ตอนที่ 1
ที่บ้านหลังใหญ่
ภายในอาณาบริเวณของไร่อ้อยกว้างใหญ่ บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ ที่ป้ายทางเข้าขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า ‘ไร่อ้อยตะวันล้อม’
“หนูมาหาคุณเควินค่ะ”
หญิงสาวผู้มีใบหน้าสะสวยสะดุดตา ดวงตาคมดำ ผิวผาวสะอ้าน จอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วรีบตะโกนบอกกับลุงยามที่กำลังนั่งเล่นไลน์ พิมพ์แชตตอบโต้กับสาวแก่แม่ม่ายอยู่ในป้อมยามหน้าประตูทางเข้าไร่ เมื่อเห็นแกมองลอดแว่นมาที่หล่อนพร้อมด้วยสายตาตั้งคำถาม
“ช่วงนี้ไร่อ้อยไม่ได้รับคนงานเพิ่มนะนังหนู... เอ็งมาผิดจังหวะหรือเปล่าวะ”
สำเนียงเหน่อ บ่งบอกถึงความเป็นคนพื้นที่ ลุงแสงกล่าวกับหญิงสาว ถ้าเป็นเดือนที่แล้วละก็ใช่ เจ้าของไร่เคยประกาศรับสมัครคนงานในไร่อ้อย แต่ตอนนี้ก็ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้วนี่นา
“ไม่ได้มาสมัครทำงานในไร่ค่ะ คุณเควินนัดให้หนูมาทำงานบ้านวันนี้ค่ะ”
รีบบอกธุระของหล่อน มือเรียวยกขึ้นกรีดช่อผมบางส่วนที่ร่วงระลงมาบดบังเสี้ยวหน้า
“มาทำงานบ้าน... อ๋อ... งั้นเอ็งรอเดี๋ยวนะ”
เพื่อความแน่ใจ ลุงแสงรีบกดโทรศัพท์หาผู้เป็นนายเพื่อสอบถาม พูดคุยกันสองสามคำพอเข้าใจ เจ้าของไร่ก็กดวางสาย ลุงแสงรีบหันมาเปิดไม้กั้นประตูทางเข้า
“ขอบคุณค่ะลุง”
หญิงสาวรีบขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาในไร่
ในเวลาต่อมา
“เธอใช่ไหมที่จะมาทำงานบ้านให้ฉัน”
ที่เทอเรสหน้าบ้าน เสียงทุ้มกังวานของเควินผู้เป็นเจ้าของไร่อ้อยที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้ง
ทว่าเมื่อหันมาเผชิญหน้า หล่อนก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งว้าว... ต้องเรียกว่าสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกสินะ ให้ตายเถอะโรบิ้นให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต อีตาเจ้าของไร่อ้อยคนนี้หล่อมาก
ขอว้าวอีกสีกครั้งเพราะหัวใจยังเต้นแรง... เป็นเพราะว่าเขาเป็นฝรั่งนี่เอง ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมผู้ชายคนนี้จึงมีชื่อฝรั่งว่า ‘เควิน’ รูปร่างสูงใหญ่ที่เห็นอยู่นี่น่าจะเฉียดสองเมตร
หญิงสาวเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นเจ้าของไร่อ้อยรายใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนที่ส่งอ้อยป้อนเข้าโรงงานน้ำตาลรายใหญ่ระดับประเทศ ผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมน้ำตาลคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา
“สวัสดีค่ะคุณเควิน... หนูชื่อน้ำอ้อยค่ะ”
เสียงใสแนะนำตัวเอง สองมือกระพุ่มไหว้หนุ่มใหญ่วัยเฉียดสี่สิบ แต่เขายังดูหนุ่มแน่น... และก็หล่อเหลือเกิน
แม้ว่าเควินจะใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อต แต่ความกำยำล่ำสันของร่างกาย ก็ทำให้สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อตึงเต็มอยู่ภายใต้เสื้อของเขา
“เรียกฉันว่า ‘เคน’ ก็ได้... ”
เขาถอดหมวกปีกกว้างแบบคาวบอย ส่งยิ้มหวานให้หล่อน เส้นผมบนศีรษะของเควินเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มและร้องเท้าบูตสีดำช่วยเสริมส่งให้ชายผู้มีความสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งดูสง่างาม ท่วงท่าก้าวเดินองอาจสมชายชาตรี
“ค่ะ... คุณเคน”
ตอบขณะมองร่างกำยำไม่วางตา ราวกับว่าดวงตาคู่นี้ได้ถูกสะกดเอาไว้ให้มองความเซ็กซี่ของเขา
“อืม... ชื่อแปลกดีนะเรา”
เควินกล่าวขำๆ ความสนใจทำให้ต้องถามต่อ
“แล้วทำไมชื่อน้ำอ้อย... ”
เขาย่นหน้าผากถาม ดวงตาสีสนิมเหล็กดูเข้มขึ้นเล็กน้อย ขณะจ้องมองหน้าหล่อน
“พ่อตั้งให้ค่ะ... ”
หญิงสาวตอบซื่อๆ
“แสดงว่าหวานใช่ไหมเรา... ไม่งั้นคงไม่ชื่อน้ำอ้อย แต่ชื่อก็น่ารักดีนะ... ฉันชอบ... ”
เควินหัวเราะ เขาคงอยากชิม อันที่จริงไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นที่น่ารัก แต่หญิงสาวคนนี้ยังมีใบหน้าสะสวยสะดุดตาจนเขามองแล้วมองอีกด้วยความตะลึง โดยเฉพาะสองเต้าอะร้าอร่าม มันดูอวบใหญ่ล้นหลามเกินตัวเหลือเกิน ใหญ่มากจนเขาตะลึงมองแล้วมองอีก
“ตอนนี้หนูอายุเท่าไร?”
สัดส่วนสะดุดตา อะร้าอร่ามของหญิงสาวตรงหน้า ทำให้เควินเกิดอาการอยากรู้ขึ้นมาเชียว
ดูก็รู้ ว่าเขาสนใจมาก ถามขณะสายตาคมกริบจ้องมองเรือนร่างเอิบอิ่มและอวบอัดไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง
“เพิ่งครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ”
ตอบตามความจริง
เควินคลี่ยิ้ม รู้สึกโล่งใจ ว่าเขาจะไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์อย่างแน่นอน... ถ้าวันหนึ่งเกิดคิดหื่นกับหล่อนชนิดที่ว่าห้ามใจไม่อยู่
“แล้วตอนนี้เรียนหนังสือหรือเปล่า”
อยากรู้ ถามขณะสายตาจับจ้องอยู่ที่เส้นผมสีดำขลับ ยาวสลวยลงมาเคลียบ่า ดวงตาของหล่อนกลมโต สุกใสเหมือนดวงดาว วามวาวไปด้วยหยาดแววของความมีชีวิตชีวา
“หนูกำลังเรียนปริญญาตรีปีหนึ่งค่ะ”
ตอนนี้น้ำอ้อยกำลังศึกษาอยู่ในคณะบัญชีของมหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย
“ดีแล้ว... การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ... ขวนขวายร่ำเรียนเอาไว้เป็นดี”
เควินกล่าวขณะสายตายังจับอยู่ที่ใบหน้าสะสวยของหล่อน สุ้มเสียงเหมือนผู้ใหญ่สอนเด็ก
“แล้วหนูมีแฟนหรือยัง?”
เขาอยากรู้ขึ้นมาอีก ชอบจมูกของหล่อนที่แลดูโด่งเป็นสันสวย รับกับใบหน้ารูปไข่ เนินหน้าผากกว้าง โค้งนูน