บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 แนะนำ

ไม่ต่างจากชายหนุ่มตรงหน้าเธอ เขาเห็นด้านหลังตอนที่เดินเข้ามาก็ไม่ทันคิดอะไร แต่เมื่อเห็นหน้าเธอชัดๆ ก็อดแปลกใจไม่ได้ แต่ก็แค่เพียงชั่วพริบตาเดียว ความประหลาดใจนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มร้ายที่เธอคงไม่ทันได้สังเกตเห็น

"เจ้านนท์ นี่คุณริน คนที่จะสอนงานแก แกอย่าเกเรล่ะ ฉันให้อภิสิทธิ์คุณรินเต็มที่ถ้าแกเกเร" คำพูดของคุณก้องเกียรติทำให้นนทิวัฒน์เพียงยักไหล่เบาๆ

"โต๊ะทำงานแกฉันให้คนจัดไว้ให้ที่ข้างคุณรินแล้ว แกเริ่มงานได้เลย"

"ครับผม" เสียงรับปากดูกระตือรือร้นกว่าเมื่อตอนแรกที่ถูกบังคับให้มาทำงาน

"คุณริน ฝากด้วยนะ ไม่ต้องเกรงใจผม ขอให้ได้งานเป็นพอ"

"ค่ะท่าน" รินรดารับปากอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

"ไป ไป ทานข้าวกันได้แล้ว" คุณก้องเกียรติเอ่ยชวน

"รินยังมีงานค้างอยู่ ขอตัวนะคะ"

"แกล่ะ" คุณก้องเกียรติหันไปถามลูกชาย เพราะรู้ดีว่าลูกชายคงจะไม่อยากร่วมโต๊ะอาหารกับเขา

"เดี๋ยวผมไปกับคุณริน จะได้เดินดูรอบๆ ด้วย"

นนทิวัฒน์เลือกที่จะไปทานอาหารกับเธอ เพราะเขาไม่อยากไปนั่งฟังพ่อพูดเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่เขาไม่ค่อยอยากฟังอยากรับรู้ หลังจากออกจากห้องท่านประธานใหญ่ รินรดาก็พานนทิวัฒน์ มาที่ฝ่ายบริหาร

รินรดาพาเขาเดินมาอีกฟากจากห้องท่านประธาน ทางเดินระหว่างกลางแบ่งห้องใหญ่ออกเป็นสองฝั่ง เขาเห็นแต่ละฝั่งเหมือนจะมีอยู่สองห้อง

"ห้องนี้จะเป็นฝ่ายบุคคล ห้องนี้ฝ่ายบัญชี และก็อีกห้องฝ่ายการเงิน ฝ่ายบริหารด้านในสุดค่ะ"

รินรดาเอ่ยแนะนำเขามาตามทาง นนทิวัฒน์มองอาณาจักรของผู้เป็นพ่อด้วยความทึ่ง เขารู้ว่าพ่อมีกิจการใหญ่โต แต่ก็ไม่เคยเห็นด้านในชัดๆ แบบนี้สักครั้ง ภายในแต่ละห้องมีโต๊ะทำงานสไตล์โมเดิร์นเรียงอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบตัว แสดงว่าแต่ละฝ่ายน่าจะมีคนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เพราะเป็นเวลาเที่ยงพนักงานจึงไม่มีใครอยู่ในห้อง

"ด้านนั้นเป็นห้องกาแฟ สุดทางเดินเป็นห้องน้ำค่ะ" เสียงรินรดายังเอ่ยบอกเขา จนเดินมาถึงฝ่ายบริหาร

โต๊ะทำงานของเธอแยกส่วนจากพนักงานโดยมีฉากกั้นสีฟ้าด้านบนเป็นสีขาวโปร่งแสงสูงเพียงแค่อกยาวตลอดแนว เขาเดินตามเข้าไปจึงได้เห็นหลังฉากกั้นนั้นมีโต๊ะทำงานสองตัววางต่อกันไว้ ซึ่งรินรดาก็เพิ่งจะเห็นพร้อมกับเขาเหมือนกัน อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ วางอยู่บนโต๊ะตัวใหม่คล้ายกับว่าให้พร้อมที่จะทำงานได้ทันที

"คุณไปทานข้าวก่อนก็ได้ค่ะ ฉันต้องส่งอีเมลก่อนน่าจะนาน"

"ผมรอได้" เขาตอบทันทีแทบจะไม่ต้องคิด แล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้สำหรับผู้บริหารตัวใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ โต๊ะเธอ

"ทำไมวันนั้นหนีกลับ" สิ่งที่เธอนึกกลัวมาตลอด ในที่สุดเขาก็เอ่ยถามมันขึ้นมา

"ฉันต้องใช้สมาธิทำงาน ไม่คุยเรื่องส่วนตัวค่ะ"

"ก็ได้ งั้นคุณก็ทำงานให้เสร็จก่อน ผมค่อยถาม ก็พอดีเดี๋ยวพวกลูกน้องคุณขึ้นมาจากกินข้าว ผมว่าระยะแค่นี้เขาต้องได้ยินที่เราคุยกันแน่"

"นี่คุณ" รินรดาหยุดมือจากแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์หันมามองหน้าคนข้างๆ อย่างเอาเรื่อง แต่นนทิวัฒน์กลับยิ้มร้ายใส่เธอ

"ฉันขอเตือนให้คุณหยุดพูดเรื่องบ้าๆ นั่นซะ"

"ผมไม่พูดก็ได้ แต่คุณต้องทำตามผมทุกเรื่อง ไม่อย่างนั้น ผมก็ไม่แน่ใจ" นนทิวัฒน์ลากเสียงในตอนท้ายจนน่าหมั่นไส้

"ทำไมวันนั้นหนีกลับ" น้ำเสียงจริงจังเอ่ยถามอีกรอบ

"ไม่ได้หนี"

"แค่ไม่ได้บอกงั้นซิ"

"เห็นคุณหลับ ไม่อยากรบกวน"

"แล้วเงิน"

"น้อยไปหรือคะ" นนทิวัฒน์พยายามกัดฟันกับคำตอบของเธอ

"เยอะไปครับ เพราะงั้นผมต้องชดเชยให้คุณอีก" รินรดาหันไปทำตาขวางใส่ทันที

"อย่าทำหน้าจริงจังแบบนี้ซิคุณ รีบทำงานของคุณเถอะ ผมหิวแล้ว" เสียงใสเอ่ยเย้าคนทำตาขวาง

"ว่าแต่คุณแต่งตัวแบบป้าเฉพาะเวลาทำงานหรือ" ไร้คำตอบจากคนที่ทำงานอยู่ มีเพียงสายตาที่มองด้วยหางตาก่อนจะหันไปทำงานต่อ

"แต่ว่าคุณแต่งแบบวันนั้นก็น่ารักดีนะ ดูเป็นสาวดี"

รินรดาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ ไอ้เด็กบ้านี่มันคิดว่าเธอแก่ขนาดไหนเชียว ถึงว่าแบบนั้น

"ว่าแต่คุณอายุเท่าไหร่"

"สามสิบ" รินรดาเอ่ยบอกอย่างภาคภูมิใจ อย่างน้อยเจ้านั่นเผื่อจะนึกเกรงใจความชราของเธอขึ้นมาบ้าง แต่เปล่าเลยกลับมีเพียงรอยยิ้มที่เจ้าตัวพยายามคล้ายกลั้นหัวเราะเอาไว้

"ขำอะไร" จนเธออดถามไม่ได้

"เปล่า กำลังนึกถึงเพลงสามสิบยังแจ๋ว"

รินรดาอยากจะกรี๊ดใส่คนข้างๆ เสียเหลือเกิน นอกจากเธอจะไม่มีสมาธิทำงานแล้ว ยังจะต้องมาปวดหัวกับความยียวนกวนประสาทของนายคนนี้อีก จนเมื่อเธอส่งอีเมลเสร็จก็เตรียมจะลุกจากโต๊ะทำงาน

"ส่วนมากพนักงานจะลงไปกินข้าวที่ชั้นใต้ดิน มีร้านอาหารหลายร้าน ราคาไม่แพง แล้วก็จะมีที่ชั้นสามสิบกับห้าสิบสอง มีร้านอาหารอยู่แต่ออกจะแพงสักหน่อย" รินรดาเอ่ยแนะนำเขา

"เดี๋ยวฉันพาคุณไปชั้นบนแล้วกัน นี่เกือบบ่ายแล้ว ข้างล่างบางร้านก็หมดแล้ว" รินรดาไม่อยากพาเขาลงไปที่ชั้นใต้ดิน เพราะเธอกลัวพนักงานจะเห็นแล้วพูดกันไปต่างๆ นานา รอให้ช่วงบ่ายค่อยพาไปแนะนำแต่ละแผนกทีเดียวจะดีกว่า

ร้านอาหารที่เธอพาเขาขึ้นมาเป็นร้านอาหารไทยที่คนไม่เยอะอย่างเธอว่า

"คุณจะทานอะไรคะ"

เอ่ยถามเขาไปแล้วรินรดาก็ได้แต่นึกแค้นใจตัวเอง ว่าไม่น่าถาม เพราะเขาเล่นสั่งอาหารมาเสียหลายอย่าง และเป็นอาหารที่ต้องกินร่วมกันอีก เดิมทีเธอคิดจะสั่งอาหารจานเดียว ต่างคนต่างกินง่ายๆ แค่นั้น แม้รสชาติอาหารจะอร่อยแต่ก็ออกจะฝืดคอสำหรับเธอไม่น้อย เขาเองก็กินไม่เยอะ แต่สีหน้าคล้ายยิ้มเยาะตลอดเวลานั้นก็ทำให้อดหมั่นไส้เขาไม่ได้

"แล้วทำไมคุณถึงไปเปิดร้านแบบนั้นล่ะคะ ไม่ยอมมาทำงานกับพ่อคุณ" รินรดาเอ่ยถามเขาบ้าง เพราะเขาออกจะถามเรื่องส่วนตัวเธอเยอะเกินไปแล้ว

"เดี๋ยวคืนนี้ผมจะนอนเล่าให้คุณฟังทั้งคืนเลย"

แค่ก แค่ก !!

รินรดาสำลักน้ำอัดลมที่กำลังดื่มอยู่ เพราะคำตอบของเขา

"ค่อยๆ กินซิคุณ" นนทิวัฒน์หยิบกระดาษชำระที่โต๊ะเอื้อมแขนมาเช็ดริมฝีปากให้โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อถึงริมฝีปากกลับกลายเป็นนิ้วโป้งของเขาที่เกลี่ยน้ำที่ปากเธอ รินรดาเผลอหน้าแดงเอนตัวถอยหลังหลบเขาทันที

"นี่คุณ เก็บอาการด้วย กลัวคนเขาไม่รู้ว่าเป็นหนุ่มโฮสต์หรือไง" รินรดาเอ่ยดุเสียงเขียว

"อ้าว อยู่กับคุณทีไรผมก็ลืมตัว คิดว่าคุณเป็นแขกของผมอยู่เรื่อย"

นนทิวัฒน์ยิ่งนึกสนุก เพราะเห็นหน้าตาของคนตรงหน้า ยิ่งเขากวนเธอเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งหน้าบึ้งตาขวางใส่เขา ยิ่งอาการโกรธจนทำอะไรไม่ได้ของเธอก็ยิ่งทำให้เขานึกอยากแกล้งเธอไปอีก แล้วก็เผื่อเธอจะสอนงานเขาไม่ไหว ยอมแพ้ไป เขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเองสักที แต่อีกใจเขาก็นึกแค้นที่เธอทิ้งเงินไว้ให้วันนั้นแล้วก็เรียกว่าหายไปจากชีวิตเลย จนเขาก็เกือบจะลืมเธอไปแล้วด้วยซ้ำ

ช่วงบ่ายหลังจากกลับมาจากทานอาหารเที่ยง เขาสังเกตเห็นพนักงานในห้องกลับมาทำงานกันแล้ว รินรดาพาเขากลับมาที่ฝ่ายบริหารอีกครั้ง

"ทุกคนคะ" เพียงแค่เดินเข้ามาในห้อง เธอก็เอ่ยเรียกพนักงานทุกคนให้หันไปมอง

"ขอแนะนำ คุณนนทิวัฒน์ ลูกชายท่านประธาน จะเข้ามาทำงานกับเราที่ฝ่ายบริหาร"

เมื่อแนะนำฝ่ายบริหารเสร็จ รินรดาก็พาเขาไปแนะนำตามแผนกต่างๆ ตั้งแต่ชั้นสี่สิบห้าจนถึงสี่สิบเก้าที่เป็นในส่วนของบริษัทพ่อเขา

นนทิวัฒน์เดินจนเมื่อย เขาแอบเหลือบมองคนที่เดินข้างๆ เธอทั้งใส่ส้นสูงเดินไปเดินมาตั้งหลายชั้นไม่เมื่อยบ้างหรือไง กว่าจะครบทุกแผนกทั้งสองคนกลับมาถึงโต๊ะทำงานก็เกือบจะสี่โมงเย็น เพราะบางแผนกก็ต้องคุยกันอยู่นาน เมื่อกลับมาถึงพนักงานก็รีบเอาเอกสารมาให้รินรดาเซ็นทันที จนเขาเห็นเธอแทบจะไม่ได้หยุดพักหายใจหายคอ

"พี่รินคะ แบบนี้เราต้องเลี้ยงต้อนรับท่านผู้บริหารคนใหม่หรือเปล่าคะ"

เสียงพนักงานสาวที่เอาเอกสารมาให้เธอเซ็นเอ่ยถาม พลางมองสายตาไปตรงคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างเธอ ซึ่งรินรดาก็พอจะเข้าใจสายตาแบบนี้เพราะตลอดทางที่เขาเดินไป ไม่ว่าจะแวะที่แผนกไหน สาวๆ ก็ล้วนมองเขาด้วยสายตาแบบนี้ คงเป็นเพราะใบหน้าหล่อเหลาของเขานั่นแหละ

"ไปเอาน้ำมาให้คุณนนท์นู่น" รินรดาไม่ตอบคำถามน้องในแผนกแต่กลับสั่งให้ไปเอาน้ำมารับแขก

"คุณนนท์จะรับน้ำอะไรคะ กาแฟ น้ำเปล่า น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม"

"เอา..เหมือนคุณรินก็ได้ครับ"

นนทิวัฒน์เอ่ยลากเสียงในทีแรกรินรดาก็ไม่ทันคิดอะไร แต่เมื่อเธอเซ็นเอกสารเสร็จหันไปหาเขาเพื่อจะสรุปเอกสารจากที่ได้มาแต่ละแผนก พอเธอเห็นสายตาเขาก็เข้าใจความหมายที่เขาลากเสียงคำนั้นทันที

นอกจากจะทำอะไรไม่ได้ รินรดาคงทำได้แค่เพียงไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เข้าใจความหมายที่เขาเล่นคำใส่เธอ หรือแม้แต่สายตาดุก็ไม่ส่งไปให้เขา เพราะกลัวพนักงานคนอื่นๆ จะเห็นเข้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel