2
Chapter 2
พวกท่านเคยพูดว่าหากต้องตายจากไปก่อนก็อยากให้ดูแลน้องให้ดี เรียนหนังสือจนจบ ได้ทำงานที่รักและแต่งงานกับคนดีๆ ที่ท่านเคยหมั้นหมายเอาไว้ แต่ถ้าคนที่หมั้นหมายเอาไว้ไม่ดีจริง ก็แล้วแต่ว่าจะตัดสินใจเช่นไร แต่ถ้าคเชนทร์เป็นคนดีจริงๆ ก็จงทำคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับนพรัตน์และรัศมี คุณหมอใจดีที่เคยช่วยชีวิตมารดาของเขาเอาไว้ และแก้วกัลยาก็รับรู้เรื่องนี้ เป็นอย่างดี แต่เธอไม่ได้ยินดียินร้ายและเฉยเมยเมื่อเขาเอ่ยถึงคเชนทร์ เขาจึงเลิกพูดกับน้องสาวเรื่องนี้ ปล่อยให้เธอเรียนให้จบก่อน แล้วคิดจะทำอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
การไปหาน้องสาวบ่อยๆ ทำให้เขาได้เจอกับใบข้าว สาวน้อยนิสัยดีและน่ารัก ใบข้าวเป็นคนขยัน หลังเลิกเรียนและปิดเทอมก็จะทำงานพิเศษเพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่ที่บ้านปรานี บ้านที่อุปการะเด็กกำพร้าเอาไว้หลายชีวิต
แม้จะรู้ดีว่าแอบชอบเธอมากเพียงใด แต่เขาก็ยังไม่กล้าจีบเพื่อนน้องสาวคนนี้อย่างจริงจัง เธอยังเรียนอยู่ เขาจึงไม่ควรทำให้เธอเสียการเรียน อยากให้มุ่งมั่นกับการเรียนมากกว่าจะมาคิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ
“เพื่อนแก้วคนนี้มีผู้ชายมาจีบเยอะมากเลยนะคะพี่กริช แต่ข้าวยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ ข้าวไม่สนใจ ข้าวอยากเรียนให้จบ มีงานดีๆ ทำ ข้าวขยันและตั้งใจเรียนมากเลยค่ะพี่กริช” แก้วกัลยาพูดให้พี่ชายฟังยิ้มๆ แม้พี่ชายจะไม่ถามแต่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าพี่ชายคิดเช่นไรกับเพื่อนรักคนนี้ของของเธอ
เดี๋ยวเถอะ! ต่างคนต่างชอบกัน เธอจะอุ้มสมให้ได้กันเสียเลย คนคิดหัวเราะคิกคักในใจ และมีความสุขทุกครั้งที่เห็นพี่ชายส่งสายตาหวานๆ ให้เพื่อนของเธอ และเพื่อนของเธอที่ใจแข็งยิ่งกว่าหินไม่สนใจผู้ชายคนไหนกลับมีท่าทีสะเทิ้นอายทุกครั้งที่เจอกับพี่ชายสุดที่รักของเธอ
ใบข้าวมองทัศนียภาพรอบกายด้วยดวงตาเป็นประกาย เธอเรียนจบแต่ยังไม่มีงานทำ เพื่อนรักอย่างแก้วกัลยาที่เรียนจบมหาวิทยาลัย มาพร้อมกันจึงชวนเธอมาทำงานที่ไร่องุ่นของพี่ชาย
พี่ชายของแก้วกัลยาต้องการพนักงานบัญชีเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง แก้วกัลยาจึงขอให้เธอมาทำงานด้วย เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เป็นแค่เด็กกำพร้าดังนั้นการจะเดินไปไหนมาไหนจึงไม่ต้องคอยกังวลสิ่งใด เธอกลับไปกราบแม่ปรานีที่อุปการะเธอเอาไว้ตั้งแต่เล็กและบอกท่านว่าจะมาทำงานที่ภาคเหนือ ท่านก็ยินดีที่เธอเรียนจบมีงานทำ ใบข้าวคิดว่าหากได้เงินเดือนก็จะส่งเสียกลับไปที่บ้านปรานีเพื่อช่วยเหลือน้องๆ ที่กำพร้าและช่วยเหลือแม่ปรานีอีกแรงหนึ่ง
อีกเหตุผลหนึ่งเพราะเธอแอบหลงรักพี่ชายเพื่อนมาช้านาน ตั้งแต่รู้จักกันเมื่อหลายปีก่อนตอนที่กริชเดินทางไปเยี่ยมเยียนแก้วกัลยา หลังจากนั้นมาเธอก็ละเมอเพ้อพกถึงเขาแทบจะทุกวัน มีผู้ชายมาจีบเธอก็ไม่เคยนึกชอบใครสักคนเดียว
“ถึงแล้วจ้ะ” เสียงของแก้วกัลยาทำให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิด มองบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ลงมาได้แล้วจ้ะ พี่กริชไปไหนนะ ไม่เห็นออกมารับเลย” แก้วกัลยาบ่นเบาๆ กับแม่บ้านวัยกลางคนที่ออกมาต้อนรับ
“พ่อเลี้ยงเข้าไร่ค่ะคุณหนู” สมรรายงานเจ้านายสาว แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าบ้าน เสียงม้าที่ควบเข้ามาใกล้เรียกความสนใจของคนที่ยืนคุยกันอยู่ในทันที
ร่างของพ่อเลี้ยงกริชวัยสามสิบห้าปีนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบข้าวเห็นแล้วแอบยิ้มเมื่อเห็นเขา พ่อเลี้ยงหนุ่มรีบลงมาจากหลังม้ายิ้มกว้างให้น้องสาวและเพื่อนน้องสาว
“พี่กริชมาช้า” แก้วกัลยาทำหน้ามุ่ยใส่พี่ชาย
“พี่รีบสุดๆ แล้วนะ” เขาโยกศีรษะน้องสาวไปมาอย่างเอ็นดู หลังจากให้คนงานพาม้าไปผูกที่คอก
“แก้วพาข้าวมาตามสัญญาแล้วนะคะ ที่คุยกันไว้เมื่อวันก่อนไงคะ พี่กริชบอกว่าตอนนี้กำลังขาดพนักงานบัญชีอยู่ เพื่อนของแก้วทำงานเก่งนะ”
แก้วกัลยาบอกพี่ชายว่าเรียนจบแล้วอยากจะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ เป็นของตัวเองอยู่ใกล้พี่ชาย ส่วนใบข้าวนั้นก็อยากหางานทำเพื่อจะได้มีเงินส่งเสียบ้านปรานี เธอจึงฝากฝังเพื่อนให้ทำงานกับพี่ชาย เพราะถ้าให้มาช่วยทำงานร้านกาแฟ เธอเองก็คงไม่ได้กำไรอะไรมากมาย แค่อยากเปิดขายแก้เบื่อไป เท่านั้นเอง วันหนึ่งอาจจะมีลูกค้าสักคนสองคนเธอก็พอใจแล้ว ด้วยว่าครอบครัวไม่ได้ลำบากยากจน ถึงเธอไม่ทำงานอะไรก็มีเงินใช้ไปทั้งชาติ พี่ชายยังเคยพูดว่ากลับมาอยู่บ้านทำกับข้าวให้กินก็พอแล้ว แต่เธอก็อยากมีอะไร เป็นของตัวเองบ้าง ไม่อยากแบมือขอแต่เงินพี่ชายเพียงอย่างเดียว
เธอยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่งที่สำคัญ แต่ไม่ได้ปริปากบอกให้ใครได้รู้
“สวัสดีค่ะพี่กริช” ใบข้าวยกมือไหว้พี่ชายเพื่อนรักพลางยิ้มหวานให้เขา ได้สบประสานสายตาคมกล้าคู่นั้นแล้วรู้สึกเขินอายไม่น้อย กริชเป็นผู้ชายในฝันที่เธอปรารถนา แต่ฐานะของเธอห่างไกลจากเขาลิบลับ เขาเป็นพ่อเลี้ยงเจ้าของไร่องุ่นที่แสนร่ำรวย ในขณะที่เธอเป็นเพียงเด็กสาวกำพร้ามีฐานะยากจน เธอไม่ได้หวังสูงว่าจะได้ครอบครองเขาทั้งตัวและหัวใจ ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ๆ ได้แอบดูแลเขาแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว เธออยากได้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเขาได้เห็นเขามีความสุขและเห็นรอยยิ้มของเขาในทุกๆ วัน คนแอบรักหัวใจฟูฟ่องทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาแสนใจดีของพี่ชายเพื่อนรัก
อีกเหตุผลคือเธออยากมีงานมีการทำ จะได้ส่งเสียน้องๆ ที่บ้านเด็กกำพร้าคนอื่นๆ ด้วย
“สวัสดีครับน้องข้าว เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักเถอะ พี่ขอโทษด้วยนะไม่ได้ไปรับเราที่สนามบิน” กริชพาน้องสาวเข้าบ้าน ใบข้าวเดินตามไปเงียบๆ มองสองพี่น้องที่รักใคร่ปรองดองกันแล้วอมยิ้ม เธออยากมีพี่ชาย พี่สาวหรือน้องชายน้องสาวกับใครเขาบ้าง คงดีไม่น้อย เวลามีอะไรจะได้คุยกัน ไม่อยู่ โดดเดี่ยวคนเดียว
“พี่จัดห้องพักเอาไว้ให้แล้วนะ” กริชจัดห้องพักให้น้องสาวและเพื่อนน้องสาวใหม่ทั้งหมด ตอนแรกจะให้พักอยู่ด้วยกัน แต่เพราะต้องอยู่กันอีกนาน เนื่องจากใบข้าวต้องมาทำงานที่นี่ด้วย เขาจึงแยกห้องให้ จะได้ไม่อึดอัดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นส่วนตัวอีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ ไปเถอะข้าว เราขึ้นห้องกันดีกว่า” แก้วกัลยาหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่ ก่อนจะจับมือเพื่อนพาเดินขึ้นห้อง
ห้องพักใหญ่โตมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทำให้ใบข้าวนึกขอบคุณเจ้าของบ้านไม่น้อย เธออาบน้ำอาบท่าเสร็จ แก้วกัลยาก็พาลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้
“ข้าวพออยู่ได้ไหม” แก้วกัลยาเอ่ยถามเพื่อนรัก
“อยู่ได้จ้ะ ห้องกว้างและใหญ่โตมาก ขอบคุณแก้วจริงๆ นะที่หางานให้เรา แถมยังมีที่พักให้ฟรีอีก” ทั้งขอบคุณทั้งรู้สึกเกรงใจเพื่อนไม่น้อย
“ไม่เป็นไร ข้าวเป็นเพื่อนรักของเรานี่นา ข้าวพักบ้านเรานี่แหละ แล้วก็ไปทำงานในไร่กับพี่กริช พนักงานบัญชีคนก่อนลาออกไปพอดี พี่กริชจะได้ไม่ต้องหาคนใหม่” เธอไม่ได้บอกเพื่อนว่าเพราะคนเก่าทำงานไม่ดี แอบยักยอกเงิน พี่ชายของเธอจึงไล่ออก คิดว่าไม่พูดจะดีกว่า อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เธอมั่นใจว่าใบข้าวเป็นคนซื่อสัตย์ไม่ทำอะไรไม่ดีหรือทุจริตเป็นแน่เพราะอยู่กันมานานจนเรียนจบ เงินเหรียญห้าบาทหล่นอยู่ยังไม่เอาเลย ยังเก็บไปวางเอาไว้ให้เธอ เธอทิ้งกระเป๋าเงิน ทิ้งเงินเอาไว้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ใบข้าวอาจจะยากจนเป็นเด็กกำพร้าแต่ไม่อยากได้ของคนอื่น ไม่ลักเล็กขโมยน้อย