บท
ตั้งค่า
3 ทำตามที่ข้าสั่ง
ภาพที่นางใช้มีดเล่มเล็กเฉือนเอวของตนเองอยู่ภายใต้สายตาของไช่เสิ่งเจี๋ย เขาคิดไม่ถึงว่าสตรีที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมเช่นนางจะกล้าทำร้ายตนเองดีกว่าขอร้องเขา ชายหนุ่มมองเหยียดร่างเล็กที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น เดินเข้าไปใช้เท้าของตนเองสะกิดเบา ๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่านางหมดลมหายใจไปแล้วหรือยัง
“ข้ายังไม่ตาย” ผู้ที่นอนอยู่เอ่ย “เอาเท้าสกปรกของเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้” แม้จะทรมานทั้งจากกำยานและบาดแผลที่เอว แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความเย่อหยิ่ง
“ท่านหญิงจื้อฉิงยังมีชีวิตอยู่อีกหรือนี่” ไช่เสิ่งเจี๋ยคุกเข่าลง
“เจ้าตัวเหม็นเน่าถอยออกไปให้ห่าง ๆ” ยิ่งเขาเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเท่าใด กลิ่นเหม็นก็ยิ่งตีขึ้นจมูกจนนางอยากจะอาเจียน
“จะตายอยู่แล้วท่านยังกล้าปากดี” เขาต่อปากต่อคำ จับร่างเล็กพลิกกลับดี ๆ จากนั้นอุ้มขึ้นเตียง
“ข้าจะอ้วก” ถึงแม้จะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเท่าใดนัก แต่นางก็ไม่เคยต้องพบกับสิ่งโสมมเช่นนี้ คนตัวเล็กดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของก้อนเนื้อเหม็นเน่า ความจริงนางมีสิ่งที่จะทำให้เขาเชื่อฟัง แต่นางไม่อยากทำ เพราะดูจากเสียงหวีดร้องในตำหนักบูรพาเมื่อก่อนหน้านั้นเขาดูทรมาน
ไช่เสิ่งเจี๋ยไม่ได้ตอบสิ่งใด นางไม่มีแรงดิ้นรนต่อสู้ใด ๆ อยู่แล้ว เตียงนอนนุ่มปูผ้าเป็นอย่างดี ๆ ชุดนอนบางเบาของนางที่บริเวณเอวเป็นสีแดงฉาน อันที่จริงแค่เฉือน ๆ ให้พอมีเลือดไหลแค่เพียงเท่านั้นก็เพียงพอ แต่นางใจเด็ดกว่าที่เขาคิด หรือไม่ก็คงกะแรงของตนเองไม่ได้ แทงไปเสียลึก โชคดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ
กะละมังทองเหลืองมีน้ำใส่อยู่เต็ม ไช่เสิ่งเจี๋ยล้างมือแล้วตั้งใจว่าจะช่วยทำความสะอาดแผลให้กับนาง อันที่จริงเขาเองก็ไม่คิดว่าตนจะใจดีกับนางได้เช่นนี้
“เจ้าจะทำอะไร”
“ข้าล้างมือแล้ว” เขาตอบท่าทางยียวน
“ถึงข้าจะตายก็จะไม่ขอร้องคนเช่นเจ้า” ริมฝีปากเล็กบางของนางยังคงพ่นคำพูดดูแคลนอีกฝ่ายไม่หยุด
ไช่เสิ่งเจี๋ยเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
“เมียจ๋า คืนแรกของพวกเราสองคน ข้าอยากให้มันมีแต่ความทรงจำดี ๆ เถอะ” ชายหนุ่มขึ้นคร่อมร่างเล็ก เอาตัวเอนบังบาดแผลและชุดเปื้อนเลือดของนางเอาไว้ พร้อมกับกระซิบเบา ๆ “บนหลังคามีคนขององค์หญิงใหญ่ถ้าไม่อยากให้พวกเขาจับได้ เจ้าต้องอยู่นิ่ง”
นางไม่รู้ว่า เขาพูดจริงหรือพูดเล่น แต่แค่เพียงนิดเดียวนางก็ไม่อยากเข้าใกล้เขา หญิงสาวนอนตัวแข็งทื่อกลั้นลมหายใจสุดชีวิต ส่วนก้อนเนื้อเหม็นเน่าก้อนนี้ก็ดูเหมือนว่า จะไม่ได้คิดจะแตะต้องตัวนางจริง ๆ คนตัวเล็กจึงคลายความกังวลใจลงไปได้บ้าง
เมื่อมาอยู่ใกล้ชิดกับบุรุษเพศเช่นนี้ พิษกำยานที่นางสูดดมเข้าไปดูเหมือนจะเริ่มกำเริบอีกครั้ง มือเรียวเผลอขึ้นไปปัดปอยผมก้อนเนื้อเหม็นเน่าที่ปรกหน้าปรกตาอย่างลืมตัว
“ดวงตาเจ้าเป็นสีเทา” หญิงสาวเอ่ย หากไม่นับว่าเขาอยู่ในสภาพที่เป็นก้อนเนื้อเหม็นเน่า ก่อนหน้าคงจะเป็นบุรุษที่หล่อเหลาสง่างามดีไม่น้อย
“ท่านหญิง” จากการที่มือเล็ก ๆ ของนางกำลังวุ่นวายซุกซน คงเป็นเพราะกำยานปลุกกำหนัดกำเริบขั้นมาเป็นแน่ คนตัวสูงเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวของพวกที่อยู่บนหลังคา เมื่อเงียบสงบไปแล้วไช่เสิ่งเจี๋ยจึงผละจากนาง
ใบหน้างดงาม ผิวกายขาวเนียนนุ่ม อีกทั้งกลิ่นหอมที่ออกมาจากกายของนางยังหอมกรุ่นละมุนละไม ต่อให้ไม่มีกำยานปลุกกำหนัดนั่น ชายใดในหล้านี้จะต้านทานเสน่หารุนแรงที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวนางได้
ตอนที่เขาผละออกจากการควบคุม หลี่จื้อฉิงจึงกลับมามีสติอีกครั้ง
“คนสารเลว”
เมื่อปลอดคนแล้วไช่เสิ่งเจี๋ยเดินสำรวจภายในเรือนไข่มุกอันเป็นที่พำนักของนาง พบว่าถัดออกไปอีกเล็กน้อยภายในเขตพื้นที่เดียวกันเป็นห้องอาบน้ำ มีถังน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในนั้น ก้อนเนื้อเหม็นเน่าพิจารณาดูแล้วว่า ถังน้ำใบนั้นเป็นน้ำเย็น
เขาวนกลับมาที่เตียงนอนที่เพิ่งจะส่งนางขึ้นไปไว้บนนั้น จับร่างเล็กพาดบ่า
“ปล่อยข้านะ คนชั้นต่ำเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องข้า” หลี่จื้อฉิงดิ้นรน
เพียะ!! มือแกร่งตบสะโพกของนางเบา ๆ
“หุบปากเสียท่านหญิง หากท่านไม่อยากเป็นเมียของเจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่าเช่นข้า” ก้นเด้งนุ่มนิ่มถูกเขาลงโทษไปอีกหนึ่งครั้ง
ตลอดชีวิตที่ผ่านมานางไม่เคยได้รับการดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน คนตัวเล็กที่ถูกจับมาพาดบ่าจำต้องหยุดการเคลื่อนไหวเพียงเพราะเกรงว่าเขาจะกระทำเช่นนั้นอีกครั้ง
“ถึงแล้ว” ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างเล็กแบบบางของหลี่จื้อฉิงก็ถูกเขาโยนลงถังน้ำ โดยไม่ได้สนใจว่านางจะเป็นจะตายหรือไม่
“แค่ก ๆ” เพราะไม่ทันได้เตรียมใจว่า จะถูกจับโยนใส่ถังน้ำเช่นนี้ หลี่จื้อฉิงจึงสำลักน้ำจนหน้าดำหน้าแดง “คนชั่ว”
“อาการของท่านจะทุเลาลงเมื่อแช่อยู่ในน้ำเย็น”
“ออกไป” ไม่เพียงหลี่จื้อฉิงไม่ขอบคุณ แต่นางยังไล่เขาให้ออกไปจากห้องอาบน้ำ
