ตอนที่ 1.ลูกนอกสมรส
ตอนที่ 1.ลูกนอกสมรส
ชญานินนอนลืมตาโพลง เธอคิดไปเรื่อยเปื่อย เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนทำให้เธอระแวง เธอกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว แต่ยานั่นอาจจะไม่ได้ผล เพราะเวลาผ่านไปเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว เพราะเธอไม่ทันได้เตรียมตัว ประกอบกับไม่มีความรู้เรื่องนี้ดีเท่าไหร่ ชญานินพยายามข่มตานอนให้หลับ แต่กลับทำไม่ได้
จู่ๆ เธอก็รู้สึกวิงเวียน บ้านหมุนจนทนนอนต่อไปไม่ไหว ชญา
นินทรงตัวลุกขึ้นนั่ง เธอโผเผเดินเข้าไปในห้องน้ำ และอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง เธอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้สูดกลิ่นสมุนไพรหลายชนิดที่บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกสีเขียว ป้ามาลัยโผล่หน้ามามอง แล้วก็เข้ามาช่วยประคองเธอออกมาจากห้องน้ำ มาลัยพาเธอมานั่งลงริมเตียงนอน
“พักสักครู่เถอะนะ พอดีขึ้น ป้าจะพาไปหาหมอนะชญา”
“อย่าเลยค่ะป้า ชญาไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ” ชญานินส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
“จะไม่เป็นไรได้ยังไง ชญาอ้วกตั้งแต่เช้าเลยนะ หลายครั้งแล้วด้วย หน้าก็ซีดแทบไม่เหลือสีเลือดแล้ว”
มาลัยท้วง ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“นี่ชญาคงไม่ได้ ‘ท้อง’ หรอกใช่ไหมหะ!!”
ผิวหน้าของชญานินซีดเผือดไร้สีเลือด
เธอไม่ได้ปริปากบอกใครเลย ยกเว้นมาลัยที่เดาออกตั้งแต่วันแรกๆ ความผิดพลาดในครั้งนั้นมันน่าอดสู บวกกับคิดว่าตัวเองจะไม่มีทางโชคร้าย และไม่มีทางได้รับผลกระทบใดๆ จากความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ
แต่...
แต่ตอนนี้ผลแห่งความไม่ระมัดระวังในครั้งนั้นของเธอ กำลังส่งผลกับเธออย่างร้ายแรง
“ไม่หรอกค่ะ...ไม่น่าใช่หรอกค่ะป้า”
เธอภาวนาให้เป็นแบบนั้น ภาวนาให้ตัวเองไม่ซวยถึงขนาดตั้งท้องกับผู้ชายที่เกลียดเธอกับป้าเข้ากระดูก และมีคู่รักเป็นตัวเป็นตนอย่างเตชิน บุตรชายผู้มีพระคุณของเธอ
ชญานินพยายามคิดในแง่ดี แม้หลายๆ อย่างในร่างกายเธอจะบ่งบอกสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เธอฝืนยิ้มให้มาลัย แล้วก็เอนกายลงนอน พยายามปล่อยวางความกังวลในใจ บางที สิ่งที่เธอกลัวอาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยก็ได้...
สิบปีก่อน...
เด็กหญิงชญานิน วัยเพียงสิบปีผู้กำลังจมอยู่กับความโศกเศร้า เพราะบิดา มารดาด่วนจากไปแบบปุบปับ เธอนั่งทอดอาลัยมองไฟกระพริบที่ประดับประดาหน้าโลงศพของบิดา มารดาที่ตั้งอยู่คู่กัน มีพุ่มดอกไม้พลาสติกที่วางประดับเพื่อไม่ให้ด้านหน้าโล่งเกินไป น้ำตาของชญานินไหลหล่นไม่รู้กี่รอบ เธอรู้สึกเคว้งคว้างไปหมด กลัวไปสารพัด เพราะนอกจากบิดามารดาแล้ว ชญานินไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครเลย
ญาติพี่น้องไม่ว่าจะฝั่งบิดา หรือมารดาต่างก็พากันเกี่ยง
คงเพราะภาระของครอบครัวพวกเขาก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว การโอบอุ้มเด็กหญิงวัยสิบปีอีกหนึ่งคน เลยกลายเป็นภาระที่หนักเกินไป
ชญานินยกมือป้ายน้ำตาที่ไหลผ่านร่องแก้ม เธอกลั้นสะอื้นจนหัวไหล่สั่น หวาดกลัวทุกสิ่งรอบตัว และไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดี อ้อมกอดที่เคยมีจากลาไปแบบไม่อาจเรียกคืนได้
“น่าสงสารยัยชญานะ ไม่มีพ่อแม่แล้วจะอยู่ยังไงละ”
“สงสารนักก็เอาไปเลี้ยงสิ เด็กนั่นขยันรู้อยู่ อีกไม่กี่ปีก็ใช้งานได้แล้วละ”
“ไม่ไหวหรอกพี่ แค่ลูกฉันสองคนก็แทบแย่แล้วนะ”
เสียงทุ่มเถียงนั่น ชญานินได้ยินเต็มสองหู เธอก้มหน้ามองพื้น พยายามไม่เก็บคำพูดของบรรดาญาติๆ มาเก็บไว้ในใจ
“พวกพี่ๆ ไม่ต้องลำบากหรอกนะคะ หลานฉัน ฉันจะเอาไปเลี้ยงดูเอง” เสียงใครบางคนพูดแทรก และใครคนนั้นก็เดินเข้ามาหาชญานิน
“ป้ามาลัย”
“อย่าโศกเศร้าไปเลยยัยหนู ป้ามาแล้ว จากนี้ไป ไปอยู่กับป้านะ”มาลัยรวบกอดหลานสาวแนบอก พร้อมกับรั้งมือเรียวเล็กของชญานินมากุมไว้ มาลัย มีศักดิ์เป็นพี่สาวของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้วของชญานิน มือของเธอเย็นเฉียบขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ชญานินโผเข้าหา เธอซุกตัวในอ้อมกอดของคนแปลกหน้าที่เป็นมิตรกับเธอที่สุดในเวลานี้
“คุณนั่งตรงนี้ก่อนค่ะ” เสียงป้ามาลัยกระซิบบอกใครบางคน ชญานินผงกศีรษะออกมาจากอ้อมกอด และมองสบนัยน์ตาคนคนนั้น