บทที่4
"ว่ายังไงนะครับ"
"หนูเกรซ...กลับมา พร้อมลูกของเพชร"
"ล...ลูกผมเหรอครับ"
ประโยคที่มารดาโทรมาบอกเมื่อครู่ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ทั้งๆที่พยายามจะสลัดมันทิ้งออกไป แต่เขาก็ทำไม่ได้
"ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น"
เจ้าหล่อนว่าพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแก้มสากเพื่อวัดดูอุณหภูมิ
"ตัวก็ไม่ร้อนนี่คะ"
หล่อนเอ่ยเสริม
"พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ได้ของครบแล้วใช่ไหม"
เขาเปลี่ยนเรื่อง
"ครบแล้วค่ะ นี่! หวาซื้อไอ้นี่มาด้วยน้า ของโปรดพี่เพชรเลย"
หล่อนชูของในมือให้เขาดู
"เรารีบกลับกันเถอะค่ะ เดี๋ยวไม่ทันเวลาคุณแม่ทานข้าว"
"อ...เอ่อหวา เมื่อกี้แม่พี่โทรมาบอกว่าท่านไม่ค่อยสบายน่ะ ไว้วันหลังได้ไหม"
เขาตัดสินใจโกหกแฟนสาวออกไป
"เหรอคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
"ไม่เป็นอะไรมากหรอก"
เขาบอกพร้อมกับวางมือลงบนกลุ่มผมยาวสลวยของแฟนสาว ที่ตอนนี้เจ้าหล่อนมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"งั้นพี่รีบกลับเถอะค่ะ ไว้พรุ่งนี้หวาค่อยไปเยี่ยมท่าน"
เพราะเวลานี้ท่านคงต้องการที่จะพักผ่อนและอยากให้ลูกหลานมาเอาใจเสียมากกว่า
"หวากลับเองได้ค่ะ"
หล่อนบอกเพื่อให้เขาสบายใจ
"ครับ"
"เพชรคะ...ฮึก"
ทันทีที่เขาก้าวเข้าบ้านมา ร่างบางของกวินตาก็โผเข้ามากอดเขา อ้อมกอดที่คุ้นเคย กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นชิน ผู้หญิงคนเดิมที่เขาเฝ้ารอคอย วันนี้มันได้กลับเข้าสู่อ้อมกอดเขาอีกครั้ง กลับเข้ามาในวันที่เขาจะเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคน
"เกรซ..."
เสียงที่เปล่งออกมาเบาหวิวเสียจนเขาเองก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง
"เกรซขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่ง ขอโทษที่วันนั้นเกรซงี่เง่า ไม่ยอมฟังเหตุผลเพชรเลย"
เจ้าหล่อนกอดเอวสอบแน่น พลันน้ำตาก็ไหลลงมาเปรอะสูทตัวแพง
นาฬิกาติดฝาผนังห้องบอกเวลาว่าตอนนี้นั้นล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้ว ใครหลายๆคนต่างพากันหลับใหลในห้วงนิทราแต่พชรพลยังนอนลืมตาแจ้ง เรื่องทั้งหมดที่ได้ฟังจากปากกวินตาทำให้เขาทั้งช็อคทั้งหนักใจในคราเดียวกัน
"ผม...กำลังจะแต่งงาน"
เขาบอกออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก
"เกรซจะยอมยกลูกให้เพชร แต่เกรซขออยู่ที่นี่กับเพชรกับลูก ใช้ชีวิตกันสามคน พ่อแม่ลูกหนึ่งเดือนแล้วเกรซจะไป ได้ไหมคะ"
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นข้อตกลงหรือคำร้องขอจากร่างบางที่แววตาสั่นระริกและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ตอนนั้นเขาตอบตกลงไปทันทีโดยที่ไม่ได้คิดสักนิด หัวใจที่เคยตั้งมั่น แน่วแน่ ตอนนี้มันเริ่มสับสน สั่นคลอน จนเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร
นับว่าวันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่เขาไม่ได้เข้าบริษัท สาเหตุมาจากเจ้าตัวเล็กที่หลับอุตุบนตักเขานี่ยังไงเล่า มารดาของเขาเป็นคนจัดแจงทุกอย่างทั้งเรื่องตรวจ DNA เรื่องย้ายเด็กชายพีรวัฒน์เข้ามาในทะเบียนบ้าน เขาค่อนข้างมั่นใจเต็มร้อยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาเพราะเขารู้จักกวินตาดีเจ้าหล่อนคงไม่ใจร้ายใจดำที่จะฆ่าลูกในไส้ลง และถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ คนที่ทิฐิสูงอย่างหล่อนไม่มีทางบากหน้ามาพึ่งเขา ถ้าหล่อนคิดอย่างที่พูดจริงๆ เจ้าหล่อนคงจะพาลูกกลับมาหาเขาตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว คงไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ และเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าหล่อนนั้นมีความจำเป็นอะไรที่กลับมา...กลับมาทำให้หัวใจของเขามันสับสนอีกครั้ง
"หลับแล้วเหรอคะ"
ร่างบางที่เดินออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของบุตรชายในตัก
"อืม...ปกติลูกก็หลับง่ายแบบนี้นะเหรอ"
เขาถาม
"ค่ะ แกไม่ค่อยงอแง เหมือนแกจะรู้นะคะว่าแม่เหนื่อย"
คนที่พูดถึงลูกน้อยมีลอยยิ้มจางๆแต่งแต้มบนใบหน้าจนทำให้คนที่มองอยู่อดที่จะรู้สึกผิดกับประโยคที่เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาไม่ได้
"ถึงจะเหนื่อย แต่เกรซมีความสุขมากเลยนะคะ ความจริงการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด"
"แล้วทำไมถึงเลือกที่จะพาลูกกลับมาหาผม"
คำถามของเขากระแทกใจบางไม่น้อย เขาพูดเหมือนกับว่าไม่ต้องการลูกยังไงยังงั้น แต่เจ้าหล่อนก็เลือกที่จะฝืนยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไป
"เกรซเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค่ะ"
เจ้าหล่อนตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บของเล่นลูกที่ผู้เป็นย่าของแกซื้อมาให้สองสามตะกร้า เจ้าตัวเล็กก็รื้ออกมาเล่นกระจายเกลื่อนพื้น
"คุณจำได้ไหม ว่าตัวเองโกหกไม่เก่ง"
เขาสวนกลับไปเสียงเรียบทำให้ร่างบางชะงัก
"และคุณคงจะจำได้ว่าผมไม่ชอบคนโกหก"