บท
ตั้งค่า

แฟนหลอกๆ

เอิงเอย...

"กรี๊ดดดด ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ธีร์ไม่มีทางเอายัยหน้าจืดนี่มาเป็นแฟนแน่ ธีร์โกหกพี่ใช่ไหม"

"ใช่ ถ้าเอายัยนี่มาเป็นแฟนถือว่าตาต่ำมาก สารรูปยัยนี่เทียบอะไรไม่ได้กับไอซ์เลยธีร์ไปคบกับมันเข้าไปได้ยังไง"

"ได้ไม่ได้ฉันกับยัยนี่ก็คบกันแล้ว เอาล่ะต่อไปก็เลิกตอแยวุ่นวายกับฉันสักทีเพราะฉันไม่อยากให้แฟนของฉันไม่สบายใจ"

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด"

"กรี๊ดดดด ไม่จริง กรี๊ดดดดดดดดดดดด"

"ธีร์พูดแบบนี้ทำไม"

ฉันถามธีร์หลังจากที่เขาลากฉันออกมาจากตึกเรียน เสียงกรี๊ดที่ประสานเสียงแข่งกันของผู้หญิงสองคนที่ธีร์เพิ่งทิ้งเขามาอย่างไม่ไยดียังติดหูฉันอยู่เลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันตั้งรับไม่ทันมารู้ตัวมาได้สติก็ตอนที่ธีร์ลากแขนฉันออกมาจากไทยมุงนักศึกษาเกือบครึ่งร้อยเมื่อครู่ เขาหันมองหน้าฉันแวบนึงก่อนจะก้มหน้าควานหาอะไรสักอย่างในกระเป๋ากางเกง

"เราถามไม่ได้ยินเหรอ" เขาก็ยังไม่สนใจที่จะตอบคำถามของฉันสักพักเขาก็ควักซองบุหรี่กับไฟแช็คออกมาจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบทั้งที่ตรงนี้มีป้ายห้ามสูบบุหรี่ในมหาลัยติดอยู่อย่างเด่นชัด ไม่ถึงนาทีควันบุหรี่ลอยก็เต็มหน้าฉันจนฉันต้องคอยเอามือปัดเพราะมันเหม็นและแสบตา

"เธอว่าอะไรนะ" นี่เขาเพิ่งได้ยินที่ฉันถามเหรอ

"เราถามว่าธีร์ไปพูดแบบนั้นทำไม"

"พูดอะไร"

"ก็ธีร์ไปบอกผู้หญิงของธีร์ว่าเราเป็นแฟนธีร์"

"สองคนนั่นไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน"

"แต่ธีร์ก็ เอ่อ ก็" ฉันไม่อยากจะพูดต่อให้อายปากเพราะผู้หญิงทั้งสองคนที่เขาบอกไม่ใช่ผู้หญิงของเขาแต่ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเขามีความสัมพันธ์กับเธอมาแล้วทั้งสองคนไม่ว่าจะความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นมีอะไรกันเหมือนที่ฉันเจอในห้องน้ำแม้จะได้ยินแค่เสียงแต่ฉันก็ไม่ได้อินโนเซ้นจนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในห้องน้ำห้องนั้นหรือความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยที่หลังตึกเรียนวันก่อนที่ฉันเห็นเขาจูบกับผู้หญิงคนนั้นจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยกันทั้งคู่

"แต่อะไร"

"เอ่อ ช่างมันเถอะแต่สิ่งที่ธีร์ทำและพูดออกมาต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนั้นมันทำให้เราเสียหายนะ"

"ห๊ะ!!!ว่าไงนะ!!! ใครเสียหายนะพูดใหม่อีกทีดิ๊!!!!" เขาเขวี้ยงบุหรี่ที่คาบอยูในปากทิ้งแล้วหันมาถามฉันเสียงดังจนฉันตกใจ

"อะ เอ่อออ ก็ เอ่อ คือ ก็" ฉันตกใจกับน้ำเสียงของเขาจนพูดอะไรไม่ออกอีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรผิด ที่ฉันบอกว่าฉันเสียหายก็เพราะว่าฉันกับเขาเราไม่ได้เป็นแฟนกันและมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอนแต่เขาพูดแบบนี้ต่อหน้าคนเป็นร้อยคนพวกนั้นจะมองฉันยังไงแล้วไหนจะผู้หญิงของเขาอีก ฉันยังอยากเรียนที่นี่อย่างสงบสุขไม่อยากมีเรื่องหรือมีปัญหากับใคร ที่ผ่านมาใครจะพูดจาดูถูกหรือมีคำพูดมาบั่นทอนจิตใจฉันไม่เคยเก็บมาไม่ใส่ใจฉันพยายามไม่ยุ่งกับใครแต่ตอนนี้ฉันไม่มั่นใจแล้วว่าฉันจะอยุ่รอดปลอดภัยจนกว่าจะเรียนจบหรือเปล่าเพราะคำพูดแค่ไม่กี่คำของเขา

"เธอกลัวพวกนั้นจะดักตบเธองั้นดิ"

"ก็..อื้มม"

"มีมือมีตีนก็สู้ดิ"

"แล้วทำไมเราต้องสู้อ่ะ เราไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใครทั้งนั้นนะเราอยากเรียนหนังสือให้จบเราต้องการแค่นี้"

"หึ แทนที่เธอจะดีใจที่ฉันบอกกับคนอื่นว่าเธอเป็นแฟนเพราะฉันไม่เคยให้สถานะนี้กับใครทั้งที่จริงๆแล้วผู้หญิงอย่างเธอไม่เคยอยู่ในสายตาฉันเลยสักนิด"

"ถ้างั้นธีร์ก็ไปบอกกับผู้หญิงของธีร์สิว่าเมื่อกี้ธีร์แค่พูดเล่นเราไม่ได้เป็นแฟนกัน"

"ไม่!!! ฉันพูดไปแล้วว่าเธอคือแฟนก็ตามนั้น"

"แต่เรา.."

"ฉันจ้างเธอก็ได้อ่ะ" พูดจบเขาก็หยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วดึงเงินทั้งหมดที่มียื่นมาให้กับฉันแต่ฉันไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ

"เอาไปดิค่าจ้างเป็นแฟนปลอมๆ"

"ทำไมเราต้องเป็นแฟนปลอมๆดัวย"

"หรือเธอจะอยากเป็นแฟนจริงๆ??"

"......."

"แต่เสียใจด้วยนะหน้าตาอย่างเธอน่ะมันยังห่างไกลจากมาตรฐานผู้หญิงที่ฉันเคยควงเยอะ ดูๆแล้วไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยสักนิด หน้าตาก็บ้านๆหาความสวยแทบไม่มี พูดผิดพูดผิดฉันควรจะต้องพูดว่าความสวยของเธอน่ะมันหาไม่เจอเลยต่างหากแถมนมก็แบนเตี้ยก็เตี้ยแต่งตัวก็เชย ชาตินี้ขอให้หาผัวให้ได้ก็แล้วกันนะ"

"พูดจบแล้วใช่ไหม" ฉันถามเพราะชักจะทนไม่ไหวกับสายตาและคำพูดดูถูกสารพัดจากผู้ชายตรงหน้าผู้ชายที่เคยทำให้ฉันใจเต้นแรงเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน

"ทำไมรับความจริงไม่ได้งั้นสิ" ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาฉันหันหลังเพื่อกลับหอแต่ก็ถูกเขาเดินมาดักทางไว้ไม่ยอมให้ฉันไป

"เดี๋ยวอย่าเพิ่ง"

"ธีร์มีอะไร"

"เธอต้องรับปากว่าจะยอมเป็นไม้กันหมาให้ฉัน"

"ไม้กันหมาอะไร"

"เธอต้องยอมเป็นแฟนหลอกๆให้ฉัน"

"แล้วถ้าเราไม่ทำล่ะ"

"ฉันก็จะไปบอกคุณย่าว่าให้ยกเลิกทุนของเธอทั้งหมด"

"ธีร์"

"เธอคงจะรู้ว่าฉันเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเจ้าของมหาลัยนี้เพราะฉะนั้นถ้ายังอยากจะเรียนที่นี่ต่อเธอก็ต้องยอมทำตามที่ฉันสั่งเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธอก็เตรียมเก็บของกลับบ้านนอกเธอไปซะไปอยู่บ้านเลี้ยงควายไถนาทำไร่ทำสวนโน่นไม่ต้องมาเรียนที่นี่" ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นได้ขนาดนี้ ปากร้ายนิสัยแย่อย่างที่ไม่เคยพบเคยเจอ

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการที่ฉันได้เป็นแฟนกับธีร์ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบสี่ปีแล้วที่ฉันเป็นแฟนปลอมๆของเขา ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปีสี่ปีสุดท้ายแล้วอีกแค่เทอมเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว

"อยู่ไหน" เสียงงัวเงียดังมาตามสายฉันมองดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้มันจะสี่โมงเย็นแล้ว

"ทำงานอยู่มีอะไรหรือเปล่า"

"ฉันแฮ้งค์เหล้าลุกไม่ไหวเดี๋ยวเลิกงานแล้วแวะซื้ออะไรมาทำให้กินหน่อย"

"อื้มมม" พอฉันตอบเขาก็กดวางสายไปทันที เขามักจะแฮ้งค์เหล้าแบบนี้เป็นประจำถ้าช่วงไหนไม่มีเรียนหลายๆวันเขาก็จะเมาเละเทะแบบนี้และเป็นฉันที่ต้องแวะซื้ออาหารไปทำให้เขาทานเพราะเขาไม่ชอบทานอาหารสำเร็จรูปไหนจะต้องไปทำความสะอาดห้องให้เขาอีก อยากจะบอกว่าเราคบกันมาสี่ปีฉันเจออะไรมาสารพัดอย่างและถึงแม้ว่าฉันจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนแต่ฉันก็เป็นแค่แฟนปลอมๆเท่านั้นเราสองคนไม่เคยมีอะไรกันก็อย่างที่เขาเคยบอกนั่นแล่ะว่าฉันไม่ใช่สเป๊กของเขาผู้หญิงที่เขาชอบน่ะต้องหน้าอกใหญ่ๆหุ่นเซ็กส์ซี่แต่งตัวโป๊ๆซึ่งมันตรงข้ามกับฉันทุกอย่างขนาดกางเกงขาสั้นฉันยังไม่ใส่เคยใส่ให้เขาเห็นเลยเพราะเวลาอยุ่ด้วยกันฉันจะแต่งตัวป้ามากๆเขามักจะค่อนแคะฉันเป็นประจำว่าฉันแต่งตัวเหมือนป้าแม่บ้านที่บ้านของเขา

อยากจะบอกว่าถึงแม้ว่าเขาจะป่าวประกาศว่าฉันเป็นแฟนแต่เขาเองก็ยังทำตัวเจ้าชู้เหมือนเดิมคบคนโน้นเลิกคนนี้พอเบื่อก็ทิ้งแล้วก็เป็นฉันที่ต้องออกรับหน้าแทนกันไม่ให้ผู้หญิงที่เขาทิ้งมาคอยตามรังควานอยากจะบอกว่าฉันเจ็บตัวเพราะผู้หญิงของเขามานับครั้งไม่ถ้วนแต่ฉันก็ทนได้ ถามว่าเป็นแฟนเขามาสี่ปีมีหวั่นไหวกับเขาบ้างไหม...ถ้าจะบอกว่าไม่มีก็ดูเหมือนจะโกหกเพราะความรู้สึกแบบนั้นมันมีมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันวันที่เขาผลักฉันล้มนั่นแล่ะ ฉันยังเคยคิดว่าตัวเองผิดปกติหรือเปล่าที่ไปรู้สึกหวั่นไหวใจเต้นแรงกับผู้ชายนิสัยแบบเขา ทั้งที่เขาดูถูกฉันสารพัดแต่ฉันก็ยังจะไปหวั่นไหวกับผู้ชายร้ายๆอย่างเขาตลอดหลายปีมานี้ฉันต้องคอยเก็บอาการไม่แสดงให้เขารู้ว่าฉันรู้สึกยังไง มีบ่อยครั้งที่ฉันเห็นเขาพาผู้หญิงมานอนที่คอนโดแล้วรู้สึกเจ็บเมื่อฉันต้องเข้าไปทำความสะอาดในห้องที่เขาพาผู้หญิงมานอน มันมีเศษซากถุงยาง ซองถุงยางหรือแม้แต่ชุดชั้นในที่ผู้หญิงพวกนั้นทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าก็เป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องเก็บเอาไปทิ้งแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้จะไปโวยวายก็ไม่ได้เพราะฉันไม่มีสิทธิ์เพราะเราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆแต่เขาก็ไม่ได้เอาเปรียบฉันหรอกนะเพราะเขาจ้างฉันเดือนละสองหมื่นบาทที่ฉันยอมตกลงเพราะฉันต้องการเงินไปรักษาพ่อ เมื่อหลายปีก่อนพ่อของฉันประสบอุบัติเหตุที่โรงงานทำให้ขาข้างนึงใช้การเดินไม่ได้พ่อต้องใช้ไม้ค้ำช่วยพยุงทำให้น้าพรพรรณรับไม่ได้ที่พ่อของฉันพิการน้าพรพรรณก็เลยทิ้งพ่อฉันไปอย่างไม่ไยดีโดยพาสายพินไปด้วยตอนนั้นที่รู้ว่าพ่อประสบอุบัติเหตุฉันก็รีบกลับมาหาพ่อทันทีตอนนั้นฉันคิดว่าจะไม่กลับเรียนต่อแล้วฉันอยากทำงานที่นี่เพื่อคอยดูแลพ่ออย่างใกล้ชิดแต่พ่อก็ขอร้องเอาไว้พ่อบอกว่าให้ฉันทำตามความฝันของแม่ให้สำเร็จ พ่อบอกว่าพ่ออยู่ได้พ่อยังใช้ไม้ค้ำพยุงเดินไปไหนมาไหนได้ฉันก็เลยกลับมาเรียนต่อพอสิ้นเดือนเงินเดือนที่ร้านนพี่ขวัญออกรวมถึงเงินที่ธีร์ให้ฉันฉันก็จะขึ้นเครื่องกลับบ้านทันทีแล้วเอาเงินไว้ให้พ่อใช้บางส่วนก็โอนเข้าบัญชีพ่อเผื่อพ่อต้องใช้เป็นค่ารักษา ฉันตั้งใจไว้ว่าถ้าเรียนจบฉันจะกลับไปหางานทำที่บ้านถึงแม้เงินเดือนจะน้อยสู้ที่นี่ไม่ได้แต่ฉันก็ไม่อยากทิ้งพ่อให้อยู่คนเดียว

แกร๊กกก แอ๊ดดดดดดดดด ฉันแตะคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเข้ามาในห้องของธีร์ สภาพภายในห้องดูแทบไม่ได้ฉันรีบวางของที่แวะซื้อมาไว้ที่เคาท์เตอร์ครัวแล้วเริ่มลงมือเก็บของที่วางระเกะระกะรวมถึงขวดไวน์แก้วไวน์ จนมาสะดุดซองถุงยางอนามัยที่ถูกฉีกใช้ไปแล้วหลายซอง แปลว่าเมื่อคืนเขาคงจะพาผู้หญิงมานอนที่นี่อีกตามเคยฉันก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาใส่ถังขยะทีละชิ้นทีละชิ้นอย่างใจเย็นทำเหมือนมันเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำเป็นสิ่งที่ฉันควรจะชินกับการตามเก็บซองถุงยางแต่ใครจะรู้ว่าทุกครั้งที่ฉันเห็นอะไรแบบนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวดเมื่อไหร่ฉันจะชินกับมันสักที แม้ต่อหน้าเขาฉันจะทำเหมือนไม่แคร์อะไรแต่ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพราะฉันไม่อยากให้เขารู้ ฉันกลัวว่าถ้าเขารู้ว่าฉันรู้สึกยังไงสถานะของฉันกับเขามันจะเปลี่ยนไป เพราะเขาเคยพูดว่าห้ามฉันรู้สึกอะไรกับเขาเป็นอันขาดถ้าไม่อยากเจ็บ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel