บทย่อ
ขัดใจกับบทนางร้ายในนิยายจนช็อคตายคาเตียงผู้ป่วย หนำซ้ำยังไปเจอกับนางร้ายในปรโลกอีก ไม่น่าเชื่อว่าการไปทะเลาะกับนางร้าย จะทำให้นางต้องกลายเป็นนางร้ายเสียเอง เป็นนางร้าย=ตาย แล้วใครมันจะอยากเป็นกันเล่า!
ตอนที่ 1 : ตายอย่างสงบ (?)
ตอนที่
[1]
ตายอย่างสงบ (?)
ว่ากันว่าในวาระสุดท้ายของชีวิต คนเรามักอยากจะทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบมากที่สุดเป็นครั้งสุดท้ายเพราะเดี๋ยวต่อไปก็จะไม่ได้ทำอีกแล้ว
เฉกเช่นเดียวกันกับหญิงสาวใบหน้าซีดเซียวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงผู้ป่วยในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลสุดหรูที่ไม่ต่างจากห้องพักในโรงแรมหกดาวมากนัก ในมือของเธอถือหนังสือนิยายเล่มหนึ่งที่ดูก็สามารถรู้ได้ว่าเธอได้อ่านมาถึงช่วงตอนสุดท้ายของเนื้อหาแล้ว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นมือบางที่จับหนังสือเอาไว้จะไร้เรี่ยวแรงปล่อยหนังสือทั้งเล่มร่วงหล่นลงพื้นไปทั้งอย่างนั้น
อนิจจายามนี้ ญิชชา สาวน้อยวัย 20 ปีที่รอบกายของเธอรายล้อมไปด้วยหนังสือนิยายที่ชอบอ่านได้จากไปอย่างสงบเสียแล้ว……..
.
.
.
.
สงบกับผีอะไรล่ะ!!
ด้วยเนื้อหาตอนจบของนิยายเรื่องล่าสุดที่อ่าน โดยเฉพาะบทบาทและจุดจบของนางร้ายมันทำให้เธอของขึ้นอย่างถึงที่สุด!!
โง่แบบนางร้ายราคาถูก โหยหาความรักที่ไม่มีวันเป็นไปได้ หนำซ้ำยังคิดแบบที่มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะคิดได้ ด้วยอินกับเนื้อหาในนิยายมากทำให้ณิชชารู้ตัวอีกทีเลือดลมก็ตีขึ้นจนไม่นานสัญญาณชีพก็กลายเป็นเส้นตรงไปเสียแล้ว
นอนติดเตียงมาหลายปีพอบทจะตายกลับตายจากนิยายเรื่องหนึ่ง!!
นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน!!
และมันเรียกได้ว่าสงบจริงหรือ?
เดี๋ยวถ้าเธอได้เจอนางร้ายที่ชื่อว่า ซูซีหลิน ในปรโลก แม่จะวีนไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิดเลย!! โทษฐานร้ายแบบโง่ ๆ จนตัวตาย
หากคิดในทางเป็นจริงแล้ว ณิชชานั้นไม่มีทางที่จะได้พบกับ ซูซีหลินเลยแม้แต่น้อย เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงบทบาทหนึ่งในนิยายเรื่อง คุณหนูอันดับหนึ่งของหลิวหยวน เท่านั้น
แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าระหว่างที่ณิชชากำลังล่องลอยไปตามเส้นทางที่มีผู้คนมากมายที่กำลังล่องลอยไปในทิศทางนั้นเช่นกัน เธอจะได้พบกับหญิงสาวที่อยู่ในชุดคล้ายจีนโบราณผู้หนึ่ง เธอคนนั้นมีใบหน้าซีดเซียวและดูอมทุกข์เป็นอย่างมาก ดูแล้วน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเป็นคนอัธยาศัยดีมาก่อน แม้ว่าจะอยู่ในโลกหลังความตาย ณิชชาไม่รอช้าที่จะลอยเข้าไปพูดคุยกับหญิงสาวคนนั้น ใบหน้าฉีกยิ้มเต็มที่เพื่อเป็นการบอกอีกฝ่ายว่า เรามาอย่างเป็นมิตรนะ
แต่ทว่า….ทันทีที่ญิชชารู้ว่าหญิงสาวคนนี้ชื่อว่าอะไรและตายยังไง ใบหน้าที่เป็นมิตรก็แปรเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว หนำซ้ำยังเอามือเท้าสะเอวพร้อมระเบิดอารมณ์อย่างเต็มที่ทันที
“อยากเจอตัวอยู่พอดี เกิดเป็นคนทำไมถึงได้โง่แบบนั้น แผนอะไรของเธอ แล้วคนนั้นมันมีอะไรดีหนักหนาเธอถึงได้หลงหัวปักหัวปำ เขาไม่รักก็คือเขาไม่รักจะดักดานอะไรนัก” นอกจากเป็นคนอัธยาศัยดี ณิชชานั้นยังปากดีอีกด้วย
หากแต่สิ่งที่เธอรู้สึกทำพลาดมากที่สุดนั่นก็คือในตอนที่เธอกำลังต่อว่าซูซีหลินที่กำลังนัยน์ตาแดงก่ำก้มใบหน้าลงเพราะถูกต่อว่าอยู่นั้น
“ทำไมถึงเป็นนางร้ายที่มันฉลาด ๆ ไม่ได้นะ”
ซูซีหลินที่ทนให้อีกฝ่ายยืนด่ามานานเริ่มทนไม่ไหว จึงได้ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นมาตอบโต้สตรีที่ท่าทางน่ากลัวและปากจัดจ้านตรงหน้าบ้าง
“หากเจ้าเก่งนักก็ไปเป็นข้าเลย คิดว่ามันง่ายนักหรือ”
“เออ! เป็นก็เป็นสิ คิดว่ากลัวเหรอ” ณิชชาก็รับคำทันใด
ทว่าหลังสิ้นคำร่างทั้งร่างของเธอก็ถูกดูดไปยังหลุมขนาดใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว ไม่วายยังได้ยินเสียงประชดประชันพลางตัดพ้อของซูซีหลินดังลอยมาว่า
“เป็นให้ข้าดูที นางร้ายฉลาด ๆ ที่ว่านั่น แล้วอย่าตายเหมือนกันล่ะ
หน็อย ซูซีหลินจอมแสบ!!
เฮือก!!
ราวกับได้ขึ้นมาจากการจมอยู่ในน้ำลึกอันยาวนาน หญิงสาวใบหน้างดงามเรือนร่างเต็มไปด้วยความเย้ายวนประการหนึ่งพยายามสูดลมหายใจเข้าเพื่อให้ตนเองสามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด
“พระสนม!!”
ขณะเดียวกันนั้นก็มีมือเล็กของใครบางคนแตะเข้าที่แขนด้านขวาของนางอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
พระสนม?
ณิชชามึนงงเล็กน้อยก่อนจะหันไปพบกับกระจกสีเหลืองนวลที่อยู่ไม่ไกล ทันใดนั้นเธอจึงได้รับรู้ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็น ซูซีหลิน นางร้ายที่เธอต่อว่าในปรโลกผู้นั้นไปเสียแล้ว
ซวยแล้ว!!
ด้วยตอนนั้นอารมณ์มันคั่งค้างมาจากการอ่านนิยายจึงได้อารมณ์ขึ้นค่อนข้างมากเมื่อได้พบกับซูซีหลินจึงได้เผลอแสดงอารมณ์ไปแบบนั้น แต่พอมาคิดดูดี ๆ แล้วคนดี ๆ ที่ไหนจะอยากเป็นนางร้ายที่มีความตายรออยู่เบื้องหน้ากันแล้ว แม้ว่ามีโอกาสแก้ไขแต่หากว่ามาอยู่ในร่างนี้แล้วมันควบคุมอะไรไม่ได้ล่ะ แบบนั้นเธอได้ตายซ้ำสองแน่ หนำซ้ำยัยซีหลินได้รอหัวเราะอยู่ที่ปรโลกอย่างแน่นอน
ไม่ได้!! เธอจะไม่ยอมตายตามรอยเดิมของเจ้าตัวที่ทำไว้เด็ดขาด
“จินจู วันนี้เป็นวันอะไร”
จินจูนางกำนัลตัวน้อยตัวสั่นไม่น้อยยามที่ถูกผู้เป็นนายสาดคำถามมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนหน้านี้สักหนึ่งก้านธูปตนพบว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้เป็นนาย ปกติซูกุ้ยเฟยนั้นจะตื่นบรรทมตั้งแต่เช้าเพื่อลุกขึ้นไปสั่งการให้ห้องเครื่องตุ๋นน้ำแกงให้ชามหนึ่ง จะได้นำไปถวายให้ฝ่าบาทเสวยในทุก ๆ วัน
แม้ว่าจะถูกปฏิเสธอย่างไรก็ยังคงทำเช่นนี้เหมือนเดิม แต่วันนี้นั้นนอกจากพระองค์จะยังไม่ตื่นตามเวลาที่เคยเป็นแล้ว ยังไม่มีวี่แววที่จะตื่นอีก คราแรกตนไม่กล้าที่จะปลุก แต่เมื่อสังเกตดี ๆ จะพบว่าพระสนมนั้นมีอาการหายใจติดขัดสลับกับการนอนนิ่งที่หมายความว่านอนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวและการหายใจอันใด จินจูใบหน้าซีดเผือด หลังจากที่พยายามปลุกผู้เป็นนายทุกวิถีทางแล้ว จึงได้ให้คนไปตามหมอหลวงมา ระหว่างที่กำลังรอหมอหลวงอยู่ ทันใดนั้นเองที่ผู้เป็นนายก็ฟื้นขึ้นมาด้วยท่าทางประหลาด แต่ด้วยความกลัวที่อยู่ภายในจิตใจ หากว่านางตอบคำถามช้า อาจจะโดนลงโทษอีก จึงได้รีบตอบไปทันที ชีวิตนางกำนัลของนางเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน ไม่อาจให้จบลงในเร็ววันนี้ได้
ด้านญิชชาหรือยามนี้คือซูซีหลินหลังจากได้รับรู้แล้วว่าตนกลับมาอยู่ในช่วงใดของนิยายก็ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นก่อนจะหันไปสั่งการนางกำนัลที่มีนามว่าจินจูความว่า
“จินจูช่วยข้าแต่งตัวเร็ว!”
ทว่า….ดูเหมือนว่านางจะช้าไปสักหน่อย เพราะไม่ไกลออกไปนั้นนางเห็นคนผู้หนึ่งกำลังเดินรีบเร่งใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์บันดาลโทสะและเมื่อเขาเข้ามาถึงในห้องนอนของนางก็ตวาดลั่นออกมาทันที
“ซูซีหลิน เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่!!”