บทที่ 5
แม่...
มือเรียวพยายามไขว่คว้า คนตรงหน้าหันมาเหยียดยิ้มให้ ยิ้มที่...เด็กสาวมองแล้วรู้สึกเหมือนมารดากำลังตบหน้าเธอแรงๆ เพราะมันเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้ง เหยียดเยาะ นัยน์ตานั้นมองเธอเต็มไปด้วยแววตำหนิ มองกราดแบบหัวจรดเท้า มือนั้นปัดมือเธอ แล้วหัวเราะเย้ย
เรียกฉันทำไม นังเด็กเลว...แกเคยทำอะไรให้ฉันภูมิใจบ้าง นังลูกหมี
แม่...หนูขอโทษ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว แม่อยู่กับหนูนะ อยู่กับหนู...
ใครอยากจะอยู่กับเด็กดื้อด้านไม่น่ารักแบบแก ตอนคลอดแกมาฉันก็แทบตาย พ่อของแกมันก็...มันระยำ! มันทิ้งฉันไป มันหลอกล่อให้ฉันยอมมันจนมีแก แล้วมันก็ทิ้งฉันไป หย่า! เรียกร้องเงินทองไป มันเลวมาก! พ่อของแกมันเลว อย่ามามองฉันนังลูกหมี ตาของแกเหมือนพ่อเกินไป ฉันไม่ชอบ
แม่จะให้หนูทำยังไง แม่ถึงจะรักหนู…
เด็กสาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลับไปเป็นเด็กอายุห้าขวบอีกครั้ง น้ำตาเธอไหลอาบหน้า เธอกระโดดโลดเต้นอย่างยินดี มารดามองเธอแล้วเม้มริมฝีปาก เมื่อเธอเอ่ยอ้อนขอซ้ำๆ
แม่จ๋า ลูกหมีอยากไปเที่ยว พาลูกหมีไปเที่ยวสวนสนุกนะ
ให้อุ่นพาไป
หนูอยากให้แม่พาไป แม่ขา แม่ขา
ร่างเล็กวิ่งไปเกาะชายกระโปรงของพิมพ์จันทร์ เธอสะดุ้งแล้วสะบัดแรง ร่างน้อยล้มกลิ้งร้องจ้า เธอมองแล้วเบ้ปาก พลางตะโกนเรียกคนรับใช้เสียงดังลั่นบ้าน
มาเอาคุณหนูไปที ฉันจะไปธุระ เร็วเข้า
แม่ขา แม่ขา ลูกหมีจะหาแม่ แม่ขา
ฉันจะไปธุระเร็วๆ เข้า
เธอเดินแกมวิ่งหนีบุตรสาว ที่ร้องจ้าแล้ววิ่งตาม ตามที่ขาสั้นป้อมนั้นจะก้าวทัน สุดท้ายร่างน้อยก็ถูกโอบอุ้มด้วยพี่เลี้ยงร่างอวบ ใบหน้าเล็กๆ ที่มีน้ำตานองนั่น มองหน้าของพี่เลี้ยง พลางสะอื้นฮัก เสียงเล็กๆ ถามเจือสะอื้น น่าเวทนานัก
อุ่นจ๋า ทำไมแม่ต้องหนีลูกหมี ทำไม แม่ไม่รักลูกหมีเลยเหรอ ทำไม อุ่นจ๋า
“แม่ แม่ขา”
เสียงครางเบาๆ ดังลอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ แล้วลืมขึ้น เธอรู้สึกคอแห้งผากไปหมด สมองมึนตื้ออยู่เป็นครู่ ก่อนที่จะรวบรวมสติได้
ฝันร้ายอันแสนสับสนนั้น ทำให้มีคราบน้ำตาบนแก้มของสาวน้อย รัศมีแขค่อยทรงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วปาดมันออก เธอเม้มริมปากที่แห้งผากแน่น มองไปรอบตัว ห้องนี้ไม่คุ้นตาเลย นี่มันที่ไหนกัน? หรือว่าเพื่อนของเธอจองห้องใหม่กันนะ เมื่อคืนนี้เธอเมาจนแทบจะจำอะไรไม่ได้เลยทีเดียว จะว่าไปแล้ว สิ่งที่ชลนีให้เธอลองนี่ก็ดีไม่หยอก ทำให้เธอลืมเลือนไปได้พักใหญ่เลยทีเดียว วันหลังคงจะต้องขอมาลองอีก
ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรต่อประตูห้องก็เปิดเข้ามา บุคคลที่เดินก้าวพรวดเข้ามาทำให้เธอขมวดคิ้ว แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมอก เสียงหวานตวาดออกคำสั่งตามความเคยชิน
“ใครน่ะ ออกไปนะ!”
