ตอนที่ 5 ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
หลังจากผ่านคืนเร่าร้อนมาสามคืน ดงชิกก็ได้รู้แล้วว่าแพทตี้เป็นผู้หญิงที่ยังสดใหม่ของวงการผู้หญิงกลางคืน แต่เขาก็ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้เพราะครอบครัวของเขาไม่อนุญาตให้เขาเลี้ยงดูผู้หญิงคนไหน ถ้าหากจะใช้เงินซื้อมาครอบครองแล้วจบแบบนั้นครอบครัวของเขาไม่ว่า ถึงแม้ว่าจะเสียดายในความสดใหม่ของหญิงสาวที่มีรูปร่างและหน้าตาที่สวย เซ็กซี่ น่าครอบครอง แต่ผู้ชายคนนั้นก็คงไม่ใช่เขา
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม...แพทตี้” เสียงทุ้มของดงชิกเอ่ยถามในค่ำคืนสุดท้ายที่เขาได้ร่วมรักกับเธอ
“แน่นอนสิดงชิก ขอบคุณนะที่ไม่รังเกียจที่จะเป็นเพื่อนกับผู้หญิงกลางคืนแบบแพทตี้” หญิงสาวบอกหลังจากที่นั่งลงบนเตียง เธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหลังจากร่วมรักกับเขาครั้งสุดท้ายในเช้านี้
“คุณจะรับงานออฟอีกไหม... ถ้ารับอีกแล้วผมยังอยู่ไทย คุณเลือกผมได้ไหม” เขายังคงเสียดายความสดใหม่ของเธอ ถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยงดูแต่อย่างน้อยได้กลายเป็นลูกค้าประจำของเธอก็ยังดี
“เรื่องนั้นฉันยังไม่แน่ใจค่ะดงชิก แต่ฉันไม่อยากจะรับเลยสักนิด” ใบหน้าสวยหันไปมองสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของตนก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปโอนเงินให้มารดา
“เงินนี้ถึงจะไม่มาก แต่ผมก็คิดว่ามันจะทำให้คุณไม่ต้องออกไปกับผู้ชายอีกนาน”
เขายิ้มพร้อมทั้งหยิบแบงก์สีเทาออกมาให้เธอหนึ่งปึก นั่นก็หมายความว่าเขาให้เงินเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ แพทตี้มองเงินที่เขาส่งให้ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองสบตาของเขา กับดงชิกเธอนั้นไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์เหมือนตอนที่อยู่กับแอนเดียส เพราะเขาคือผู้ชายคนที่สองของเธอในการทำงานขายบริการ
“ขอบคุณนะดงชิก” เธอบอกเขาเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหยิบเงินที่ได้มาจากการขายร่างกายของเธอให้กับผู้ชายที่เจอกันได้ไม่นานมาใส่ในกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ถ้าผมยังอยู่พัทยา ผมจะแวะไปเลี้ยงดื่มคุณนะแพทตี้ ขอบคุณคุณเหมือนกันที่ยอมออกมากับผม และมอบความสุขให้กับผม” เขาบอกก่อนที่จะดึงเธอเข้าไปกอด เรียวแขนเสลากอดเขาตอบก่อนที่จะผละออก
“ฉันกลับก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ” ร่างเพรียวในชุดเสื้อกล้ามที่มีเสื้อแขนยาวสีดำคลุม สวมกางเกงวอ์มสีขาวเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินไปเปิดประตูห้อง ก่อนที่จะออกหญิงสาวเหลียวมามองเขาและส่งยิ้มให้หนุ่มเกาหลีใจดีอีกครั้ง จากนั้นร่างระหงจึงออกจากห้องไปพร้อมกับหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆที่ไหลลงมา
‘จบสิ้นสักที ความสุขชั่วคราว หนูหาเงินให้พ่อได้แล้วนะแม่’ หญิงสาวคิดในใจก่อนที่จะยกมือบางขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ตัวเดิมที่เธอกับดงชิกใช้ขึ้นลงคอนโดตลอดระยะเวลาสองวันสามคืน
ทันทีที่ออกจากคอนโดของลูกค้าคนที่สองของเธอมาได้ หญิงสาวก็เรียกวินมอเตอร์ไซด์ไปส่งที่ธนาคารทันที แพรวาหรือแพทตี้เลือกโอนแบบตู้ฝากอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีตนเองเสร็จ หญิงสาวจึงโอนต่อไปให้มารดา จากนั้นจึงจัดการโทรไปแจ้งข่าวดีให้กับทางบ้าน มารดาของเธอดีใจและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นที่บุตรสาวสามารถช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ ถึงแม้จะรู้สึกทุกข์อยู่ในใจว่าบุตรสาวต้องไปทำงานที่เสี่ยงอันตราย แต่จะทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อเธอเองก็ช่วยเหลือใครไม่ได้เลย
ดาวอะโกโก้สาวเรียกวินมอเตอร์ไซด์อีกครั้งเพื่อกลับคอนโดที่เธอและเพื่อนอาศัยอยู่ด้วยกัน เธอมองสายเรียกเข้าที่มีถึงสี่ห้าสาย ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแอมมี่ เพื่อนที่เธอสนิทที่สุดและเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในพัทยาที่จริงใจกับเธอมากที่สุด ใช้เวลาไม่นานพี่วินก็พาหญิงสาวไปส่งถึงที่หมาย ค่าวินที่เธอเสียไปสองรอบเกือบสองร้อยบาท และแน่นอนว่ามันย่อมแพงในเมืองท่องเที่ยวเช่นนี้
ร่างบางเดินขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องรีบพักผ่อนก่อนที่จะกลับเข้าไปที่อะโกโก้คืนนี้หลังจากครบกำหนดที่ดงชิกบาร์ฟายเธอออกไป ทันทีที่เปิดประตูห้องเธอก็พบว่าเพื่อนสนิทของเธอยังนอนหลับสนิทอยู่ หญิงสาวจึงย่องเบาเข้าไปจากนั้นจึงเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายจากกลิ่นคาวโลกีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะอาบน้ำมาจากคอนโดของดงชิกแล้ว แต่กลิ่นครีมอาบน้ำของเขามันก็ไม่ใช่กลิ่นที่เธอใช้เป็นประจำ
“แพทตี้ กลับมาแล้วหรอ” แอมมี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“อืม... เราเสียงดังทำเธอตื่นหรอ... ขอโทษนะแอมมี่” แพทตี้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“เห้ย!! เปล่า เราแค่ผล็อยหลับไปน่ะ ว่าแต่ดงชิกเป็นไงบ้าง เขาดีกับเธอใช่เปล่า” แอมมี่อดที่จะถามถึงคนที่พาเพื่อนเธอออกไปไม่ได้ กลัวอีกฝ่ายจะทำให้แพทตี้หวั่นไหวอีก
“อืม... ก็ดีนะ แอมมี่ไม่ต้องห่วงเราหรอก เราโอเคร กับดงชิกเรายังเป็นเพื่อนกันได้ เขาบอกถ้าเขายังอยู่พัทยาเขาจะมาเลี้ยงดื่มเราอีก แต่เราก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เขาจะมาไม่มาก็เป็นเรื่องของเขา เพราะการที่เขาผ่านเข้ามาในชีวิตของเราเดี๋ยวเขาก็ผ่านไป” แพทตี้เอ่ยออกมาให้เพื่อนสนิทสบายใจ เธอรุ้ดีว่าแอมมี่เป็นห่วงเธอถึงเอ่ยถามออกมาแบบนั้น
“ถ้าอย่างนั้นง่วงเปล่า ง่วงก็มานอนสิ” แอมมี่เอ่ยถาม เมื่อเห็นเพื่อนสาวพยักใบหน้างามที่แววตาดูร่วงโรยเหมือนกับคนอดหลับอดนอนมาหลายคืน หญิงสาวจึงเอ่ยชวนเพื่อนให้ขึ้นมานอนข้างๆ แพทตี้ฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะกระโดดขึ้นเตียงแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆเพื่อนสนิท แอมมี่คว้าเอาร่างบางของแพทตี้เข้ามากอดจนสาวสวยนอนตัวเกร็ง
“ฝันดีแพทตี้ เย็นนี้ทำงานช่วยเราหาดื่มด้วยนะ เมื่อวานได้สองดื่มเอง” แอมมี่บอกทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แต่แขนเรียวของเธอกลับโอบกอดเพื่อนสนิทสาวเอาไว้
“อืม... ฝันดีแอมมี่ เย็นนี้เดี๋ยวเราช่วยเธอหาดื่มเอง ไม่ต้องห่วงนะ นอนเถอะ”
มือบางตบลงบนแขนของเพื่อนเบาๆก่อนที่เสียงลมหายใจของแอมมี่จะดังขึ้นมาสม่ำเสมอ แพทตี้ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหลับตาลงเช่นกัน เธอยังเหนื่อยและรู้สึกว่าต้องการพลังในการไปทำงานเย็นนี้
ทันทีที่ดาวอะโกโก้สาวไปถึงร้านก็ได้รับสายตาหลายคู่ของทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันมองมาทั้งเป็นมิตรและไม่เป็นมิตร เธอสวย ขาว หุ่นก็เซ็กซี่เย้ายวน เรื่องนี้ทุกคนยอมรับและแน่นอนว่าถ้าอะโกโก้แห่งนี้ไม่มีแพทตี้สักคน ลูกค้าก็คงเข้าร้านน้อยลงกับเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาแบบนี้ มาม่าซังพอเห็นลูกรักเดินเข้ามาในร้านก็เข้ามาถามไถ่ทันทีด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าลูกสาวจะเผลอใจให้กับลูกค้าหนุ่มเกาหลีที่บาร์ฟายเธอออกไปถึงสามคืนสองวัน
“สวัสดีค่ะแม่” แพทตี้เอ่ยทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้มาม่าซังที่คอยดูแลและห่วงใยเธอทันที
“สวัสดีลูก แม่ก็นึกว่าวันนี้หนูจะหยุดพักก่อน แล้วเป็นไงบ้างจ๊ะ ดงชิกเค้าดีกับหนูไหม”
“ก็ดีนะคะแม่ เขาบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับหนูต่อไป เห็นบอกว่าถ้ายังอยู่พัทยาจะมาเลี้ยงดื่มอยู่ค่ะ” เธอตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้มาม่าซังเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเธอสบายดี และไม่ได้หวั่นไหวไปกับหนุ่มเกาหลีคนนั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะลูก แม่ดีใจนะที่หนูแยกแยะความรู้สึกได้ดีขึ้น ผู้หญิงที่ทำงานแบบนี้มันหายากที่ใครจะมาจริงใจ อยากได้เราไปเป็นแฟน หรือเป็นภรรยา แม่ไม่อยากให้หนูเจ็บปวด”
จินตนาเอ่ยออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่จะพร่ำสอนเด็กสาวไม่ให้หลงใหลไปกับคำหวานของลูกค้าบางคนที่เข้ามาก็แค่ชั่วคราวแต่พูดจาเหมือนกับว่าอยากดูแลไปทั้งชีวิต พอได้ในสิ่งที่ต้องการพวกเขาก็ผ่านไป เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามาและพัดผ่านออกไป จินตนาเห็นเด็กสาวมามากหน้าหลายตา หรือแม้แต่ลูกค้าเองเธอก็พบเจอมาทุกรูปแบบ
“ค่ะแม่จิน หนูจะจำเอาไว้ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ กับดงชิกหนูโอเคและไม่ได้รู้สึกกับเขาไปมากกว่าคนที่มาใช้บริการเท่านั้น” แพทตี้ยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะขอตัวและเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
หกเดือนต่อมา
