5. สาวแว้นกลายเป็นสาวสวย
หลังจากนั้นสองอาทิตย์ ด้านภาคดนัยก็จัดการเปลี่ยนแปลงน้องสาว ให้กลายมาเป็นสาวสวยได้เพียงเวลาแค่สองอาทิตย์ โดยมีผู้จัดการส่วนตัวของเขาซึ่งก็คือพี่เจสซี่และต้นผู้จัดการฟิตเนสของเขา คอยช่วยจัดการออกหน้าแทนเขาทุกอย่าง เพราะด้วยความที่เขาเป็นดาราดัง จึงไปไหนมาไหนกับใครก็เป็นข่าว
“เดินให้มั่นใจหน่อยสิทับทิม เจ้สอนกี่ทีแล้วห้ะ ว่าให้เชิดหน้าหลังตรงเวลาเดินน่ะ” เจสซี่สาวประเภทสองเอ่ยพูดขณะมองรินลดา เดินเซไปมาพร้อมกับเอามือดึงกระโปรงอย่างไม่มั่นใจ
“ก็ชุดมันสั้นนิคะพี่เจสซี่ ไม่มีตัวที่ยาวกว่านี้แล้วเหรอคะ” รินลดาเอ่ยถามออกไป เพราะตอนนี้เธอก็เดินใส่รองเท้าส้นเข็มได้แล้ว แต่ไอ้ชุดที่มันสั้นแล้วก็รัดติ้วแบบนี้นี่สิ เธอว่ามันโป๊เกินไปจนเธอไม่มั่นใจ
“ไม่มีย่ะ แล้วต่อไปทับทิมก็ต้องใส่แบบนี้เข้าใจไหม อยากจะสวย อยากจะเริ่ดก็ต้องแต่งแบบนี้แหละ” เจสซี่เอ่ยบอกออกไป ก็ชักสายตาดุๆหญิงสาวไป บ้านนี้เขาสวยกันทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ ถ้าเทรนให้ดีกว่านี้เธอจะปั้นเป็นดาราตามภาคดนัยไปซะเลย
“นี่เจ้จะโหดกับน้องผมไปรึเปล่าเนี่ย แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง” ภาคดนัยเอ่ยบอก เพราะตลอดเวลาสองอาทิตย์มานี้น้องสาวของเขาฝึกเดิน ฝึกแต่งหน้า แล้วก็ฝึกแต่งตัวอย่างหนักโดยพี่เจสซี่ แล้วไหนจะโดนเทรนเนอร์ควบคุมอาหารอีก จนเขานึกสงสารจนต้องแอบพาน้องสาวไปกินข้าวตอนดึกๆบ่อยๆ
“โหดสิย่ะ เผื่อวันหนึ่งทับทิมอยากจะเข้าวงการ เจ้จะได้ไม่ต้องลำบาก เห็นแบบนี้พอแต่งตัวเข้าหน่อยสวยไม่แพ้นางเอกบางคนเลย” เจสซี่เอ่ยพูด แล้วมองรินลดาที่สวยขึ้นจนไม่น่าเชื่อ
“ก็พี่หล่อฆ่าไม่ตายแบบนี้ น้องสาวก็ต้องไม่แพ้กันสิครับเจ้ ไม่งั้นผมไม่อยู่มาจนถึงป่านนี้หรอกครับ” ภาคดนัยเอ่ยพูด เพราะเขาอยู่ในวงการมาตั้งแต่อายุยี่สิบปี จนตอนนี้อายุของเขาก็ปาเข้าไปสี่สิบเก้าปีแล้ว ที่เขาอยู่ในวงการบันเทิงมา
“ไม่ต้องมายุทับทิมหรอกค่ะ เพราะทับทิมไม่มีทางเข้าวงการแบบพี่ภาคแน่ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว” รินลดาบ่นยาวออกไป แล้วเดินไปที่โต๊ะกินข้าว ก่อนจะเดินกลับไปกลับมา
“นี่ถ้าฉันต้องอยู่กับยัยทับทิมอีกหนึ่งอาทิตย์ ฉันต้องปวดหัวตายแน่ๆ” เจสซี่เอ่ยพูดขณะมองรินลดาเดิน เธอจะต้องปรับทัศนคติของรินลดาใหม่ซะแล้ว ไม่งั้นได้ไปขายหน้าที่ดูไบแน่ๆ
“เอาน่าเจ้ ทนอีกนิดนะคะ ทับทิมจะรีบสวยรีบมั่นหน้าให้เร็วที่สุดค่ะ รับรองว่าถ้าพี่ภาคเบี้ยวงานไหนล่ะก็ทับทิมจะช่วยจัดการให้นะคะ สัญญาเลย” รินลดารีบอ้อนเจสซี่ออกไป เพราะรู้จักกันมาพอๆกับที่พี่ชายของเธอเข้าวงการมา
“ย่ะ ดีมาก ถ้ามาดูแลแทนเจ้ได้จะดีมาก” เจสซี่เอ่ยพูดออกไป เพราะตอนนี้เด็กในสังกัดของเธอมีมากมายจนดูแลไม่ไหว ถ้าได้รินลดามาช่วยดูแลภาคดนัยก็คงจะดีมาก เพราะเวลาเธอไม่ว่างเมื่อก่อน รินลดาก็จะไปช่วยดูแลภาคดนัยแทนได้อย่างดีเยี่ยม
“รอให้ทับทิมโดนไล่ออกจากบริษัทเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันนะคะเจ้” รินลดาเอ่ยบอกแล้วฝึกเดินไปมาต่อไป
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องเดินทางไปยังนครดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยศิวะนัดรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะทุกคนจะได้สะดวกต่อการเดินทางมามากกว่า และตอนนี้ก็เหลือแค่รินลดาเท่านั้นที่ยังไม่มา
“ไอ โทรตามทับทิมรึยังว่าถึงไหนแล้ว” ศิวะเอ่ยถามออกไป เพราะตอนนี้เหลือแค่รินลดาคนเดียวที่ยังไม่มา ถึงแม้จะยังไม่ถึงเวลา แต่เขาก็อดร้อนใจไม่ได้ เพราะเขาพึ่งจะโดนลูกน้องของนายใหญ่อย่างบาคัสด่ามาสดๆร้อนๆ เมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดอีก
“โทรแล้วค่ะ ตอนนี้คงจะถึงแล้วมั้งคะ” ไอริณเอ่ยบอกออกไป แล้วพยายามมองหาเพื่อนสาวของตัวเอง ยัยทับทิมแกไปหมุดหัวอยู่ที่ไหนเนี่ย โอ้ย ฉันจะบ้าตาย
“เฮ้อ แค่เริ่มทับทิมก็มาสายขนาดนี้ แล้วแบบนี้จะทำงานได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะคะคุณศิวะ อีกอย่างจะเปลี่ยนบุคลิกให้ดีได้แค่ไหนกันเชียว” ชมพูนุชเอ่ยพูดออกมาอย่างดูถูกรินลดา จนเมษาต้องรีบพูดดักคอชมพูนุชทันที
“บางทีทับทิมอาจจะสวยกว่าใครบางคนแถวนี้ด้วยซ้ำ หึ พี่ว่าชมพู่ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรนะจ้ะ เพราะนี่ก็เหลืออีกตั้งห้านาทีกว่าจะถึงเวลาที่เรานัดกัน” เมษาเอ่ยออกไป เพราะไม่ชอบที่ชมพูนุชพูดดูถูกคนอื่น
“พี่เม” ชมพูนุชเอ่ยเสียงเข้ม พร้อมชักสีหน้าโกธรเมษาอย่างปิดไม่มิด จนกวินทร์แฟนหนุ่มต้องรีบเอ่ยแทรก
“ชมพู่ ไม่เอาน่า พี่เมษาเขาก็พูดไปงั้นแหละ” กวินทร์เอ่ยบอกแล้วมองหน้าของชมพู่นุชแล้วส่ายหน้าให้เธอหยุด
“มาแล้วค่ะทุกคน ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ พอดีรถติดนิดหน่อยน่ะค่ะ” รินลดาเอ่ยพูด ขณะเดินเข้ามา พร้อมกับใส่เสื้อแขนยาวสีขาวเข้ากับกระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่า จนทุกคนที่หันมาตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของเธอ
“ทับทิม หืม นี่แกจริงๆเหรอเนี่ย ฉันไม่คิดว่าแกจะเปลี่ยนตัวเองได้เริ่ดขนาดนี้นะเนี่ย ไม่น่าล่ะถึงไม่ยอมมาเข้าคอร์สกับพวกเรา ที่แท้แอบไปทำเองซะจนฉันจำไม่ได้เลยนะยะ” ไอริณแซวเพื่อนสาวออกไป เพราะเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รินลดายังไม่ได้มั่นใจขนาดนี้
“สวยมากเลยทับทิม แบบนี้สิถึงกับสมกับที่พี่เลือกไป”ศิวะเอ่ยอย่างชื่นชมรินลดา ที่เธอยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่องานได้ขนาดนี้
“ไม่เห็นจะสวยอะไรมากมาย จริงไหมคะวิน” ชมพูนุชเอ่ยไปแล้วเบะปากใส่รินลดา ก่อนจะถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยกัน แต่กวินทร์ไม่ได้ตอบเพราะกำลังมองรินลดาอย่างไม่เชื่อว่าเขาจะทิ้งผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
“วินคะ วิน” ชมพูนุชเห็นกวินทร์ไม่ตอบเธอ เธอจึงหันไปมองจนเห็นกวินทร์มองรินลดาไม่วางตา
"ครับ ครับ" กวินทร์เอ่ยพูดออกไปอย่างติดขัด เพราะมัวแต่อึ้งกับรินลดาคนใหม่ที่ต่างจากเมื่อก่อนมาก ทั้งขาว ทั้งสวย ทั้งอึ๋ม เซ็กซี่ยั่วใจเขาจริงๆ
“ฮ่าๆ เสียดายเหรอคะคุณกวินทร์ ที่ยัยทับทิมสวยขนาดนี้ ถึงมองตาเยิ้มแบบนี้”ไอรินเอ่ยพูดแซวก็ไม่ลืมทิ้งระเบิดใส่กวินทร์ให้ชมพูนุชหึง
“เปล่า เปล่าครับ ผมแค่ไม่เคยเห็นทับทิมในมุมนี้ก็เท่านั้นเอง” กวินทร์รีบแก้ตัว เพราะไม่อยากทะเลาะกับชมพูนุชตรงนี้
“แล้วนี่มีกระเป๋าแค่ใบเดียวเหรอทับทิม ชุดไทยล่ะเอาไปด้วยหรือเปล่า” ศิวะเอ่ยถาม เมื่อเห็นรินลดาถือลากกระเป๋ามาแค่ใบเดียว
“มีหนุ่มถือมาให้ค่ะ สงสัยคงจะฝ่าแฟนคลับมาไม่ได้” รินลดาเอ่ยบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองด้านหลังของตัวเอง เพราะวันนี้ภาคดนัยยืนยันจะมาส่งเธอให้ได้ แต่พอลงจากรถได้ไม่นานก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป จนเธอต้องรีบเดินหนีมาก่อน
“คงไม่ใช่พี่ภาคหรอกนะ” ไอริณที่ปลื้มภาคดนัยเอ่ยถามอย่างลุ้นๆ เพราะเธอรู้ว่ารินลดาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับภาคดนัย แต่รินลดาขอให้เธอเก็บเป็นความลับเพื่อความสงบของเธอ
“นั่นไง โดนสาวๆรุมอยู่ตรงนั้น” รินลดาเอ่ยบอกแล้วมองไปที่ภาคดนัยด้วยรอยยิ้มขำๆอย่างสงสารพี่ชาย
“โอ้ย หล่อ ล้ำ เหมือนเดิมเลยอ่ะ” ไอรินพูดไปก็มองอย่างสนใจ ทุกคนก็มองตามไม่ต่างกัน แต่ศิวะที่มองอยู่ก็ถึงกับพูดออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อคู่หมั้นคนสวยเล่นอวยผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา
“ไอ ให้มันน้อยๆหน่อย พี่ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน” ศิวะเอ่ยพูดด้วยเสียงเข้มอย่างหวงๆ เพราะไม่รู้ว่ารินลดาไปรู้จักกับภาคดนัยดาราดังคนนี้ได้อย่างไร