บท
ตั้งค่า

ตอนที่6 คุณชาย บ่าวชาย

ทำไมจิวซินถึงคิดได้อย่างนั้นน่ะหรือ

ก็เพราะว่าบุรุษผู้นี้มีผิวพรรณเนียนละเอียดลออ ใบหน้างดงามกระจ่างใส ดวงตาของเขาทอประกายอบอุ่น อาภรณ์ที่เขาใส่เป็นสีขาวสะอาดตาหาได้มีลวดลายรบกวนความขาวเนียนละเอียดทั้งเรือนร่างของเขาได้ไม่ ท่วงท่าของเขายามยืนก็ดูสงบเรียบนิ่งทั้งยังเยือกเย็นให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกมากมาย เย็นสบายนัยน์ตาอย่างที่สุด

ทุกอย่างของเขาจำลองมาจากพระอาจารย์ในอารามหลวงที่นางเคยไปนั่งสนทนาธรรมอยู่ด้วยกัน ความน่าเลื่อมใสนั้น...ยากล่วงล้ำนัก

อืม...กลิ่นกายของเขาให้ความรู้สึกสบายจมูกยิ่ง กลิ่นกายสะอาด ผิวพรรณสะอาด ดวงตาสะอาด อา...

“จะสิงร่างข้าหรือไร?” เสียงทุ้มต่ำพลันดังทำเอาจิวซินถึงกับผงะ

ผู้ถูกกล่าวหาจะสิงร่างผู้อื่นกำลังคิดเพลิดเพลินจนเดินเข้ามาเกือบจะแนบชิดกับแผงอกของบุรุษตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไร?

จิวซินถามตนเองในใจเมื่อได้สติกลับมา

เจ้าของประโยคเมื่อครู่เป็นบุรุษรูปงามราวเทพเซียนที่กำลังยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าของจิวซินนั่นเอง

หากเดาไม่ผิดเขาคงเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้อย่างแน่นอน

อืม...เช่นนั้นแล้ว เขาก็เป็นเจ้านายของนางอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อจิวซินคิดได้อย่างนั้นจึงส่งยิ้มเจิดจ้าแววตาสดใส จงใจประจบสอพลอเต็มที่ นางถอยหลังออกห่างเขาถึงสามก้าวอย่างสำรวม แล้วทำความเคารพด้วยท่าทางแข็งแรงเยี่ยงบุรุษผู้กร้าวแกร่ง

นางต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจว่าในยามนี้ตนเองมิใช่สตรี

เมื่อจิวซินประสานฝ่ามือขึ้นเบื้องหน้าค้อมเอวโค้งกายทำความเคารพแล้วแต่ยังมิได้รับคำอนุญาตให้เงยขึ้น นางจึงยืนก้มหน้าสงบนิ่งแอบกลอกตาเล็กน้อยเพื่อระงับจิตใจมิให้ฟุ้งซ่านตื่นเต้นที่ต้องปลอมตัวเป็นบุรุษอย่างนี้

“ไม่ต้องมากพิธี”

เสียงทุ้มต่ำของนายน้อยแห่งคฤหาสน์ดังขึ้นประหนึ่งเสียงสวรรค์ จิวซินเร่งทำจิตใจให้สงบ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายหมาดๆ ของตนด้วยความมั่นใจ

แต่แล้วนางพลันต้องผงะ เมื่อสบสายตาเข้ากับบุรุษตรงหน้าที่เขาคล้ายกับว่าจ้องมองนางอยู่เป็นนาน จ้องอย่างกับต้องการมองให้ลึกไปถึงกระดูก ราวกับต้องการมองให้ทะลุปรุโปร่งไปทุกอณูความคิด

จิวซินเบิกตาโตอย่างคนตกใจ

เขาจะจับผิดนางได้หรือไม่?

คงไม่!

ไม่หรอกกระมัง!

จิวซินปลอบใจตนเองพลางจ้องมองสู้สายตาคมนิ่งงัน

บุรุษตรงหน้าจ้องมองนางด้วยสายตาคมดำสีนิลคล้ายรัตติกาลไร้แววทอประกายไม่ต่างจากก้นบึ้งของบึงใหญ่ ปราศจากคลื่นลมใดๆ

ท่วงท่าสงบนิ่ง บุคลิกเย็นชา ท่าทางดั่งรูปสลักรูปปั้น ไร้ใครหรืออะไรมาทำให้โอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย

จิวซินยิ่งมองยิ่งรู้สึกดี อา...น่าเลื่อมใสยิ่งนัก

น่าเลื่อมใสจริงๆ

เมื่อจิวซินคิดได้อย่างนั้นนางถึงกับคลี่ยิ้มออกมา

หญิงสาวมีนิสัยชอบเข้าวัดเฝ้าอาราม ชอบศึกษาธรรมะและนั่งสมาธิเป็นประจำ เพราะถ้าหากไม่ทำนางคงไม่แคล้วถูกบังคับให้ปักผ้าดีดพิณและนั่งๆ นอนๆ เป็นเพียงสตรีในห้องหอที่สุดแสนจะน่าเบื่อ!

“เจ้าจะยืนยิ้มคล้ายเมากำยานอีกนานหรือไม่?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอีกหนึ่งประโยคทำเอาจิวซินถึงกับผงะไปอีกครา

หญิงสาวถึงกับหุบยิ้มโดยพลัน นึกได้ว่ายังมิได้แนะนำตัวจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมแสร้งห้วนใกล้เคียงกับเสียงของหนุ่มน้อย

“อะแฮ่ม! เอ่อ...บ่าว อาซิน ขอรับ คุณชาย”

บุรุษตรงหน้าเพียงหรี่ตามองพลางเอ่ยเสียงเย็น

“เจ้ามีนามว่าอาซินหรือ?”

จิวซินพยักหน้าหงึกหงักดวงตาสดใสคลี่ยิ้มจริงใจเจิดจ้ายิ่งนัก นางกล่าวต่ออย่างขึงขัง “บ่าวทำงานได้ทุกอย่างเลย ได้หมด ไม่มีเลือก ขอเพียงนายน้อยสั่งการมาขอรับ”

“ทุกอย่าง?” บุรุษตรงหน้าทวนคำ “ไม่เลือก?”

เขากล่าวพลางก้มหน้ามองนางด้วยแววตาที่ยากแก่การคาดเดา

“ขอรับ” จิวซินรีบตอบรับอย่างแข็งขันโดยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มตรงมุมปากชั่วอึดใจของใครบางคนตรงหน้า

นางยังคงส่งยิ้มใสซื่อดวงตาทอประกายสดใสคล้ายกับเด็กน้อยกำลังเล่นสนุกอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อทำการแนะนำตนเองเสร็จสิ้น เจ้านายรูปงามของนางเพียงทำเสียงอืมในลำคอแสดงถึงความพึงพอใจออกมาเบาๆ

เขายังคงมองนาง สะท้อนภาพหนุ่มน้อยหน้าเนียนในแววตา “เอาล่ะ! หากทำได้ทุกอย่างดังวาจา ข้าจะรับเจ้าเข้าทำงาน”

จิวซินได้ยินถึงกับคลี่ยิ้มได้กว้างยิ่งขึ้น

งานอะไรก็ได้ ยกเว้นปักผ้า ดีดพิณ วาดภาพ เขียนกลอน ร่ายรำ งานพวกนั้นมารดาชอบบังคับให้นางทำ น่าเบื่อยิ่ง!

และแล้วเจ้านายรูปงามของจิวซินก็ไม่ทำให้จิวซินได้ผิดหวังทั้งซักผ้า ทั้งปัดกวาด ทั้งเช็ดถู มีแบกน้ำด้วย

อา...ช่างถูกใจยิ่ง

ยามอยู่ที่จวนหยาง บ่าวไพร่ไม่เคยให้นางได้ทำหรือแตะต้องงานเหล่านี้ จะหยิบจะจับอะไรก็มีแต่ถูกห้ามปราม กลัวนางจะเหน็ดเหนื่อย กลัวนางจะผิวเสีย กลัวนางจะสิ้นความงาม

ถึงแม้ว่าบิดากับมารดาจะไม่เข้มงวดเรื่องนี้กับนางก็ตามแต่พวกท่านมักจะดูแลอย่างดีเยี่ยมเสมอมา กับบ่าวไพร่ยิ่งแล้วใหญ่ ดูแลนางดียิ่งกว่าอะไร ประหนึ่งนางเป็นไข่มุกในอุ้งมือกระนั้น

นางไม่แตกหักง่ายๆ เสียหน่อย จะอุ้มไว้ทำไมนักหนา

เวลาผ่านไปจนเกือบจะหมดวัน

จิวซินยังคงทำงานไปยิ้มไปอย่างร่าเริง ท่าทางราวกับได้รับอิสรเสรีมิใช่ได้รับงานหนักอันใดเทือกนี้

ผิดกับใครบางคนที่สั่งการให้นางทำงานอย่างสิ้นเชิง

เขาผู้นั้นกำลังยืนมองมาทางนางอย่างหงุดหงิดเหลือประมาณ ทั้งๆ ที่ตั้งใจสั่งงานหลายอย่างให้นางได้ทำ ทั้งงานหนักงานเบาเอาให้นางได้ถอดใจ แล้วดูเถิด...ดูนางทำ

ยิ้มไปทำไปนั่นคืออันใด?

ไยแม่นางถึงได้เบิกบานยิ่ง!

จ้าวหนิงหลงในคราบของคุณชายหนิงเจ้าของคฤหาสน์งดงามกำลังยืนกอดอกมองใครบางคนที่อยู่ในอาภรณ์บุรุษของบ่าวประจำคฤหาสน์แห่งนี้ด้วยท่วงท่าสงบเรียบนิ่งไม่ไหวติงใดๆ ทว่าในใจกลับมิได้ราบเรียบเฉกเช่นภายนอก

ชายหนุ่มยืนมองคนผู้หนึ่งอย่างพยายามเก็บข่มอารมณ์ขุ่นมัว

เขาตั้งใจรับนางเข้ามาเป็นบ่าวชายตามที่นางตั้งใจ ทั้งยังให้เป็นบ่าวชายคนสนิทเพื่อที่ว่าเขาจะได้สั่งการนางโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อบ้านแต่อย่างใด

นางเป็นถึงว่าที่คู่หมั้นของเขา เป็นสตรีที่เสด็จพ่อทรงบังคับเขาให้หมายจะหมั้นและแต่งงานกัน ซึ่งเขาไม่มีวันยอม

แต่ในขณะที่เขาไม่มีทางยอม นางกลับปลอมตัว เพื่อที่จะหนีเขาอย่างอุกอาจ

นางช่างบังอาจ!

นางกล้าหนีเขา...

เห็นได้ชัดว่านางตั้งใจจะหักหน้าเขา

แต่นางหารู้ไม่ ว่านางคิดผิด นางทำผิด

นางผิดพลาดอย่างมหันต์ นางไม่รู้ว่าคู่หมั้นหมายของนางคือเขา

เมื่อจ้าวหนิงหลงคิดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ขุ่นมัวที่ถูกเมินเมื่อครู่พลันเบาบาง อาการหงุดหงิดพลันปลิวหาย ความคิดผลักไสยิ่งมลาย

อืม...เขาจะแกล้งอะไรนางดี?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel