EP_2
ดวงตาคู่สวยเศร้าจ้องมองหน้าจอแทบไม่กะพริบ เมื่อการ์ดแต่งงานแฟนเก่าที่ห่างกันไปนับปีโดยไม่มีคำอำลาถูกเพื่อนสาวถ่ายรูปส่งมาให้ทางไลน์ แม้จะตระเตรียมใจไว้แล้วว่าวันนี้จะมาถึง
แต่หัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงุนงงสงสัยมาแรมปี และมีแต่อาการเจ็บช้ำนับตั้งแต่วันที่แฟนหนุ่มห่างไปกระทั่งวันนี้ วันที่ได้รู้เหตุผลอันแท้จริงว่าทำไมเขาถึงห่างไปไม่ยอมบอกลาแม้เพียงคำเดียว
นั่นคือการมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ และกำลังจะมีงานวิวาห์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้นั่นเอง วิวรรญา ไวทยาสกุล ค่อยๆ ปิดโปรแกรม แล้วเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานเข้ากระเป๋า
ก่อนจะสะพายเดินออกจากออฟฟิศที่ร้างลาจากผู้คน เพราะเลยเวลางานมาเกือบชั่วโมงแล้ว กระบะป้ายแดงคู่ใจถูกควบออกจากรั้วบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครจังหวัดชลบุรี
มุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอบ้านบึงอย่างคนเหม่อลอย จนแทบไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าเลี้ยวรถเข้าไปในรั้วบ้านสวนตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แม้จะไม่คุ้นตา แต่ก็รู้ว่าเป็นรถของใคร
“พ่อเรามารอตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะ”
อรพินเดินออกมาหน้าบ้านเพื่อได้ยินเสียงรถแล้วจึงรีบรับไหว้หลานสาวที่ทำหน้าแปลกใจไม่น้อยกับการมาของพ่อซึ่งนับครั้งก็ว่าได้
“คุณพ่อมีอะไรกับแจมเหรอคะป้า”
วิวรรญาเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่คนถูกถามก็ไม่มีโอกาสได้ตอบ เมื่อทั้งสองเดินเข้าบ้านก็จะเจอชุดรับแขกแล้ว ไกรเดชพยักหน้ารับไหว้ลูกสาว
“มานั่งนี่สิแจม พ่อมีธุระสำคัญจะคุยด้วยหน่อย”
เขาตบมือลงข้างตัว แต่วิวรรญากลับเลือกนั่งฝั่งตรงข้าม เพื่อหมายจะได้จ้องมองหน้าพ่อให้ชัดๆ และอยากรู้เหลือกำลังว่าธุระสำคัญของพ่อนั้นคืออะไร
ไกรเดชหันไปหาเกรียงไกรผู้เป็นพี่ชายที่นั่งอยู่ไม่ห่างเพื่อหมายจะให้เป็นคนบอกเล่า แต่เมื่อเห็นพี่นั่งนิ่งเขาจึงไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว เพราะในใจมันร้อนรนเหลือกำลัง
“ก็อย่างที่แจมรู้ว่าตอนนี้บริษัทเรามีปัญหาการเงินจากภาวะค่าเงินบาทแข็ง ปัญหาสินค้าตีกลับเพราะแจ้งว่าไม่ได้มาตรฐาน และปัญหาอื่นๆ จนพ่อเอาบ้านเอาสมบัติทุกอย่างรวมทั้งเอาที่สวนลุงเจียงไปจำนองไว้ก็ยังแก้ไม่ได้ เงินสินสอดของยัยแยมก็อุดไม่อยู่ หวังจะให้ลูกเขยช่วยก็ผัดวันประกันพรุ่ง พูดเหมือนจะไม่อยากช่วย จนพ่อต้องหาทางออกอื่น กว่าจะคิดได้ก็นานหลายวันถึงเห็นทางออก แต่ก็ต้องมีแจมเป็นคนสำคัญที่จะช่วยพ่ออยู่ดี”
ไกรเดชจ้องมองหน้าลูกเพื่อค้นหาว่าจะมีปฏิกิริยายังไง แต่เมื่อลูกนิ่งเขาก็อ่านออกว่าลูกยังไม่ต่อต้านใดๆ
“แจมจะช่วยยังไงคะคุณพ่อ”
วิวรรญาอดคิดถึงน้องต่างแม่ที่เพิ่งจะแต่งงานไปเมื่อสามสี่เดือนก่อน เพื่อหวังจะให้ครอบครัวสามีเอาเงินมาช่วยขึ้นมาไม่ได้ ในใจก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ได้ยินว่าพ่อมาขอให้ทำแบบน้องสาวอีก
“เฮียซ้งมีลูกชายคนกลางที่เพิ่งเรียนจบจากอเมริกามาไม่นาน ชื่อปาลิน เรื่องรูปร่างหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี การศึกษาก็ดี ทำงานก็เก่ง ที่สำคัญจะได้ก้าวขึ้นไปเป็นใหญ่เป็นโตต่อจากเฮียซ้งอย่างแน่นอน เพราะพี่ชายคนโตแกตัดออกจากกองมรดกแล้ว พ่อว่าจะเป็นเรื่องดีถ้าแจมจะได้มาเป็นสามี”
แต่ดูเหมือนคำขอของหญิงสาวจะไม่เป็นผลซะแล้ว
“ถ้าแจมตกลงพ่อจะแจ้งทางนั้นทันที เพราะพ่อไปคุยมาแล้วเมื่อวานนี้ เขาก็ยินดีจะเกี่ยวดองกับเรา โดยมีเงื่อนไขที่เป็นธรรม นั่นคือพ่อจะต้องโอนหุ้นในบริษัทให้แจม สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ส่วนเฮียก็จะทำแบบเดียวกัน แล้วให้พ่อปาลินเข้ามาบริหารงานในบริษัทพ่อทั้งหมด จนกว่าการเงินจะดีขึ้นแล้วถึงจะโอนต่อให้พ่อหรือใครสักคนที่เขาเห็นว่ามีความสามารถมาทำแทน หรือปาลินอาจจะบริหารต่อไปเรื่อยๆ พ่อก็จะได้พักผ่อนอย่างสบายใจหายเหนื่อย แจมว่าไงล่ะ จะช่วยพ่อได้หรือเปล่า”
ไกรเดชมองหน้าลูกที่เอาแต่นั่งนิ่งไม่ไหวติงใดๆ ก็ให้ขุ่นเคืองน้อยๆ แต่ก็พยายามจะเก็บงำเอาไว้
“พ่อก็ไม่ได้บังคับแจมหรอกนะ แล้วแต่ความสมัครใจน่ะลูก เอากลับไปคิดก่อนก็ได้ พ่อไม่ได้รีบร้อนอะไร”
เกรียงไกรที่อยู่ในฐานะลุง แต่ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นพ่อให้หญิงสาวมาตั้งแต่ห้าขวบรีบเอ่ยขึ้น เพื่อไม่ให้บรรยากาศในบ้านตึงเครียดมาไปกว่านี้
แต่ไกรเดชคนน้องที่มักจะทำตัวเป็นพี่แทนกลับอึดอัดในประโยคนี้ เพราะอยากจะได้คำตอบโดยเร็ว และจะต้องเป็นคำตอบที่เขาพึงพอใจเท่านั้น
“จริงๆ แล้วก็รีบอยู่นะพี่เจียง บอกตรงๆ ว่าสิ้นเดือนหน้าเงินที่จะจ่ายพนักงานผมยังมืดแปดด้าน ออร์เดอร์จากลูกค้าเข้ามาก็ไม่มีทุนซื้อของมาทำส่ง บ้านก็กำลังจะถูกเอาไปขายทอดตลาดอยู่ในไม่กี่วันนี้แล้วเพราะไม่มีปัญญาส่ง ถ้าแจมตกลงจะแต่งงานกับพ่อปาลิน เฮียซ้งจะให้เงินมาหมุนก่อนสิบล้าน แล้วจะตามไปซื้อบ้านคืนให้และจะให้แจมร่วมเป็นเจ้าของกับพ่อคนละครึ่ง แล้วก็จะไถ่สวนของลุงเจียงคืนให้ด้วย ถ้าแจมไม่ติดขัดอะไร ไม่มีใคร ก็ช่วยพ่อหน่อยนะ พ่อไม่เคยขออะไรแจมเลย แต่ครั้งนี้ถือว่าพ่อขอก็แล้วกัน พ่อไม่มีทางไป ไม่มีทางเลือกและไม่เหลือใครอีกแล้ว”
วิวรรญาได้เห็นหน้าพ่อเพียงไม่กี่ครั้งนับตั้งแต่จำความได้ แล้วก็ถูกพ่อผลักไสให้มาอยู่กับลุงกับป้าที่บ้านบึงนี้ตั้งแต่พ่อกับแม่เลิกรากันไป กระนั้นก็ยังจำได้แม่นยำว่าพ่อจะไม่เคยก้มหัวให้ใคร หรือขอร้องอ้อนวอนใครเลย นี่จึงถือเป็นการขอครั้งยิ่งใหญ่ที่เคยได้เห็นมา