“ขอบคุณสักคำไม่ได้หรือท่านหญิง” ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินมาเกาะขอบถังอาบน้ำ แสงไฟสว่างจ้า น้ำในถังใสสะอาดเสื้อผ้าของนางบางเบา เปิดเผยให้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่แสนงดงาม
อาการต้องยาปลุกกำหนัดของนางทุเลาเบาบางลงไปแล้ว ความเย็นของน้ำช่วยให้นางสบายตัว แต่คนเช่นนางไม่เคยต้องขอบคุณหรือขอโทษใคร ยิ่งคนเช่นเขาแล้วนางยิ่งไม่มีความจำเป็น หากจำไม่ผิดเมื่อครู่ดวงตาของก้อนเนื้อเหม็นเน่าเป็นสีเทา แต่บัดนี้กลับมาเป็นสีดำดังเช่นคนทั่วไป
หญิงสาวเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าสกปรกของก้อนเนื้อเหม็นเน่า
“ข้าเป็นใคร เจ้าเป็นใคร เหตุใดคนเช่นข้าต้องขอบคุณเจ้ากัน” มือเล็กสัมผัสปลอกคอเหล็กที่อยู่บนคอของเจ้าก้อนเนื้อ “อย่าลืมสิว่าข้าทำอะไรได้”
“ช่างเป็นสตรีชั่วร้ายสมกับที่เขาร่ำลือ” ความเจ็บปวดราวกับถูกเข็มเป็นพันเล่มทิ่มแทง เขาจำได้ดีว่าเมื่อครู่นั้นรู้สึกอย่างไร น่าจะตัดสินใจตัดแขนตัดขานางเสียก่อนที่นางจะกลับมาได้สติ “ข้าน่าจะฆ่าท่านเสียทั้งแต่ที่ยังมีโอกาส” รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของไช่เสิ่งเจี๋ยบิดเบี้ยวราวกับจอมปีศาจ
“เสียใจด้วยนะ เจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า จากนี้ไปเจ้าคงไม่ได้รับโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว” ไม่มีอะไรรับรองได้ว่า ในอนาคตนางจะถูกเขาสังหารหรือไม่ อีกทั้งตัวของนางเองยังไม่รับรู้ว่ายามเมื่อนางหลับเขาจะทำเช่นไรกับนางบ้าง จึงคิดอุบายเอาตัวรอดได้ในเวลารวดเร็ว “เจ้าก้อนเนื้อ หากข้าตายเจ้าก็ตาย บัดนี้ชีวิตของเราสองคนถูกผูกเอาไว้ด้วยกำไลวงนี้” สิ้นประโยคนางแตะสัมผัสไปที่มณีสีแดง แล้วจึงกดลงไปเบา ๆ ไช่เสิ่งเจี๋ยคุกเข่าล้มลงดิ้นอย่างทุรนทุรายเต็มไปด้วยความทรมาน
“สตรีสารเลว” คิดไม่ถึงเลยว่านางจะจิตใจชั่วช้าได้ถึงเพียงนี้
“อ้อนวอนข้าสิ เรียกข้าว่านายหญิง จงเชื่องและเชื่อฟังข้า ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งข้าอาจจะใจดีปล่อยเจ้าไปก็ได้” มือเรียววนเวียนอยู่ที่มณีสีแดงเฝ้ามองว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาเช่นใด
ยาพิษนับร้อยนับพันเขาสามารถอดทนอดกลั้นได้ทุกการทรมาน แต่กับของสิ่งนั้นเขาดันมิอาจทนมันได้ ชายหนุ่มคุกเข่าลงกับพื้นยอบกายก้มหัวให้กับสตรีสารเลวอย่างจนใจ
“นายหญิง ข้าน้อยผิดไปแล้ว”
หลี่จื้อฉิงยิ้มเหยียด “ดีมากเจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า หากเชื่อฟังข้า ทำตามที่ข้าสั่งเจ้าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย”