จะอะไรกันนักกันหนา
‘ หลังจากเสร็จการประชุมเมื่อเช้า อัยยารีบตรงดิ่งมาที่โต๊ะเพื่อจัดทำรายงานสรุป เพื่อนสนิทอย่างฉันหนูนามีหรือนะไม่ถาม แต่มองเข้าไปในห้องกระจกใสอัยยายังคงง่วนกับการพิมพ์รายงาน’
“ นี่ยัยอัยย์ ฉันถามหน่อยเหอะ อาการมันเป็นยังไงเมื่อเช้านะฉันเห็นแกเดินหน้านี่งิกมาเชียวตอนออกมาจากห้องท่านรอง “
“ จะไม่ให้งิกได้ไง อันที่จริงแล้วโครงการนี้มันได้รับการอนุมัติไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน โดยที่ฉันไม่ต้องไปนำเสนออะไรทั้งสิ้น “
“ อ้าว……แล้วทำไมท่านรองถึง……”
“ นั่นแหละคือคำถามที่ต้องค้นหาคำตอบต่อไปฉันเอารายงานไปให้พี่วัฒน์ก่อนนะ “
หนูนาทำหน้างวยงงไม่น้อยกับคำตอบที่ได้รับรู้จากเพื่อนสาว อัยยาเดินตรงไปยังห้องผู้อำนวยการฝ่ายที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เธอเคาะประตูก่อนจะผลักประตูเข้าไปที่โต๊ะทำงานชายวัยกลางคนกำลังนั่งอ่านเอกสารบนโต๊ะ เขาเงยหน้ามองหญิงสาวร่างบางที่หอบเอาแฟ้มมาวางกองลงบนโต๊ะของเขา
“ อัยย์ มองพี่แบบนี้คงมีคำถามละสิ “ วิวัฒน์เอ่ยถามทันทีที่เห็นสีหน้าของลูกน้อง
“ ใช่ค่ะ……พี่วัฒน์ อัยย์แค่สงสัยว่าท่านรองทำไปเพื่ออะไร อัยย์ไม่เข้าใจนี่ถ้าอัยย์เป็นคนคิดในแง่ร้ายนะอัยย์ต้องคิดว่าท่านรองหมั่นไส้หรือไม่ก็จงใจแกล้งอัยย์แน่นอน “
“ เอาน่าอัยย์ เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างเราเป็นลูกน้องแต่ท่านรองผู้บริหารระดับสูงแกคิดว่าแกจะรู้ความคิดเขามั้ยละ “
“ ชิ!! ดูหน้าอัยย์สิ โทรมแถมยังใต้ตาดำอีกอดหลับอดนอนนั่งทำรายงานนำเสนอจนหลังแข็ง “
“ เออ……เดี๋ยวเย็นนี้พาทุกคนไปเลี้ยงฉลองที่โครงการอนุมัติ ร้านปิ้งย่างแถวนี้ละกันจะได้ไม่ต้องไปรถติดกันอัยย์จองร้านให้พี่ด้วย “
“ เย้ๆๆๆรับทราบค่ะ ผ.อ. “
หลังจากออกห้องของวิวัฒน์ หญิงสาวเดินตรงมาที่ฝ่าย ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างขมักเขม่นอัยยาตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงเริงร่า
“ ทุกคนเย็นนี้ ผ.อ. จะเลี้ยงปิ้งย่าง ทุกคนจอดรถไว้ที่ออฟฟิศนะ แล้วเดินไปกันร้านอัยย์จองไว้แล้วใกล้ๆแถวนี้ใครสนใจไปบ้างยกมือขึ้น “
“ พรึบพรับ!!! “ เสียงยกมือกันอย่างพร้อมเพียง หนูนาจึงอดแซวพนักงานในฝ่ายไม่ได้
“ นี่เรื่องกินฟรีนี่ไวเชียวนะ “
‘ หลังจากเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น เสียงเข็มนาฬิกาที่เดินอย่างช้าๆ โดยปกติก็ไม่มีใครจะสนใจนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่พนังออฟฟิศเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับมีคนมาคอยจดจ้องมันอย่างใจจดใจจ่อ ดูทุกคนจะมีความสุข ถ้าถามฉันเหรอแน่นอนไปกินของฟรีใครๆก็มีความสุขถ้า……ฉันไม่เริ่มก่อเรื่องให้เพื่อนสาวคอยตามล้างตามเช็ดละก็ โปรไฟล์เพื่อนฉันคงดีกว่านี้มาก …ฮ่าๆทำไงได้ละ ก็คนมันเมานี่นา ‘
“ 5 4 3 2 1 ตึ้ง!!! ห้าโมงแล้วโว้ยทุกคน”
ตี๋หนุ่มหล่อประจำออฟฟิศรีบตระโกนบอกทุกคน เสียงปิดคอมพิวเตอร์ เก็บแฟ้ม เก็บกระเป๋า เสียงพูดคุยดังราวกับเสียงผึ้งแตกรังก็ไม่ปาน วิวัฒน์และอัยยาเดินนำล่วงหน้าไปที่ร้านก่อน ระหว่างทางเดินไปที่ร้านทั้งคู่ก็ไปพบกับใครคนหนึ่งที่เขาทั้งสองไม่คิดว่าจะเจอกับเขาในสถานที่แบบนี้
“ ท่านรองจะไปไหนเหรอครับ “ วิวัฒน์เอ่ยทักรองประธานหนุ่ม
“ ผมจะมากินปิ้งย่างแถวนี้ “
“ บังเอิญจังเลยครับ วันนี้ผมก็พาน้องๆที่ฝ่ายมาเลี้ยงที่นี่ครับ “
“ งั้นเหรอ ……งั้นก็นั่งด้วยกันสิ “
“ อุ้ยอย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวท่านรองจะอึดอัดแย่ “
“ ใครเขาจะอยากนั่งด้วย ไม่คิดบ้างถ้าท่านรองมานั่งทำหน้าสงบแบบนี้ใครจะกล้ากิน กล้าคุย “ อัยยารำพึงรำพันในใจ
“ ไม่หรอกผมจองห้องใหญ่ไว้ แล้วนั่งคนเดียวเบื่อแย่เลย มาเถอะอีกอย่างฝ่ายคุณมีพนักงานแค่ห้าหกคนนั่งห้องใหญ่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องนั่งแยกโต๊ะกัน เนอะ “
“ เออ……ครับ “ วิวัฒน์รับคำแบบขัดไม่ได้
ที่ร้านปิ้งย่าง หนูนาเลือที่จะนั่งข้างๆวิวัฒน์ เมื่ออัยยากลับมาจากเข้าห้องน้ำ เธอก็แทบไปไม่เป็นเมื่อเพื่อนรักเหลือที่ว่างไว้คือเก้าอี้ข้างท่านรองหนุ่ม อัยยาจำใจต้องนั่งลงตรงนั้น
เสียงฉู่ฉี่จากการย่างหมูในตะแกรง กำลังได้ที่ เมื่อวิวัฒน์ส่งสายตาหาอัยยาเป็นการบอกให้เธอนั้นตักเนื้อที่ปิ้งในตะแกรงเสริฟ์ให้กับท่านรองหนุ่ม อัยยาไม่อาจขัดคำสั่งของวิวัฒน์ได้ จึงต้องทำตามเธอคีบเนื้อและอาหารบนโต๊ะคอยบริการอินทัช จนเธอเองแทบไม่ได้แตะอาหารมัวแต่นั่งเกร็งรวมไปถึงพนักงานคนอื่นๆด้วยที่เอาแต่กินกันอย่างเงียบๆไม่มีใครกล้าคุยอะไร
“ เออ……ทุกคนครับตามสบายนะเรามากินเลี้ยงฉลองกัน ไม่ใช่ห้องประชุมไม่ต้องเกรงใจผม สั่งให้เต็มที่มื้อนี้ผมขอเลี้ยงเอง ตอบแทนพวกคุณสำหรับโครงการดีๆที่พวกคุณตั้งใจทำเพื่อธนาคารของเรา “
อินทัชเอ่ยขึ้นเสียงดังกลบความเงียบ
“ แต่จริงแล้วมื้อนี้ผมตั้งใจเลี้ยงพวกน้องๆนะครับท่านรอง “
“ เอาน่าคุณวัฒน์ ก็แค่มื้อเดียวการที่พวกคุณจะได้ทานอาหารร่วมกับผมมันไม่ง่ายนะ ……เอ้าพวกเราเต็มที่ “
อินทัชยกแก้วเบียขึ้นชู ทำให้ทุกคนในห้องต่างลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบแก้วกันพัลวัน หนูนาส่งยิ้มก่อนหันแก้วไปชนกับอินทัชโดยไม่รู้ตัว ทว่าดื่มเข้าไปเยอะอาการมึนเมาก็เริ่มจะออก อัยยาคว้าแขนเพื่อนสาวแทบไม่ทัน ก่อนจะเรียกชื่อเพื่อนเป็นการเตือนสติ
“ เอ้าชน!! “
“หนูนา…หนูนาแกทำบ้าอะไรของแกเนี่ย “
อัยยาดึงเพื่อนให้นั่งลงก่อนที่หนูนาจะไม่มีเงาหัว ผ่านเกือบสองชั่วโมงแอลกอฮอล์ที่ดื่มกันเข้าไปก็เริ่มออกฤทธิ์ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับคาราโอเกะที่ร้านมีให้บริการสำหรับห้องวีไอพี อัยยานั่งมองทุกคนร้องเพลงโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้ตัวว่าสายตาคมกริบของใครบางคนกำลังจ้องมองดวงหน้าหวานของเธออย่างไม่ละสายตา
รอยยิ้มหวานที่ทำเอาหัวใจหนุ่มโสดมานานเช่นเขากำลังจะละลาย อินทัชแอบมองอัยยาอยู่สักพักก่อนจะขยับตัวเข้าไปนั่งเบียดเธอใกล้ๆที่โซฟายาว จังหวะที่อัยยาหันมาหยิบของในกระเป๋า เธอต้องตกใจเมื่อหน้าของเธอเข้าไปใกล้จนจมูกโด่งได้รูปเกือบชนเข้าแก้มของท่านรองหนุ่ม
“ อุ้ย!! ขอโทษค่ะ อัยย์ไม่ทันได้ระวัง ไม่คิดว่าท่านรองจะนั่งอยู่ตรงนี้ “
“ ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจผู้ชายเพอร์เฟคเช่นผม สาวๆที่ไหนก็อยากใกล้ชิด “
“ เหรอ………อีตาบ้าเนี่ยนอกจากเผด็จการแล้ว ยังหลงตัวเองด้วย คิดว่าหน้าแบบนี้หล่อนักรึไง ……ชิจะบอกให้เอาบุญนะผู้หญิงสวยและเก่งแบบฉันมีแต่ผู้ชายเพอร์เฟคมารุมขายขนมจีบรู้ไว้ซะด้วย “ อัยยารำพึงรำพันในใจก่อนจะยิ้มเหยียดให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
“ แล้วอัยยาชอบมาทานที่นี่บ่อยเหรอ “
อินทัชยังคงชวนอัยยาคุยต่อ ถึงแม้เขาจะดูออกว่าท่าทีของหญิงสาวไม่ได้อยากที่จะคุยด้วย
“ ไม่ค่ะ ……พอดีวันนี้เรานัดกันกระทันหันก็เลยไม่ได้จองร้านไกลค่ะ “
“ อือ……เหรอแล้วปกติทานข้าวกลางวันชอบไปทานร้านไหน “
“ ปกติพวกเราก็จะทานโรงอาหารของออฟฟิศค่ะ “
“ แล้วเวลามาทำงานเดินทางมายังไง “
“ ส่วนใหญ่ทุกคนจะมารถไฟฟ้าหรือไม่ก็ขับรถมากันค่ะ “
“ แล้วเวลากลับล่ะ “
“ ก็แบบที่แจ้งไปตอนต้นค่ะ”
“ จะถามอะไรนักหนาว่ะ นี่มากินปิ้งย่างหรือมาสัมภาษณ์งาน ……งงใจจริงๆ “ อันยารำพึงรำพันในใจ
“ เปล่าที่ผมถามมาทุกข้อผมหมายถึงคุณนะ “
“ คะ?……อ่อค่ะ ปกติขับรถมาทำงานเองบ้างนั่งรถไฟฟ้าบ้างแล้วแต่โอกาส ทานกลางวันข้างนอกบ้าง ที่โรงอาหารบ้าง “
“ คุณอยู่ไกลจากออฟฟิศมั้ย “ อินทัชยังคงสักประวัติไม่เลิก
“ คะ?……เออ ก็แถวๆรถไฟฟ้า “
“ อันที่จริงคุณก็อยู่ใกล้คอนโดผมนะ เราไปทางเดียวกัน คุณกลับพร้อมผมได้นะวันนี้คุณไม่ได้เอารถมานิ “
“ คะ? ……”
“ รู้ได้ไงว่ะ ว่าไม่ได้เอารถมาแล้วรู้อีกว่าคอนโดอยู่ใกล้กัน……มันยังไงนะผู้ชายคนนี้ “ อัยยารำพึงรำพันในใจ
เมื่อได้เวลาร้านเลิกทุกคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน รวมถึงอัยยาด้วยเธอจำใจต้องอาศัยรถอินทัชกลับ เนื่องจากหนูนาเมาไม่ได้สติ เธอจึงต้องลากสังขารเพื่อนขึ้นรถเจ้านายหนุ่ม อินทัชขับรถมาส่งอัยยาที่คอนโดหรูพร้อมช่วยพยุงหนูนาขึ้นมาส่งที่ห้องด้วย
“ เออท่านรองคะ ขอบคุณมากค่ะ ส่งแค่นี้ก็ได้ อัยย์ไหวค่ะ เดี๋ยวอัยย์จัดการเอง “
“ โอเคงั้นผมขอตัวก่อน “
“ สวัสดีค่ะ “ อัยยากล่าวลาก่อนผงกศีรษะเล็กน้อย เธอดันบานประตูห้องพร้อมพยุงร่างเพื่อนสาวที่ไม่ได้สติเข้าห้องไป
“ คนอะไรยิ่งมองใกล้ๆยิ่งน่ารัก ……เด็กบ้า “
‘ คุณอินทัชอมยิ้มเล็กน้อย ก็คงจะคิดถึงใบหน้าหวานของอัยยาแน่นอน แต่พีคในพีคก็คือเขาดันกดลิฟต์ขึ้นชั้น11 เพื่อกลับห้องพักของเขา อัยยาไม่มีโอกาสได้รู้ว่าเธอเองได้พักคอนโดเดียวกับคุณอินทัชแต่ไม่ใช่อยู่ไกลกันอย่างที่เธอเข้าใจ เรื่องนี้อัยย์ไม่รู้ แต่คนที่รู้คือฉัน แล้วรู้ได้ไงหรอ……อะๆถ้าเล่าเลยก็ไม่สนุกละสิ ไปต่อกันเถอะ ไปต่อด้วยเรื่องที่ว่าไม่ใช่มีแค่ความใจดีที่มีนะจ๊ะหนุ่มคนนี้ แต่แอบจิตเล็กๆก็ตรงที่มาแอบเฝ้าดูเพื่อนสาวของฉันวิ่งออกกำลังตอนเช้า…คนบ้าอะไรนั่งดูคนออกกำลังกาย สภาพหน้าสดแบบนี้ในตอนเช้า ถ้าไม่ชอบกันจริงเฝ้าดูไม่ได้นะคะนานสองนานขนาดนี้ ‘