บทที่9
"คุณเกรซทำอาหาเก่งจังเลยนะคะ"
วริษฐาชวนอีกฝ่ายคุยเมื่อขณะที่กำลังยกกับข้าวออกมาจากครัว
"จริงๆเกรซก็ทำไม่ค่อยเก่งหรอกค่ะ คนที่ทำเก่งนู่นเลยค่ะเพชรนู่น เชฟต้องยกนิ้วให้เลยล่ะค่ะ เกรซก็ได้เพชรนี่แหละค่ะที่คอยสอนจนพอทำได้บ้างถึงทุกวันนี้"
สาวเจ้าบอกพร้อมกับมองไปที่พ่อของลูกที่กำลังหยอกล้ออยู่กับลูกน้อย
เขาทำอาหารเป็นด้วยเหรอ หล่อนไม่เคยรู้แล้วแฮะ...
"อ๋อค่ะ"
เจ้าหล่อนพยักหน้ารับรู้ช้าๆ
"เพชรคะ พาลูกมาทานข้าวได้แล้วค่ะ"
กวินตาเอ่ยบอกคนตัวโตก่อนจะลุกขึ้นตักข้าวใส่ในจานแต่ละจาน
"ทานกันก่อนเลยนะคะ เกรซขอป้อนข้าวลูกก่อน"
"กระเพรากุ้งค่ะ เนื้อเน้นๆเลย ตัวใหญ่มากเลยนะคะ พี่เพชรลองชิมดู"
เจ้าหล่อนหันมาสนใจกับข้าวบนโต๊ะก่อนจะตักกับข้าวที่หล่อนทำไปให้เขา
"อุ๊ย! คุณหวาคะ! เพชรแพ้กุ้งค่ะ"
สาวเจ้าที่กำลังจะป้อนข้าวลูกน้อยรีบเอ่ยปรามขึ้น
"กินนิดเดียวไม่เป็นอะไรหรอกน่า"
เขาว่าก่อนจะตักกุ้งที่วริษฐาตักให้เข้าปากโดยไม่สนใจสักนิดว่ากินเข้าไปแล้วจะเกิดอาการข้างเคียงอย่างไรบ้าง
"เพชร!"
กวินตาขมวดคิ้วมุ่น ทั้งๆที่รู้ว่ากินข้าวไปแล้วตัวเองจะเป็นอะไร ทรมานขนาดไหน ทำไมถึงยังกินมันเข้าไป เพื่ออะไร เพื่อรักษาน้ำใจผู้หญิงคนนี้น่ะเหรอ
"เพชรพอแล้ว"
กวินตาเข้ามาดึงช้อนออกจากมือของคนตัวโต
ด้านวริษฐายังนั่งนิ่ง และเมื่อตั้งสติได้เจ้าหล่อนก็เอ่ยถามขึ้น
"พ...พี่เพชรแพ้กุ้งเหรอคะ"
"ก็แพ้น่ะสิคะ แพ้หนักด้วยคุณเป็นแฟนกันยังไงคะไม่รู้เลยหรือไง ว่าเพชรแพ้อะไรชอบอะไร"
กวินตาที่ยังอยู่ในอารมณ์กรุ่นโกรธสวนขึ้นทันควัน
"เกรซ!"
พชรพลตวาดคนตรงหน้า
กวินตาจ้องคนตรงหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับไปหาลูกน้อย
"จะไม่เป็นอะไรแน่นะคะ"
หล่อนถามย้ำอีกครั้ง
"ไม่เป็นอะไรหรอกน่า กินข้าวกันต่อเถอะ"
"หวาว่าหวากลับก่อนดีกว่าค่ะ ป่านนี้ยัยว่านคงจะรอแย่" "คืนนี้นอนที่นี่ก่อนไม่ได้เหรอ พี่ไม่ชอบให้เราไปไหนมาไหนกับไอ้ภูมิเลย"
"ไม่ได้ค่ะ เขาขอแค่หนึ่งเดือนหวาก็จะให้เขา ที่หวายอมไม่ใช่เพราะไม่รักแต่หวาเชื่อใจพี่นะ ส่วนเรื่องพี่ภูมิพี่เพชรวางใจได้ค่ะ หวาชัดเจนเสมอ"
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ"
หล่อนว่าพร้อมกับบีบแก้มสากเบาๆ
"หวาไปแล้วนะ"
"พี่เดินไปส่ง"
เขาว่าก่อนจะลุกตามแฟนสาวออกไป
ด้านคนที่ยืนมองอยู่มุมหนึ่งของบ้านนั้นกำมือแน่น ดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำตาคลอเบ้า ก่อนมันจะเอ่อล้นลงมา
"พี่เพชรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
เจ้าหล่อนที่สังเกตอาการแฟนหนุ่มอยู่นานสองนานเอ่ยถามขึ้น
"พี่…ไม่…"
ร่างหนาทั้งร่างทรุดตัวลงจนทำให้คนที่เข้าไปพยุงล้มลงตามกัน
"พี่เพชร เป็นอะไรคะ"
วริษฐามือไม้ลนลานทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้น สติที่ยังเหลืออยู่ของเจ้าหล่อนยังพอให้หล่อนได้กดโทรหารถพยาบาล และโชคดีเหลือเกินว่าที่นี่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากทำให้เขาไปถึงมือหมอทันการณ์
"พี่จะทนกินเพราะหวาทำไมคะ"
เจ้าหล่อนยกมือคนป่วยที่ยังนอนไม่ได้สติมาแนบแก้มนิ่มเบาๆ
"หวาคงจะเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ หวาไม่รู้แม้กระทั่งพี่ชอบอะไรแพ้อะไรอย่างที่เขาว่า"
เวลาเกือบสามปีที่ศึกษาดูใจกันมา ตลอดสามปีที่หล่อนคิดว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอแล้ว แต่ความเป็นจริงกลับตรงข้ามกัน หล่อนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
"เพชรเป็นยังไงบ้างคะ"
เสียงเอ่ยถามที่ดังขึ้นทำให้วริษฐาต้องรีบปาดน้ำตาออก
"พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ"
เมื่อได้ยินดังนั้นกวินตาก็มีท่าทีโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะความเป็นห่วงอีกฝ่ายหล่อนเลยโทรมาหวังจะสอบถามอาการสักหน่อย แต่คนที่กดรับสายกลับเป็นวริษฐาและบอกกับหล่อนว่าเขาเข้าโรงพยาบาล ได้ยินดังนั้นหล่อนก็รีบมาทันที