บทย่อ
อะไรก็ช่างแม่งมันเถอะ เธอไม่อยากอายแล้วการนอนไม่หลับในแต่ละคืนมันทรมาน การตื่นตีสี่เตรียมของ นอนดึกเพื่อทำขนมมันทรมานมากกว่านอนอ้าขาอยู่บนเตียงเป็นร้อยเท่า
บทนำ
บทนำ
“นึกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้”
“เบื่อๆ มาหาอะไรทำก่อน”
เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าถือขวดเครื่องดื่มสีเข้มเดินผ่านหน้าแขกไม่ได้รับเชิญที่สนิทสนมยิ่งกว่าพี่น้องในไส้ พร้อมกับเอ่ยคำทักทายและหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟายาวเนื้อผ้ากำมะหยี่สีเทาเข้ม
ผู้มาเยือนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เอื้อมมือไปหยิบแก้วเปล่าทรงเตี้ยมาวางตรงหน้าเพื่อรอเพื่อนสนิทต้อนรับด้วยเครื่องดื่มราคาแพงเหมือนทุกครั้งที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้
ผับกึ่งบาร์ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูงเจ็ดชั้นใจกลางเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะเวียนเข้ามาจึงมีทั้งลูกค้าขาจรและขาประจำ มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ล้วนแล้วต่างชอบบรรยากาศยามค่ำคืนบนชั้นดาดฟ้าอันเย็นสบายของที่นี่
“เอาไหม ถ้าเอาเดี๋ยวกูติดต่อให้”
“หน้ากูมันโหยหาเรื่องเพศขนาดนั้นเลยเหรอ” เวธัสเอ่ยพร้อมขมวดคิ้วเป็นคำถาม
ที่เขาบอกว่าเบื่อแล้วหาอะไรทำอาจจะเป็นดื่มเหล้าหรืออย่างอื่นที่มันสร้างสรรค์จำเป็นต้องวนเวียอยู่กับเรื่องอย่างว่าหรืออย่างไร
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ เห็นหน้ากันทีมันต้องหาผู้หญิงให้ตลอด ประหนึ่งว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่คิดจะทำแต่เรื่องอย่างว่าทุกที
“กูได้ยินว่าวันนี้มีเด็กใหม่ เผื่อมึงสนใจ กูเห็นรูปแล้วอย่างนี้เลย”
กันตภัทรยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วหันมาทางเวธัสพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ทำสีหน้าราวกับว่ามันเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจเขาไปเสียทุกเรื่องจนเขาเริ่มเบื่อขี้หน้าเพื่อนสนิทคนนี้เต็มทน
“เอามาดู” ก็มันนำเสนอจนเขาอยากรู้
“เด็กใหม่ เห็นบอกว่ารับงานครั้งแรก”
“สงสัยมึงมีบัตรวีไอพีเขาถึงส่งมาให้ก่อน”
“ฮ่าๆ เมื่อก่อน ตอนนี้กูแค่ลูกค้าในตำนาน”
เวธัสนั่งมองรูปบนหน้าจอเครื่องมือสื่อสารราคาแพงของเพื่อนสนิทที่มีรูปของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนยิ้มอยู่ เป็นรูปที่ถ่ายทั่วไปของสาววัยรุ่น แต่ที่สะดุดตาเขาคือความสวยของสาวคนนี้ที่เพื่อนสนิทบอกว่ารับงานครั้งแรก
สวยมากทีเดียว คิดอย่างไรถึงมาทำงานแบบนี้
“เท่าไหร่”
“งานดีแบบนี้กูให้เดาว่าเท่าไหร่”
“หมื่นนึง” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ไอ้เชี่ย ประสบการณ์เยอะหรือเปล่าวะ กูคิดว่ามึงจะบอกน้อยกว่านี้”
เวธัสส่ายหน้าไปมา เขาก็แค่เดาตามเรททั่วไปที่เคยได้ยินมาเท่านั้น ราคาก็มีตั้งแต่หนึ่งพันถึงห้าพันแต่คนนี้เห็นว่าเพื่อนนำเสนอจนออกนอกหน้าคงมีอะไรดีกว่าที่คิด
“สรุปกูเดาถูก”
“เออ ตอนแรกกูเห็นราคาก็ตกใจอยู่เพราะกูยังไม่เคยเจอคนตั้งราคาสูงแบบนี้ ถ้าไม่เด็ดพอ” กันตภัทรหัวเราะร่วน ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ตกไปถึงมือเพื่อนแน่
แต่ตอนนี้เขามีคนรักแล้วเจอของดีก็ต้องให้เพื่อนรักเท่านั้นเพราะมันยังโสดและไม่คิดจะมีคนรู้ใจอย่างเขา
ธาม เวธัส ลูกชายคนโตของตระกูลแพรสุขสวัสดิ์ เจ้าของที่พักหลายแห่งในแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะขึ้นชื่อของไทย มีน้องสาวที่อายุห่างกันห้าปีและยังมีคู่หมายที่รู้จักกันตั้งแต่เธอยังเด็กแถมเธอคนนั้นก็เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวที่เขาเห็นหน้ามาตั้งแต่วัยหัดเดิน
พราวมุกเป็นคนสวยแถมยังเพียบพร้อมทั้งนิสัยและฐานะทางครอบครัว พ่อแม่รู้จักกันด้วยอีกฝ่ายทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนครอบครัวของเขาทำธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ทำให้ทั้งสองคนได้เจอกันบ่อยเขาเห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม
“ดีจริงก็เรียกมาให้กู”
เวธัสบอกอย่างไม่อ้อมค้อมกับเรื่องที่เพื่อนเสนอ เขาเองก็อยากจะรู้นักว่ามีอะไรดีถึงตั้งราคาไว้สูงขนาดนี้ ถ้าไม่สมราคาพ่อจะประจานให้
“จัดไปครับเสี่ย”
เพื่อนสนิทยิ้มมุมปากก่อนจะรับเครื่องมือสื่อสารของตัวเองมาติดต่อกับใครบางคน แล้วเขาก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อฝ่ายตรงข้ามตอบตกลง ชายหนุ่มพูดขึ้นโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนว่า
“เจอน้องเขาสามทุ่ม โรงแรมบีบียู กูจองให้เรียบร้อย”
เวธัสขยับลูกตาดำขลับนั้นไปทางเพื่อนสนิท มันบริการดีเกินไปจนเขานึกสงสัย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันความคิดเขาถึงรีบอธิบาย
“กูรู้ว่ามึงเครียดเรื่องแต่งงาน ก่อนแต่งมึงก็ใช้ชีวิตในแบบที่หลังแต่งงานมึงจะไม่ได้ใช้เถอะ ใช้ให้มันคุ้ม อยู่กับสิ่งที่ชอบ”
“แบบไหนที่กูจะไม่ได้ใช้”
“แบบนี้ไง แค่เห็นหน้ามึงกูก็รู้สึกได้ว่านรกมีอีกไม่กี่ก้าวข้างหน้า”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหัวเราะดังหึในลำคอมุมปากได้รูปขยับยกขึ้นข้างหนึ่ง เขาขำกับคำพูดของเพื่อนสนิทที่คิดว่าชีวิตหลังแต่งงานของเขาจะเหมือนอย่างคนอื่นทั่วไปเหมือนอย่างตัวมัน ทั้งที่กันตภัทรเองก็รู้ว่าเขากับ ‘พราวมุก’ จะแต่งงานกันเพื่อให้ทั้งสองครอบครัวทำธุรกิจราบรื่นเท่านั้น
เขาไม่ได้รักเธอเหมือนคนรัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะแต่งงานเพราะเขาเองก็อยากกอบโกยความก้าวหน้าความร่ำรวยและอิทธิพล เธอเป็นเหมือนน้องสาวที่เขาอยากปกป้องไม่มีความรู้สึกอื่นเลย ส่วนพราวมุกรู้สึกกับเขาอย่างไรเขาไม่คิดจะหาคำตอบอยู่แล้วเพราะถ้าเธอตอบตกลงที่จะแต่งงานกับเขาตามคำแนะนำของผู้ใหญ่มันคงไม่มีปัญหาอะไร ผลลัพธ์สุดท้ายอย่างไรก็ต้องแต่งอยู่ดี
พูดง่ายๆ คือเขา...ยังไงก็ได้