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ดาวอะโกโก้คนสวยนั้นเป็นที่นิยมและที่หมายตาของหนุ่มๆชาวต่างชาติทั้งหลาย อย่าว่าแต่หนุ่มต่างชาติเลย แม้แต่หนุ่มไทยที่ทำงานเป็นการ์ดของอะโกโก้ และอะโกโก้ข้างเคียงก็ยังแอบขายขนมจีบให้กับเธอ แต่จุดประสงค์ของแพทตี้นั้นไม่ได้มาที่พัทยาเพื่อใฝ่หาความรักแต่เธอมาเพื่อหาเงินให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและนั่นจึงทำให้เธอไม่คิดจะมองหนุ่มๆคนไหนแบบจริงจังเลยสักคน
ด้านหน้าอะโกโก้มีแขกมากหน้าหลายตา หลากหลายเชื้อชาติเดินผ่านไปมา บางคนถูกพีอาร์สาวๆคอยเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้เข้าไปชมข้างในร้าน และดูเหมือนกลุ่มหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่เรียกได้ว่าหล่อเกือบทั้งกลุ่มก็กำลังเดินผ่านอะโกโก้ที่มีสาวสวยอย่างแพทตี้เป็นดาวเต้นอยู่ มีหรือที่พวกบรรดาพีอาร์จะปล่อยให้หนุ่มๆกลุ่มนี้หลุดมือไป สาวๆรีบทำหน้าที่เรียกลูกค้าหนุ่มๆกลุ่มนี้ทันที
หนุ่มฝรั่งรูปหล่อ ตาฟ้า ผิวขาว ผมทองที่มีส่วนสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร แต่ทว่ารูปร่างของเขานั้นกลับหนั่นแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้าม เขาสวมเพียงเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงยีนแบรนด์ดัง รองเท้าแตะเพียงเท่านั้น แต่ออร่าความหล่อเหลานั้นดึงดูดให้สาวๆเข้าหาและดึงรั้งกล้ามแน่นๆของเขาไว้
“ฮัลโหล...สุดหล่อ ในอะโกโก้ของเรามีสาวสวยๆกำลังเต้นโชว์อยู่ด้วยนะคะ เชิญเข้าไปชมข้างในก่อน ถ้าไม่ถูกใจจะออกมาก็ไม่ว่า”
เสียงหวานออดอ้อนหนุ่มฝรั่งสุดหล่อที่ตนดึงรั้งเอาไว้ได้ เพื่อนๆของหนุ่มหล่อคนนี้หันมาส่งยิ้มก่อนที่จะพูดคุยกันเป็นภาษาเยอรมัน แน่นอนว่าพีอาร์สาวบางคนนั้นฟังออกจากประสบการณ์ที่ทำงานด้านภาษามานานหลายปี
“เฮ้...สตีเว่น ลองเข้าไปดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ถูกใจค่อยไปร้านอื่น”
เดนนิสเอ่ยทักเพื่อนที่เอาแต่ยืนอมยิ้มอยู่น้อยๆ สตีเว่นเป็นเจ้าของบริษัทไอทีในยุโรปที่อายุน้อยที่สุด และเขาไม่ชอบเป็นข่าวจึงทำให้คนนอกไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครและร่ำรวยมหาศาลขนาดไหน เขาชอบทำตัวติดดินเพื่อลองใจคนรอบกายโดยเฉพาะกับพวกสาวๆที่ส่วนมากคบกับเขาเพียงเพราะรูปกายและสมบัติ
“อืม...ลองเข้าไปดู เผื่อคืนนี้นายอาจจะถูกใจใครสักคน” โอเว่นแสดงความเห็นขึ้นมาบ้าง สาวๆที่ยืนส่งยิ้มรออยู่จึงดึงหนุ่มๆให้ตามเข้าไปในอะโกโก้ที่อยู่ด้านหลังพวกเธอทันที
และทันทีที่ประตูเปิดออก กลิ่นไอของแอลกอฮอล์ปะปนกับกลิ่นหอมหลากหลายชนิดทำให้สตีเว่นเวียนหัวอยู่ไม่น้อยจึงเตรียมจะก้าวออกประตูไป แต่เสียงของดนตรีที่เปลี่ยนจังหวะและสาวๆกลุ่มใหม่ที่ขึ้นมาเต้นบนฟลอพอดีเรียกให้เขาหยุดมอง สายตาคมมองไปที่สาวสวยผิวขาวผ่องในชุดบิกินีสีแดงเพลิง เธอกำลังทำหน้าที่ด้วยการเต้นไปตามจังหวะเพลงที่เย้ายวน หัวใจของชายหนุ่มรู้สึกเต้นแรงจนแทบจะไม่เป็นจังหวะ แล้วความคิดที่จะออกไปก็กลับกลายเป็นเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่ยังว่าง ที่เหลือเพียงสองโต๊ะเท่านั้น สองหนุ่มมองเพื่อนอย่างงุนงง ปกติสตีเว่นไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ สงสัยที่นี่คงมีอะไรดีที่ทำให้เพื่อนเขาสองคนสนใจแล้วล่ะสิ