“อ้อ ตื่นแล้วรึ พอตื่นก็ออกฤทธิ์เลยนะ ลูกหมี อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย”
ถุงกระดาษถูกโยนขึ้นมาบนเตียงของเธอ คนที่กำลังออกคำสั่งกับเธอด้วยน้ำเสียงห้าวดุ ยืนท้าวเอวมองเธอแบบหัวจรดเท้า สายตาคมกริบดุดันนั่น มองแล้วทั้งน่าหวาดเกรง และน่าโมโหไปพร้อมๆ กัน
“คุณเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน แล้วเพื่อนๆ ของฉันล่ะ”
“เพื่อนๆ ของเธอ เธอกล้าเรียกพวกนั้นว่าเพื่อนๆ อย่างนั้นรึ ลูกหมี”
ชายปริศนาถามกลับเสียงสูง รัศมีแขจ้องเขาตาเป๋ง ตาต่อตาสบกันอย่างไม่ยอมหลบ
กล้าดี...
กล้าตะวันคิดในใจ เด็กคนนี้กล้าดีมากที่มองสบตาเขาตรงๆ แบบนั้น พวกคนงานกลัวเพียงแค่เขาปรายตามอง บางคนก็ถึงกับขาสั่น เพราะครั่นคร้ามต่อความน่าเกรงขามของกล้าตะวัน แต่เด็กคนนี้ไม่เลยสักนิด เจ้าหล่อนไม่ตื่นกลัว แม้จะอยู่ตามลำพังกับเขาที่เป็นคนแปลกหน้า เธอดูเย่อหยิ่ง ถือดี ราวกับราชินี
พิมพ์จันทร์ก็ชอบวางท่าเหมือนราชินีเหมือนกัน
ลูกสาวคนนี้ได้เลือดมาจากคุณเยอะนะ พิมพ์จันทร์...
เขาคิดในใจขำๆ แต่ใบหน้าดุดันนั้นไม่ยิ้มสักเพียงนิด กล้าตะวันกอดอก มองเรือนผมสีประหลาดนั่น นี่จะเป็นสิ่งแรกที่เขาจะเปลี่ยนแปลงเธอ เขาไม่ชอบผมของเธอเลยสักนิด มันก๋ากั่น แฟชั่นจ๋า และไม่มีความเป็นกุลสตรีที่ดีแม้เพียงน้อยในสายตาเขา
“คนที่ยื่นยาพิษให้เพื่อน เธอไม่น่าจะเรียกว่าเป็นเพื่อนอีกหรอกนะ ฉันแจ้งตำรวจ จับไปหมดแล้วล่ะ”
เขาแกล้งว่า รัศมีแขเบิกตาโต เธอลุกขึ้นยืนพรวดเดียวถึงตัวเขา ตัวเล็กแต่กล้าห้าวหาญสุดใจมาก เธอพยายามเขย่งเพื่อจะให้กระชากคอเสื้อเขาให้ถึงและตะโกนใส่หน้าเขา แต่อนิจจา เธอสูงเพียงแค่อกเขาเท่านั้น เลยกลายเป็นว่าเธอไปยืนซบอกเขาแล้วตะโกน แทนที่จะทำอย่างใจคิด
“คุณทำอะไรกับเพื่อนๆ ของฉัน แล้วคุณเป็นใคร ตำรวจรึ จับฉันมาแบบนี้ จะเรียกร้องอะไร ฉันมีเงินนะ มีเยอะด้วย ยอมจ่ายเท่าไหร่เท่ากัน ถ้าคุณปล่อยพวกนั้นออกมา”
“อืม...”
เขาผลักเธอเบาๆ แต่รัศมีแขก็กระเด็นไปนั่งพับเพียบบนพื้นพรม มองเขาแล้วอ้าปากค้าง เพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเธอมาก่อน กล้าตะวันสั่นหน้านิดๆ พร้อมกับถอนใจเฮือก
“ร้ายกาจอย่างที่ประกาศตัวไว้จริงๆ แต่งตัว ฉันจะพาเธอกลับกรุงเทพฯ ส่วนเพื่อนๆ ของเธอไม่ต้องห่วง ไม่มีปัญหา ฉันจะไม่แตะต้องทำอะไรพวกนั้น ตราบใดเท่าที่พวกนั้นจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเธอ”
“หมายความว่ายังไง”
รัศมีแขยังคงมึนงงกับการกระทำของคนตรงหน้า เขาไม่ได้แนะนำตัวอะไรกับเธอเลยสักนิด กล้าตะวันยิ้มนิดๆ รอยยิ้มนั่นทำให้ใบหน้าคมดุเปลี่ยนไปชั่วแวบ ก่อนจะกลับมานิ่งขรึมตามเดิม
“ฉันจะมาเป็นผู้ปกครองของเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันชื่อกล้าตะวัน เธอคงจะพอจำฉันได้กระมัง อ้อ...เปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย ก่อนที่ฉันจะจับเธอเปลี่ยนเสียเอง เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ เอกสารที่จะต้องจัดการอีกมาก ฉันให้เวลายี่สิบนาที ทุกอย่างต้องเรียบร้อย”
เสียงประตูปิดลง รัศมีแขมองตามหลังประตูแล้วเม้มริมฝีปากแน่น กล้าตะวัน! ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้ ในเมื่อเขาเป็นหนึ่งในชู้รักของแม่เธอ!