บท
ตั้งค่า

6. ส่งน้องสาวเดินทาง

ภาคดนัยขอตัวจากแฟนคลับมาทำธุระสำคัญต่อ จนแฟนคลับปล่อยให้เขาเดินมาหาน้องสาวได้อย่างสะดวกขึ้น ก่อนจะคอยมองอยู่ห่างๆ

“ทิ้งพี่ให้เหนื่อยอีกแล้วนะ รู้แบบนี้พี่ไม่มาส่งหรอก” ภาคดนัยเอ่ยพูดด้วยถ้อยจาหวานๆใส่น้องสาว ก่อนจะยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานของน้องสาวอย่างเป็นมิตร

“ก็บอกไม่ต้องมาก็ยังจะมาอยู่ได้ สมน้ำหน้า” รินลดาเอ่ยตอบอย่างน่ารัก จนทุกคนที่มองทั้งสองถึงกับสงสัยว่าทั้งสองเป็นอะไรก็ยกเว้นแต่ไอริณที่รู้แล้ว

“คุณคงเป็นคุณศิวะสินะครับ ผมฝากคุณช่วยดูแลทับทิมแทนผมด้วยนะครับ น้องไออีกคนพี่ฝากดูแลทับทิมด้วยนะ” ภาคดนัยเอ่ยบอกทั้งสองพร้อมกับรอยยิ้มหวาน จนไอริณรีบตอบทันที

“ค่ะพี่ภาค ไอจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ พี่ภาคไม่ต้องห่วงนะคะ” ไอริณเอ่ยพูดแล้วยิ้มเขินอย่างไม่ปิดบังก่อนจะรีบเอ่ยแนะนำศิวะออกไป

“อ่อลืมเลย นอกจากพี่ศิวะจะเป็นเจ้านายของยัยทับทิมแล้ว ก็ยังเป็นคู่หมั้นของไอค่ะ” ไอริณเอ่ยพูดเพราะกลัวศิวะจะงอนเธอซะก่อน

“สวัสดีครับ” ศิวะเอ่ยพูดไปกอย่างเป็นมิตรก็จับมือทักทายกันตามมารยาท

“อ่อ สมกันมากเลยครับคุณศิวะน้องไอ” ภาคดนัยเอ่ยบอกออกไปก็หันไปมองอดีตแฟนของน้องสาว ที่เขาเห็นในรูปในห้องนอนของน้องสาวเมื่อหลายปีก่อน มันทำให้เขาจดจำได้อย่างรวดเร็ว เพราะไอ้นี่มันทำให้น้องสาวเขาเจ็บจนเขานึกอยากจะไปจัดการให้เด็ดขาดตั้งแต่ตอนนั้น แต่รินลดาก็ยังใจอ่อนเกินไป ที่จะยอมให้เขาจัดการไอ้หมอนี่

“สวัสดีค่ะ ชมพูนุชหรือชมพู่ค่ะคุณภาคดนัย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ชมพูนุชรีบเสนอตัวเองกับภาคดนัยทันที เพราะเขาเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียงมาก ไม่คิดว่าคนอย่างรินลดาจะไปรู้จักกับคนระดับนี้ได้ แถมยังทำตัวสนิทสนมจนเธอนึกอิจฉา

“ครับ” ภาคดนัยเอ่ยไปเท่านั้นก่อนจะหันไปหาน้องสาวทันที เพราะแค่ชื่อเขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรด้วยมาก เนื่องจากฟังรินลดาบ่นเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้เขาฟังอยู่บ่อยครั้ง

“อย่าลืมนะ ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วย อย่าทำให้พี่คิดถึง แล้วก็นี่เอาไปกดได้เต็มที่เลย” ภาคดนัยเอ่ยพูดแล้วเอาบัตรเครดิตให้กับน้องสาว ก่อนจะกอดน้องสาวอย่างรักใคร่ จนคนที่อยู่รอบๆมองอย่างอึ้ง เพราะไม่รู้ว่ารินลดาเป็นอะไรกับภาคดนัย

“ค่ะพี่ภาค ขอบคุณนะคะ” รินลดาเอ่ยบอกแล้วถอนกอดออกจากพี่ชาย เพราะกลัวเป็นข่าวอีกแค่ยอมให้มาส่งก็มากพอแล้ว

“งั้นเดี๋ยวเราเข้าไปด้านในกันเถอะ เครื่องใกล้ออกแล้วด้วยเดี๋ยวจะได้โหลดกระเป๋ากัน” เมษาเอ่ยบอกหลังจากเงียบอยู่นาน เธอก็อยากจะรู้อยู่หรอกว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน แต่พอเห็นแฟนคลับของภาคดนัยแล้วเธออยากจะรีบไปซะมากกว่า

“งั้นทับทิมไปก่อนนะคะพี่ภาค ดูแลตัวเองด้วยนะคะ แล้วห้ามเบี้ยวงานเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ” รินลดาเอ่ยบอกพี่ชายเพราะจะไปแล้ว

“รู้แล้วน่ายัยขี่บ่น” ภาคดนัยเอ่ยพูดแล้วยิ้มให้น้องสาวพร้อมกับขยี้ผมของรินลดา จนทุกคนสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร ยกเว้นไอริณที่รู้เรื่องอยู่แล้ว

จากนั้นทุกคนก็เดินไปเช็คอินโหลดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง รินลดาที่สวยขึ้นก็มีผู้ชายพากันมองอย่างชื่นชอบ จนเธอรู้สึกแปลกๆ แต่พอเห็นสายตาของกวินทร์ที่มองมาเธอก็ต้องเริ่ดต้องมั่นเข้าไว้ เพราะที่เธออยากสวยไม่ใช่เพราะแค่เรื่องงาน แต่เพราะคำดูถูกของชมพูนุชด้วย ยังไงเธอก็จะทำให้ชมพูนุชกับกวินทร์เจ็บอย่างที่เธอเคยเจ็บ

“หืม สงสัยเจ้านายใหญ่จะรวยมากเลยนะถึงให้เรานั่งชั้นเฟิร์สคลาส พี่ล่ะอยากเห็นตัวจริงจังเลยว่าจะหล่อแบบในหนังสือรึเปล่า” เมษาเอ่ยพูดขณะกำลังเดินเข้ามาในที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินลำใหญ่

“ไอก็อยากเห็นค่ะพี่เม ว่าจะหล่อจริงรึเปล่าจริงไหมทับทิม” ไอรินเอ่ยพูดตาม ก่อนจะหันไปถามเพื่อนสาว

“ไม่รู้สิ ทับทิมชอบแบบไทยๆแนวฝรั่งแนวแขกแบบนั้น ทับทิมไม่ค่อยชอบอ่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไป แต่ในใจก็คิดว่าเธอก็ไม่ได้ไม่ชอบฝรั่งหรือแขกขาวอะไรพวกนี้ แต่เธอกลัวเรื่องบนเตียงของคนต่างชาติต่างหาก เพราะเขาบอกกันว่าไซส์จะต่างจากคนเอเชียราวฟ้ากับเหว เธอจึงไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่ เธอขอแค่หนุ่มไทยหล่อๆดีๆสักคนก็พอ

“ถึงเธอจะชอบ แต่ฉันว่าแบบเธอเขาก็ไม่ชอบหรอกย่ะ” ชมพูนุชเอ่ยแขวะอย่างไม่ชอบใจก่อนจะนั่งลงที่นั่งของตัวเอง

“อย่าไปสนใจเลย ไปนั่งเถอะทับทิม” เมษาเอ่ยพูดแล้วตบไหล่ของรินลดาเบาๆ

จากนั้นทุกคนก็เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งตรงสู่นครดูไบโดยใช้เวลาเดินทางประมาณหกชั่วโมง โดยทางโรงแรมมีรถมารับพวกเขาให้มุ่งหน้าไปสู่โรงแรมอย่างสะดวกสบาย

“เป็นเมืองที่สวยมากเลยนะคะเนี่ย คุ้มแล้วล่ะค่ะที่ทับทิมอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งนาน” รินลดาพูดไปก็มองวิวผ่านจากข้างในรถอย่างตื่นเต้น

“ไม่แน่นะ มาครั้งนี้ทับทิมอาจจะมีหนุ่มๆกลับไทยด้วยก็ได้ ฮ่าๆ” เมษาที่นั่งมาด้วยเอ่ยกระซิบกระซาบกันอย่างขบขัน

“พี่เมก็ หยุดแซวทับทิมเลยนะคะ ถ้าคนมันใช่ เดี๋ยวมันก็เจอเองแหละค่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไป เพราะตั้งแต่เลิกกับกวินทร์เธอก็ไม่อยากเปิดใจให้ใคร เพราะเธอเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ที่สุด

พอถึงหน้าโรงแรมทุกคนก็ลงจากรถ ส่วนกระเป๋าพนักงานก็จะเป็นคนยกไปเก็บไว้ที่ห้องพักของเราเอง พอเข้าประตูของโรงแรมไปก็มีพนักงานยืนเรียงต้อนรับอยู่ ศิวะจึงเดินนำทุกคนเข้าไป พนักงานก็ส่งผ้าเช็ดมือให้ แล้วก็ฉีดน้ำหอมใส่มือก่อนจะยื่นแก้วชาชาของดูไบให้เราดื่ม และสุกท้ายจะให้ช็อกโกแลตกับแขกทุกคนที่เข้าโรงมา ทุกคนก็ทำตามศิวะอย่างรู้งาน เพราะนี่น่าจะเป็นธรรมเนียมในการต้อนรับของชาวดูไบ

“ขอบคุณค่ะ” รินลดาที่อยู่คนสุดท้ายเอ่ยพูดเป็นภาษาอาหรับ ซึ่งต่างจากทั้งห้าคนที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ

“ทำเป็นโชว์ฟอร์ม ฉันก็พูดได้แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดเลย” ชมพูนุชเอ่ยแขวะเมื่อได้ยินรินลดาพูดออกมาเป็นภาษาอาหรับ

“หยุดว่าคนอื่นสักทีเถอะชมพู่ พี่ชักจะเบื่อเธอขึ้นทุกวันแล้วนะ” เมษาเอ่ยบอก เพราะเธอเบื่อเต็มที่แล้ว

“หยุดคุยกันก่อนนะครับ แล้วแยกย้ายกันไปพักก่อนดีกว่านะครับ เพราะพรุ่งนี้เราต้องเจออะไรอีกมาก” ศิวะเอ่ยบอกแล้วมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา

“ก็ดีค่ะ งั้นก็นอนคู่ใครคู่มันนะคะ” ชมพูนุชเอ่ยพูด เมื่อเธอได้นอนคู่กับกวินทร์ตามความต้องการ ส่วนศิวะก็นอนกับไอริณ ส่วนรินลดาก็นอนกับเมษา ยังไงเธอไม่มีทางให้ศิวะคาดสายตาของเธอแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel