ตอนที่ 1
คำว่านักสืบมันอาจจะดูเท่ห์ในสายตาของใครหลายๆคนและมันคงเป็นอาชีพที่ดูดีมากจนมีคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เหมือนเช่นกันกับคิม คิมหันต์ ตรีศูรย์ เขาเองก็เคยใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักสืบมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน เขาจึงพยายามอย่างมากที่จะสอบเข้าไปเป็นตำรวจเพื่อที่จะได้สืบคดีหลายๆอย่างเหมือนที่ตอนเด็กๆเคยฝันเอาไว้ แต่พอเข้าไปทำงานจริงๆมันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด นอกจากเขาจะต้องเหนื่อยกับงานที่ต้องทำแล้ว เขายังต้องปวดหัวกับวิธีการต่างๆที่ต้องใช้หลอกล่อผู้ต้องหาอีกด้วย! และวันที่ซวยที่สุดในชีวิตของเขาก็มาถึง..
“ สารวัตรเรียกผมมาพบมีอะไรหรือเปล่าครับ “ คิมเอามือกุมอยู่กลางลำตัวแล้วถามสารวัตรสาวสวยอย่างไอยาด้วยความสงสัย เพราะจู่สารวัตรสาวสวยก็ดันเรียกเขาเข้าพบด่วนทั้งๆที่เขากำลังนั่งทำงานที่ล้นมืออยู่แท้ๆ
“ ที่ฉันเรียกผู้กองมาพบก็เพราะมีเรื่องด่วนที่จะแจ้งให้ทราบ “ เสียงเรียบทรงอำนาจของหญิงสาวดังขึ้น
ไอยาหรืออีกฉายานึงก็คือสวยคมดุคนนี้มีดีกรีความโหดที่ไม่เหมือนใคร แม้กระทั่งผู้ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันยังขอยอมแพ้เธอ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบหรือวุ่นวายกับไอยามากนัก
“ อะไรหรอครับ “ คิมขมวดคิ้วมองหน้าไอยาด้วยความสงสัย
เธอไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป แต่เอื้อมมือไปหยิบเอกสารบางอย่างออกมาจากตู้ทางด้านหลังของเธอแล้วส่งให้กับคิม คิมรับมาเปิดด้วยความสงสัย แต่พอเปิดดูก็ต้องสงสัยหนักกว่าเดิม เพราะเขาเห็นรูปของชายหนุ่มสองรูปซึ่งดูท่าแล้วน่าจะเป็นคนที่มีอิทธิพลมากพอสมควรเพราะมีผู้ติดตามค่อนข้างเยอะ
“ ฉันต้องการให้ผู้กองเข้าไปทำงานกับสองคนนี้ “ ไอยามองหน้าคิมนิ่ง
“ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ “ คิมขมวดคิ้วแล้วถามไอยาออกไปด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อยเพราะเขาต้องการความชัดเจนมากว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะทำงานผิดพลาดได้ ร่างเพียวระหงษ์ของไอยาลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปที่แฟ้มๆนึงแล้วหยิบรูปจำนวนสามสี่ใบมายื่นให้กับคิมได้ดู
“ มีสายเข้ามาว่าสองคนนี้คือคนที่ร่วมกระบวนการผลิตยาเสพติดรายใหญ่มากที่สุดในประเทศที่ทางกรมของเรากำลังตามล่าตัวอยู่ “ ไอยาพูดขึ้นเพื่อให้อีกคนคลายสงสัย
“ ฉันต้องการให้ผู้กอง..เข้าไปสืบให้หน่อยว่าข่าวที่ได้ยินมา ความจริงมันคืออะไรกันแน่ และถ้ามันค้าจริงๆ..ฉันอยากให้ผู้กองหาหลักฐานให้ได้มากที่สุด แล้วส่งมาให้ฉัน “ ไอยามองหน้าคิมนิ่งๆ เมื่อเธอเห็นสีหน้าที่ลังเลและหนักใจของอีกฝ่ายเธอจึงยกยิ้มมุมปากขึ้นมานิดๆ
“ มันอาจจะหนักเกินไปสำหรับผู้กอง..ฉันเข้าใจค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าผู้กองแล้ว ฉันหวังว่าผู้กอง..คงไม่ทำให้ฉันผิดหวังหรอกนะคะ “
คิมหน้าเครียดลงเล็กน้อย แต่เพื่อหน้าที่ของเขา เขาจำเป็นที่จะต้องรับหน้าที่นั้นมาโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
“ ตกลงครับ ผมจะทำให้เต็มที่ “
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องเผชิญมันอาจจะดูยากและเสี่ยงมากแค่ไหนก็ตาม แต่เพราะด้วยรูปร่างที่เขาดูเล็กและบอบบางมากที่สุดในบรรดาเพื่อนรุ่นพี่นักสืบทุกคน มันเลยทำให้เขาได้รับมอบหมายที่จะปลอมตัวไปสืบตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ซีเรียสมากเท่าไหร่นัก
“ ขอบคุณมากนะคะผู้กองคิม ฉันดีใจที่คุณยอมรับงานนี้ “ ไอยายื่นมือมาตรงหน้าคิมเพื่อให้อีกฝ่ายจับมือตอบกลับ คิมเองก็ยื่นมือมาจับไอยาแล้วเขย่าเบาๆ
“ ผู้กองเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะคะ เพราะทางนั้น..กำลังเปิดรับสมัครคนใหม่เข้ามาพอดี “ ไอยาบอกอย่างอารมณ์ดี เพราะงานนี้ดูท่าจะง่ายกว่าที่เธอคิด
“ ครับ “ คิมพยักหน้าน้อยๆแล้วเดินออกจากห้องไป ไอยาได้แต่มองตามหลังไปด้วยแววตาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง..
..
..
วันต่อมา
คิมเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ทางด้านหน้าของเขา พลางถอนหายใจออกมานิดๆ แล้วก้มมองตัวเองที่แต่งตัวมาในวันนี้
“ กูแต่งมาเป็นบอดี้การ์ดหรือคนสวนวะเนี้ย “ คิมถอนหายใจใส่ตัวเองอีกครั้ง เพราะชุดที่เขาแต่งมันค่อนข้างมอมแมมไม่น้อย ไหนจะหมวกสาน(หมวกที่คนขายไข่ชอบใส่)ที่เขาใส่มาอีก แถมยังมีเสื้อที่ค่อนข้างจะขาดเล็กน้อยและก็กางเกงสามส่วนสีครีมที่ซีดเผือก รองเท้าแตะตราช้างน้อย
“ มาหาใคร “ ชายชุดดำที่หน้าตาบอกบุญไม่รับเอ่ยถามคิมเสียงเข้ม พร้อมกับมองด้วยแววตาสำรวจ
“ ผะ..ผมชื่อทองม้วนครับพี่ ผม..ผมมาตามที่สมัครไว้เมื่อวานคะ..ครับ “ คิมตอบเสียงตะกุกตะกัก และสาเหตุที่เขาต้องเปลี่ยนชื่อมันก็เพื่อความแนบเนียนในการเข้าไปสืบหาความจริงยังไงละ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเปลี่ยนชื่อแบบนี้แต่อาจจะเป็นครั้งที่สิบหรือไม่ก็ยี่สิบเลยก็ได้สำหรับชื่อของเขา
“ อ่อ งั้นก็เข้ามา “ ชายคนดังกล่าวก็เปิดประตูให้กับคิมได้เข้ามาด้านใน คิมเงยหน้ามองความใหญ่โตของที่นี่ด้วยความตะลึงอีกครั้ง มองข้างนอกเขาว่าใหญ่แล้วนะ แต่พอเข้ามาด้านในจริงๆมันใหญ่กว่าที่เขามองในตอนแรกเสียอีก
“ คนอยู่เยอะดีเนอะพี่ “ คิมชวนอีกฝ่ายคุยเพราะรู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นัก เพราะมีชายชุดดำอีกมากมายที่มองมาทางเขาเป็นตาเดียว
“ อืม “ ชายชุดดำที่เดินนำเขาอยู่ก็หันมาตอบเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเช่นเดิม
“ พี่..จะพาผมไปไหนหรอ “ คิมถามด้วยความสงสัย
“ พาไปหานาย “ ชายชุดดำตอบกลับมาสั้นๆ คิมเองก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรอีกฝ่ายต่อเพราะไม่อยากถูกโยนออกไปด้านนอก
และพอเขาเข้าไปภายในบ้านใหญ่ คิมก็ต้องรู้สึกอึ้งอีกครั้งเพราะภายในดูหรูหรามากกว่าข้างนอกเยอะถึงเยอะมาก แถมคนด้านในก็มีเยอะไม่ต่างจากข้างนอกเลยด้วยซ้ำ
//นี่เขากลัวคนมาปล้นหรือไงวะ ทำไมจัดคนคุมเยอะขนาดนี้เนี้ย// คิมขมวดคิ้วมองไปยังรอบๆด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อยเพราะถ้ามันยังเป็นแบบนี้ เขาเองนั่นแหละที่จะทำงานลำบาก
ชายชุดดำเดินพาคิมไปยังห้องโถงใหญ่ทางด้านในซึ่งมีร่างสูงของใครบางคนนั่งถือไวน์ดื่มอยู่ ซึ่งท่าทางสบายใจของทั้งสองคนทำให้สมองของคิมประมวลทันที
“ ใบหน้าของคนฝั่งนี้ชื่อ..ลูคัส ส่วนอีกคนก็..แอนดริวสินะ “ คิมมองทั้งสองคนสลับกับไปมา จนเดินเข้าไปใกล้ทั้งสอง คิมจึงรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นสีแย้มทันที
“ นี่คุณลูคัสและคุณแอนคริว นายของที่นี่ “ ชายชุดดำที่พาคิมมา เอ่ยแนะนำทั้งคู่ให้กับคิมได้รู้จัก
“ เอ่อ..สะ..สวัสดีครับคุณแอนดริว คุณลูคัส ผมชื่อทองม้วนนะครับ “ คิมยกมือไหว้ร่างสูงทั้งสองนิดๆ ซึ่งทั้งสองก็รับไหว้คิมด้วยท่าทีนิ่งๆพร้อมกับสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งสายตาของทั้งสอง มันเป็นสายตาที่คิมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรลงไปได้เพราะหน้าที่มันค้ำคออยู่
“ นั่งสิ จะยืนค้ำหัวทำไม พวกฉันอายุมากกว่านายนะ “ แอนดริวพูดด้วยน้ำเสียงดุดุ
คิมรีบนั่งตามที่อีกฝ่ายบอกทันทีเพราะกลัวว่าร่างสูงทั้งสองจะโกรธเอาได้
“ ชื่อทองม้วนงั้นหรอ “ ลูคัสถามด้วยความสงสัย
“ ครับผม “ คิมยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไปอย่างภูมิใจในชื่อตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าในใจของเขาแสนจะตื่นเต้นเมื่อมาอยู่ต่อหน้าร่างสูงทั้งสองคน
และถึงแม้ว่าเขาจะเคยเข้าไปสืบกับคนที่มีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยต้องมาใกล้ชิดกับใครมากขนาดนี้
“ นายคนนี้คือคนที่โทรมาสมัครงานเมื่อวานตอนเย็นครับนาย “ ชายชุดดำคนเดิมเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสุภาพ แอนดริวและลูคัสหันมองหน้ากันนิดๆแล้วหันไปมองทางคิมด้วยสายตาที่คิมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าสิ่งที่ทั้งสองมองเขานั้นมันหมายความว่ายังไง
“ ทำอะไรได้บ้าง “ แอนดริวถามเสียงนิ่ง
“ ได้ทุกอย่างเลยครับ ทั้งปัดกวาดเช็ดถู ทำสวนดูแลบ้านหรือเป็นบอดี้การ์ดให้กับท่านทั้งสองผมก็ทำได้นะครับ “ คิมยิ้มจนตาหยี ซึ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นเขาสามารถทำได้จริง ยกเว้นอย่างเดียวคือเป็นบอดี้การ์ด จะเอาอะไรกับคนที่ได้ยินเสียงประทัดแล้ววิ่งเข้าไปหลบใต้โต๊ะกันเล่า! แต่สาเหตุที่เขาบอกอีกฝ่ายไปแบบนั้นก็เพราะเขาอยากใกล้ชิดร่างสูงทั้งสองให้มากขึ้นต่างหาก งานของเขาจะได้เสร็จเร็วขึ้น
“ งั้นหรอ “ ลูคัสหรี่ตามมองคิมเล็กน้อย ส่วนแอนดริวก็จ้องใบหน้าคนที่บอกว่าเป็นบอดี้การ์ดของพวกเขาได้ไม่วางตา
“ จริงๆนะครับนายท่านทั้งสอง! ผมทำได้จริงๆนะฮะ “ ทองม้วนรีบคุกเข่าลงไปที่ลูคัสและแอนดริวเพื่อยืนยันในคำพูดของตัวเอง แอนดริวและลูคัสตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของอีกฝ่ายที่ทำโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“ มึงทำอะไรของมึงเนี้ย! “ ชายชุดดำที่พาคิมมาในตอนแรกพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจะเข้ามาดึงแขนของคิมขึ้น แต่เจอสายตาของแอนดริวและลูคัสห้ามเอาไว้
“ งั้น..ลองสู้กับลูกน้องของฉันหน่อยเป็นไง “ ลูคัสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม คิมรีบพยักหน้ารับทันที ทั้งๆที่ในใจแทบจะร้องกรี๊ดออกมา
“ ฉิบหายแล้วไงไอคิม! จะโดนซ้อมตายห่ามั้ยวะเนี้ยกู!! “ คิมได้แต่ร้องโอดครวญอยู่ในใจ พร้อมกับนึกสภาพตัวเองโดนกระทืบจนเละเป็นขี้ไก่
“ ต่อ มึงไปจัดคนของเราให้เรียบร้อย..กูจะให้ไอทองม้วนมันซ้อมกับคนของเรา “ แอนดริวเงยหน้ามองต่อหรือชายชุดดำที่พาคิมเข้ามา
“ ได้ครับนาย “ ต่อพยักหน้ารับแล้วเดินออกไปด้านนอกเพื่อทำตามที่นายของตนได้สั่ง
“ หึหึหึ ตามฉันมา “ ลูคัสลุกขึ้นพร้อมกับยกยิ้มมุมปากใส่คิม คิมเองก็ฝืนยิ้มกว้างตอบลูคัสกับแอนดริวกลับไป
“ ตายๆๆๆๆตายแน่ๆกู ตายแน่ๆ “ เขาได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจอีกรอบ ในขณะที่เดินตามแอนดริวกับลูคัสออกไป ขาทั้งสองข้างที่ก้าวตามไปนั้นดูสั่นได้อย่างชัดเจน