงไกรอ่านออกทันทีว่าหลานไม่อยากจะพูดถึงมัน เลยตัดสินใจขับรถไปเงียบๆ กระทั่งถึงบ้าน
“อ้าว! กำนันน่ะเอง สวัสดีครับ มาหาผมถึงบ้านมีอะไรให้รับใช้ครับ”
ลงรถได้ก็รีบตรงเข้าบ้านที่มีแขกรออยู่ถึงสามคน หนึ่งคือกำนันที่คุ้นหน้ากันดีอยู่แล้ว แต่อีกหนึ่งหนุ่มในชุดกะลาสีสีขาวนั้น เกรียงไกรกับวิวรรญาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
กระนั้นก็ยกมือรับไหว้ทหารหนุ่มที่รู้กาลเทศะยกมือไหว้เจ้าของบ้านโดยไม่มีใครต้องบอก กำนันที่ดูจะอายุน้อยกว่าเองก็รีบยกมือไหว้ลูกบ้านก่อนเช่นกัน
“โถ! ใครจะกล้าใช้เฮียเจียงกันล่ะครับ”
เกรียงไกรรีบรับไหว้แล้วทรุดกายลงนั่งชุดรับแขกฝั่งตรงข้าม เองอรพินเห็นสามีกลับมาแล้วเลยรีบลุกขึ้น
“พี่เจียงมาแล้วงั้นเชิญพ่อกำนันคุยกันเอานะคะ พินขอไปทำมื้อเย็นก่อน ถ้าพ่อกำนันไม่รีบไปไหนก็เชิญรอกินมื้อเย็นด้วยกันนะคะ ไปกันเถอะแจม”
พยักหน้าชวนหลานสาวเดินไปหลังครัวอย่างรู้งาน กำนันเลยรีบบอกความจำนงทันทีเมื่อเดาได้ว่าเจ้าของบ้านอยากรู้เต็มทน
“พอดีเพื่อนผมที่เป็นผู้พันนาวาอากาศเอกในฐานทัพเรือชื่อทรงพล พาทหารปลดประจำการสองหนุ่มนี้มาฝากให้ทำงานที่บ้าน แต่เมื่อเช้าผมดันได้คนมาแล้วสอง ก็เลยรับไว้ได้แค่หนึ่ง เหลืออีกหนึ่งไม่รู้จะให้ไปไหน ผู้ใหญ่เลยบอกผมให้มาหาเฮีย เห็นว่าคนเก่าลากลับบ้านไปเผื่อจะอยากได้มาแทนกัน เจ้านี่มันชื่อลิน อยากจะทำสวนทำไร่ได้ความรู้แล้วจะได้กลับไปทำที่บ้านตัวเองบ้าง แม่มันตายไปตั้งแต่เด็กๆ พ่อก็มีเมียใหม่ เลยไม่ได้รีบร้อนจะไปไหน”
“ตั้งแต่คนเก่าออกไปเมื่อสองเดือนก่อน ผมก็ว่าจะไม่จ้างใครแล้วล่ะครับกำนัน ค่าแรงขั้นต่ำก็แพง ไหนจะข้าวปลาอาหารต้องหาให้อีก กะว่าจะทำกันไปเรื่อยๆ สองตายาย ถึงเวลาจะต้องใช้คนก็ค่อยจ้างเป็นครั้งๆ ไปครับ จ้างไว้ประจำไม่ไหวค่าแรงกินตายเลย”
เกรียงไกรบอกตามความจริงทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย กำนันได้ยินแบบนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้นอกจากหันไปหาทหารหนุ่มที่นั่งเงียบๆ ฟังผู้ใหญ่ทั้งสองคนเท่านั้น
“ผมก็เข้าใจเฮียครับ ทุกวันนี้อะไรๆ ก็แพงทั้งนั้น เรื่องอย่างนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับเฮีย”
กำนันยอมจำนนแต่โดยดี ก่อนจะหันไปหาทหารหนุ่มผิวคล้ำรูปงามนามสั้น