บทที่ 1
กล้าตะวันมองดูจดหมายที่อยู่ในมือ อ่านรายละเอียดของมันอีกหนเป็นการซ้ำรอบที่สาม เขาถอนใจเฮือก พลางมองสบตากับทนายความที่นำเอกสารนี้มาให้เขา ฝ่ายนั้นเม้มริมฝีปากเล็กน้อย หน้าเผือดอย่างนึกเกรงชายหนุ่มตรงหน้า แม้ว่าจะอายุไม่มากนัก น้อยกว่าตนเองเสียด้วยซ้ำ แต่ลักษณะของชายผู้นี้ เหมือนราวกับราชสีห์ ทำให้เขานึกหวั่นเกรงอย่างบอกไม่ถูก
นัยน์ตาคมปลาบราวใบมีดโกน คิ้วเข้มได้รูปขนานไปกับนัยน์ตา จมูกโด่งเป็นสันงดงาม เขาไว้หนวดเคราจนรกเรื้อไปหมด แต่ยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขาม เรือนผมตัดสั้นสีดำสนิท เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ และกางเกงยีนสีเดียวกัน สวมรองเท้าผ้าใบมียี่ห้อราคาแพง แต่เปื้อนเพราะการใช้งานและไม่ได้ดูแลนักจนเป็นสีตุ่นๆ
ผิวสีแทนคร้ามแดด เสริมให้เขาดูคมเข้ม และดุดัน ตอนนี้นัยน์ตาของเขาที่ธวัชกำลังมองสบด้วย ไม่อาจบอกความรู้สึกอะไรนัก จนเขานึกลำบากใจว่า พิมพ์จันทร์คิดดีแล้วหรือ ที่มอบมรดกชิ้นสำคัญให้กับชายผู้นี้
“จันทร์ไม่ได้มอบอะไรให้สามีใหม่เลยสักชิ้นหรือครับ?”
คำถามแรกจากปากของกล้าตะวัน นอกเหนือความคาดหมายของธวัชไปเล็กน้อย มันทำให้เขากะพริบตาปริบๆ แล้วถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ
“อะไรนะครับ”
“จันทร์ไม่ได้มอบอะไรสักชิ้นให้กับสามีคนปัจจุบันของเธอ มันจะไม่มีปัญหาภายหลังหรือครับ ถ้าเกิดว่าผมทำหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมดของเธอ”
“ไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะทางนั้นไม่อาจจะเรียกร้องอะไรได้ เธอไม่ได้จดทะเบียนครับ”
“อ้อ...”
เขานั่งอ่านทวนเอกสารอีกหน ตอนนี้จำมันได้ขึ้นใจไปแล้วเรียบร้อย พิมพ์จันทร์กำลังคิดอะไรอยู่นะ ถึงได้...
ข้าพเจ้านางพิมพ์จันทร์ พรหมทัศนา ขอมอบมรดกส่วนของข้าพเจ้า ได้แก่เงินสดในบัญชีธนาคาร กิจการบริษัท พี ที คอปอเรชั่นที่ข้าพเจ้าถือหุ้นใหญ่ ที่ดินจำนวนหนึ่งพันไร่ ที่จังหวัดกาญจนบุรี โครงการบ้านจัดสรรที่จังหวัดพัทยา เครื่องประดับทั้งหมดในตู้เซฟธนาคาร....ให้แก่นางสาวรัศมีแข พรหมทัศนา บุตรสาวของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าขอมอบหมายให้นายกล้าตะวัน รักษ์นุวัฒน์ เป็นผู้จัดการมรดก และเป็นผู้ปกครองของนางสาวรัศมีแข พรหมทัศนา ในเรื่องการเบิกจ่ายเงิน และดูแลส่วนมรดกของข้าพเจ้า จนกว่านางสาวรัศมีแขจะอายุครบยี่สิบห้าปี ส่วนของมรดกถึงจะโอนคืนให้กับบุตรตรีของข้าพเจ้า หรือถ้านางสาวรัศมีแขได้ทำการสมรส ก่อนอายุดังกล่าว สินทรัพย์ทุกชิ้นนายกล้าตะวัน รักษ์นุวัฒน์ก็ยังจะต้องทำการอนุญาต เบิกจ่าย และควบคุมไปจนกว่านางสาวรัศมีแขบุตรตรีของข้าพเจ้าจะอายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์
พิมพ์จันทร์กำลังเล่นอะไร?
เธอกำลังโยนภาระชิ้นใหญ่มาให้เขาสินะ...แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้เสียทีเดียว เยื่อใยที่เคยมี ความรักที่เคยมอบให้กับพิมพ์จันทร์ มันกำลังทำให้กล้าตะวันตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
รึจะต้องเรียกว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอก็ว่าได้...
“แล้วแบบนี้ ผมต้องดูแลลูกสาวของเธอไปจนกว่าจะอายุยี่สิบห้าสินะครับ ถ้าเกิดว่ารับเป็นผู้จัดการมรดก”
“ต้องแบบนั้นแหละครับ”
ธวัชยิ้มแหย เขารู้จักคุณหนูของบ้านพรหมทัศนาดี นั่นก็เพราะคลุกคลีชิดใกล้กับพิมพ์จันทร์ค่อนข้างมาก ยิ่งในระยะหลัง ก็ยิ่งรู้ ยิ่งเห็นอะไรมากมาย ทำให้เขาห่วงเด็กสาววัยขบเผาะ ที่กำลังหัวดื้อ เอาแต่ใจคนนั้นนัก เกรงว่าถ้าห้ามกันไม่อยู่ จะยิ่งเตลิดไปไกล เพราะเสาหลักของชีวิตไม่อยู่แล้วแบบนี้
เสาหลัก...
ธวัชถอนใจ เขารู้จักครอบครัวนี้ดีเกินไป เสียด้วยซ้ำ ห่วงแสนห่วงเด็กสาว ผ้าขาวบริสุทธิ์ ที่ย้อมตัวเองด้วยสีเทา กำลังกล้า กำลังอยากลองดี ถ้าปราบกันไม่ได้ ก็คงจะเสียคนแน่งานนี้ พิมพ์จันทร์เองก็ออกปาก เพราะปรามลูกสาวไม่อยู่ เธอตามใจรัศมีแขชนิดที่ว่าลูกชี้อยากได้อะไรต้องได้ ทดแทนเวลาที่ตนเองไม่ค่อยมีให้ ความรักที่ถูกทดแทนด้วยเงิน ยิ่งทำให้รัศมีแข กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ หัวดื้อนัก
“ผมไม่ได้เจอยัยลูกหมีมาตั้งแต่สิบขวบ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะครับ”
กล้าตะวันพึมพำ ภาพของสาวน้อยผมเปีย ที่หน้าบึ้งยามถูกขัดใจ ปรากฏขึ้นในมโนนึก
ตอนนี้เป็นสาวแล้ว จะเปลี่ยนไปเท่าไหร่นะ เขาไม่ได้มาพบปะพิมพ์จันทร์ในระยะเวลาห้าหกปีนี้มากนัก เพราะเธอมีสามีใหม่ ต้องเรียกได้ว่า เปลี่ยนสามีใหม่แทบจะปีล่ะคน เขาเองก็ยุ่งกับกิจการไร่ชา ที่เปิดโรงงานผลิตน้ำชาบรรจุขวดเพิ่มขึ้น วุ่นวายกับการทำโปรเจคส่งออก อดีตคนรักเก่า เพื่อนรัก และที่ปรึกษาอย่างเขา จึงห่างจากเธอไปมาก
ใครจะไปคิดว่าพิมพ์จันทร์จะไว้วางใจเขามากถึงเพียงนี้ ตอนก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป ยังโทรศัพท์คุยกับเขาเหมือนล้อเล่นสนุก และราวกับว่าจะรู้ชะตากรรมของตน พิมพ์จันทร์ถึงได้ทำพินัยกรรมนี้ขึ้น และเอ่ยคาดคั้นกับเขานักหนาให้เขารับปากเธอ
‘รับปากนะกล้า ว่าถ้าจันทร์ขอกล้าจะช่วย’
‘ช่วยอะไร ถ้ามันยากขนาดที่ว่าต้องย้ายภูเขา รึถมทะเล ผมก็ช่วยไม่ได้นะจันทร์’
‘แหม...’ เธอหัวเราะคิกอย่างอารมณ์ดี
‘ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แค่อยากให้กล้าช่วยดูแลยัยลูกหมีให้ ถ้าจันทร์ไม่อยู่ จันทร์เป็นอะไรไป สัญญานะกล้า สัญญาว่าจะดูแล ช่วยเหลือลูกสาวของจันทร์ ไปจนกว่าแกจะมีอนาคตที่ดี ยืนบนขาของตัวเองได้ จันทร์เป็นแม่ที่แย่ แย่มาก...แต่จันทร์เชื่อว่า กล้าจะเป็นผู้ปกครองที่ดี’
‘จะเอาลูกสาวมาฝากให้เลี้ยงรึยังไงกัน’ เขาแหย่เธอ ยิ้มนิดๆ คำขอของเธอ เขาไม่เคยปฏิเสธได้อยู่แล้ว
‘จะให้เอาไปดัดนิสัย แล้วก็ดูแล คุ้มครอง ช่วยให้ยัยลูกหมีกลายเป็นคนน่ะสิ ทุกวันนี้น่ะ...ร้ายกาจมาก แถมยังหัวเราะใส่จันทร์เวลาที่จันทร์เรียกมาเอ็ด ไม่มีกลัวหรอกนะ บอกว่าตัวเองนะเป็นลิตเติ้ลมอนเตอร์ เฮ้อ...รับปากหน่อยสิกล้า ว่ากล้าจะช่วยจันทร์’
‘เอ่อ...’
‘ถ้าจันทร์ไม่อยู่ กล้าต้องช่วยจันทร์นะ สัญญานะ สัญญาว่าจะดูแลลูกของจันทร์’
‘พูดแบบนี้ ผมไม่ชอบเลยนะจันทร์ ยังกับว่าจะลาตาย’ เขาเอ็ดเธอไปอย่างนั้น แต่พิมพ์จันทร์หัวเราะเสียงใส แล้วเอ่ยเสียงแผ่วตอบเขา
‘บางทีการไปอยู่โลกหน้า อาจจะดีกว่าจริงๆ สำหรับจันทร์ มันเหนื่อยเหลือเกินน่ะกล้า’
‘อย่าพูดอย่างนั้น ผมไม่ชอบเลยนะจันทร์ เอาเป็นว่าผมสัญญา ว่าจะดูแลยัยลูกหมีให้ ดูแลให้ดีเหมือนลูกสาวของตัวเองเลยล่ะ พอใจรึยัง แต่ห้ามคิดอะไรแบบนั้นนะ มันไม่ดีเลย ชีวิตถ้าเดินผิดทาง มันก็หันกลับได้นี่? จริงไหม’
‘แต่บางเรื่อง บางที หันกลับไม่ได้ ต้องเดินต่ออย่างเดียวนะกล้า เหมือนกับคนบางคน เราเดินออกมาจากเขาแล้วก็ไม่สามารถเดินกลับไปได้’
‘ผมมีที่สำหรับจันทร์เสมอ’ คำตอบจากหัวใจนั้น ทำให้ปลายสายเงียบไป ก่อนจะหัวเราะสดใส แล้วเอ่ยชวนเขาคุยไปเสียเรื่องอื่น
พิมพ์จันทร์...อดีตคนรักที่เขารักมาก แม้จะเลิกราไปก็ยังห่วงใย และไม่ให้ใครมาแทนที่ของเธอ ความรักฉันท์ใคร่ครอบครองเป็นเจ้าของ กลายเป็นมิตรภาพ มีความรู้สึกดีๆ และพร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
วันที่เธอจากไปกะทันหันเพราะโรคหัวใจนั้น กล้าตะวันแม้จะไม่ร้องไห้ แต่น้ำตาของเขาก็ไหลตกใน ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าเธอได้จากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ พิมพ์จันทร์ ผู้หญิงที่เขาเคยรักมาก เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคนอย่างกล้าตะวัน ที่แสนจะเย็นชานั้น ก็มีส่วนอ่อนไหวของหัวใจ เพราะเคยได้สัมผัสกับความรัก
“ตอนนี้เธอดร๊อปเรียนมหาวิทยาลัยไว้ก่อนน่ะครับ เอ่อ...หลังจากที่คุณจันทร์เสีย คุณลูกหมีก็ไม่ยอมอยู่บ้านเลย ออกเที่ยวทุกวัน”
“หืม?”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เด็กนั่นอายุเท่าไหร่กันนะ? เขาจำได้คร่าวๆ ว่าราวสิบแปด สิบเก้า น่าจะอยู่ในวัยเรียน ฟังแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่า ทำไมพิมพ์จันทร์ถึงได้ห่วงบุตรสาวนัก
“เอ่อ...ปีก่อนเธอก็เข้าเรียน แต่ก็ลาออกมา แล้วก็เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยนี้ครับ คือเปลี่ยนมาสามที่แล้ว”
“แล้วตอนนี้ลูกหมีอยู่ที่ไหนครับ” กล้าตะวันหรี่ตา เขาอาจจะต้องทำหน้าที่ผู้ปกครอง ที่พิมพ์จันทร์มอบหมายให้ ตั้งแต่นาทีนี้แล้วสินะ
ลูกสาวตัวแสบของพิมพ์จันทร์ เด็กที่เรียกตัวเองว่าปีศาจตัวน้อย จะแสบขนาดไหนกัน?
เขายิ้มนิดๆ ให้กับตนเอง
แสบขนาดไหน กล้าตะวันก็คิดว่าเขาเอาอยู่ คนงานเป็นร้อยชีวิต เขายังควบคุมได้ นับประสาอะไรกับเด็กวัยรุ่นคนเดียว
ถ้ามันจะเป็นการทำตามคำขอครั้งสุดท้ายของพิมพ์จันทร์ เขาก็ยินดีที่จะขัดเกลา และจัดการลิตเติ้ลมอนเตอร์ ให้กลายเป็นลิตเติ้ลแองเจิล
ลองมีลูกสาวดูสักหน ลูกสาววัยรุ่นเสียด้วย คงเป็นประสบการณ์ที่สนุกดีพิลึกล่ะว่ะ ไอ้กล้า...