บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ข้ามภพ

เสิ่นหรันหรันได้ยินเสียงของคนเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอก ด้วยประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ผ่านมาร่วมกับคนแปลกหน้าเป็นศูนย์ ทำให้เสิ่นหรันหรันกลัวจนไม่กล้าที่จะพูดออกไป

เธอหวังว่าจะมีใครสักคนที่ท่าทางใจดี เหมือนคุณพยาบาลในโรงพยาบาลเปิดประตูบานนั้นออกมาเพื่อไขข้อสงสัยที่กำลังอัดแน่นในอกของเธอสักคน

เสิ่นหรันหรันนอนนิ่ง ๆ อยู่ราวครึ่งชั่วโมงอาการปวดศีรษะแม้จะยังคงอยู่ แต่อาการอ่อนเพลียของเธอก็ดีขึ้นไม่น้อย

ตอนแรกคงเป็นเพราะเธอรีบร้อนลุกขึ้นยืนจนเกินไป เลือดจึงไหลเวียนไม่สะดวกจนทำให้เกิดอาการแบบนี้

และแล้วในที่สุดก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก เสิ่นหรันหรันค่อย ๆ ลืมตา และจ้องมองไปที่ประตูนั้น

และเป็นเขาที่ก้าวเข้ามา คนที่ย่ำยีเธอและทำให้เธอหวาดกลัวแทบสิ้นสติ เขาไม่ได้แต่งตัวปกติแต่ใส่เสื้อผ้าแบบโบราณ ผู้ชายคนนี้ชอบแต่งคอสเพลย์หรอกหรือ

ถึงเขาจะหล่อเหลาจนเหมือนพระเอกซีรีส์ที่เสิ่นหรันหรันชอบดู แต่สีหน้าดุดันเย็นชา สายตาเย็นเยียบกลับทำให้หัวใจของเสิ่นหรันหรันตื่นตระหนกจนลนลาน

เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดกลัว ปากของเธอสั่นระริกในตอนที่เขาจับจ้องมาที่ดวงตาคู่งามหยาดเยิ้ม

ดูเหมือนว่ามุมปากของเขาจะยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เอ่ยว่า

“ฟื้นแล้วหรือองค์หญิง เช่นนั้นก็ดีข้าจะได้มอบของขวัญให้เจ้าเสียที”

เขาพูดจบก็เปิดประตูเดินจากไป เสิ่นหรันหรันยังมึนงง ทั้งยังหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมากเมื่อเขาเดินออกไปแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ

ตอนนี้ต้องตั้งสติก่อน เขาเรียกเธอว่าองค์หญิงไม่ผิดแน่ นี่มันหมายความว่ายังไง

ถ้าเขากลับมาอีก เธอต้องสอบถามให้ได้เรื่อง

เขาหายไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็กลับมา ในมือถือบางสิ่งบางอย่างมาด้วย เสิ่นหรันหรันมองเห็นเป็นสีดำ ๆ ยังมองไม่ชัดนักเขาก็พูดขึ้นมาว่า

“ของที่เจ้าต้องการ ข้านำมาให้แล้ว”

พูดจบเขาก็โยนของที่อยู่ในมือส่งให้เธอ เสิ่นหรันหรันพอมีแรงแล้วเมื่อคนมอบของให้ เธอก็ยื่นมือไปรับอัตโนมัติแม้ไม่รู้ว่าคืออะไร

ของสิ่งนั้นตกในมือของเธออย่างแม่นยำ เสิ่นหรันหรันยกขึ้นแล้วเพ่งมอง จากนั้นก็หวีดร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับโยนมันทิ้งไปทันใด

กรี๊ดดดดดดด!

ที่แท้มันคือศีรษะของมนุษย์คนหนึ่ง!

เลือดอุ่นสด ๆ สายหนึ่งยังกระเด็นถูกใบหน้าของเธอ เสิ่นหรันหรันได้กลิ่นคาวเลือดที่โชยออกมา เธอลืมอาการปวดหัวไปโดยพลัน จากนั้นเธอจึงคลานไปที่หลังกองฟืนแล้วโก่งคออาเจียนเหมือนตอนที่เธอออกมาจากห้องฉายรังสีไม่มีผิด

คนผู้นั้นปล่อยให้เธออาเจียนจนหมด เสิ่นหรันหรันร่างกายสั่นเทา กลัวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปในพริบตา

ตอนนี้เธอถูกมือใหญ่คู่นั้นลากออกมาหลังกองฟืนแล้ววางเธออย่างแรงเหมือนเธอเป็นตุ๊กตาหินก้อนหนึ่ง

ศีรษะมนุษย์ถูกเขาเตะไปที่มุมหนึ่งเขาไม่ได้ทำเพราะสงสารเธอแต่เขากำลังโกรธกับท่าทางขัดใจของหญิงสาว จึงใช้ศีรษะนั้นระบายอารมณ์

คนผู้นั้นโน้มใบหน้าลงมา บีบคางของเธอแล้วเอ่ยว่า

“เจ้าอยากได้หัวของเขา ข้าจัดการให้แล้ว ไยจึงได้มีท่าทางเช่นนี้ คิดจะมาอ่อนแออะไรในยามนี้กัน”

เสิ่นหรันหรันอยากจะกรีดร้องออกมาอีกรอบ แต่คราวนี้เธอกลับไร้ซึ่งเสียงร้องไปแล้วมีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาราวกับไข่มุกขาดสาย จากนั้นเธอก็พยายามพูดออกมา

“หรันหรันไม่ได้พูด ไม่เคยบอกคุณให้ทำแบบนี้”

จากคำพูดของเขานั้นเห็นได้ชัดว่าเขากำลังใส่ร้ายว่าเธอเป็นคนสั่งให้เขาฆ่าผู้ชายคนนี้

เขาบีบคางของเสิ่นหรันหรันแน่นขึ้นทั้งมองด้วยสายตารำคาญ

“ยุ่งยากเสียจริง ทั้ง ๆ ที่เป็นความต้องการของเจ้าแท้ ๆ ตอนนี้บอกว่าไม่ต้องการ องค์หญิงเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่ อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า”

“ไม่ใช่หัวคน หรันหรันกลัว ฮือ ๆ ๆ”

เสิ่นหรันหรันแม้จะอายุสิบเก้าปี แต่เธอถูกประคบประหงมเป็นเด็กมาโดยตลอด ชีวิตนี้น้อยครั้งนักที่จะได้ออกไปจากโรงพยาบาล แต่เมื่อต้องมาเผชิญโลกก็ต้องเจอกับหัวคนจริง ๆ เธอไม่ตกใจตายไปอีกรอบก็นับว่าจิตแข็งแล้ว

และท่าทางลนลานของหญิงสาว ก็ทำให้เขาหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง

กระทั่งประตูถูกเปิดออก เสียงของผู้ชายอีกคนก็ดังขึ้น

“ท่านอ๋อง ท่านทำพระชายาของท่านกลัวแล้ว แค่ฆ่าก็พอไยต้องให้นางเห็นหัวคนด้วย นางเป็นองค์หญิงทั้งเป็นสตรีบอบบางจะทนดูได้อย่างไร”

“ก็นางบอกว่าต้องการเห็นด้วยตาข้าก็เอามาให้แล้ว ความผิดของข้าหรือ”

“ท่านก็เห็นว่านางกลัว พอเถิด”

ท่าทางของเขาหงุดหงิดและเอาแต่ใจ จากนั้นเขาก็ปล่อยคางเล็กของนาง

และในตอนนี้ที่เขาคนนั้นหมุนตัวและเดินออกไปแล้ว เสิ่นหรันหรันตกใจแทบสิ้นสติเขากำลังทิ้งเธอเอาไว้กับหัวของผู้ชายคนนั้น

ถึงเสิ่นหรันหรันจะไม่เคยเจอผี แต่เธอก็กลัวจนแทบฉี่ราดแล้ว ทว่าเมื่อมองแผ่นหลังที่เย็นชาเหมือนแผ่นน้ำแข็งของผู้ชายคนนั้น เสิ่นหรันหรันคิดว่าอยู่กับหัวคนยังดีกว่าอยู่กับมนุษย์ที่ดูเหมือนว่าจะกินคนได้เช่นเขา

เสิ่นหรันหรันไม่กล้ามองหัวคนที่กลิ้งไปอยู่ด้านข้างประตู จึงได้ขยับไปชิดอยู่ที่มุมห้องสร้อยกางเขนที่เคยกำเอาไว้เมื่อเวลาสวดอ้อนวอนพระเจ้าในชาติก่อนไม่มีแล้ว เธอจึงได้แต่กุมมือของตัวเองแน่นแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า

“ขอให้เรื่องนี้ไม่จริง ขอให้เป็นเพียงความฝัน ขอให้ลูกตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วทุกอย่างจะหายไป”

เธอทั้งหวาดกลัวและตื่นตระหนก แม้แต่แรงที่จะอ้าปากพูดตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว ร่างกายของเธอในเวลานี้ก็เกินจะรับไหวในที่สุดเสิ่นหรันหรันก็หมดสติไปอีกครั้ง

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่บุรุษร่างสูงก็ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับบุรุษอีกคนหนึ่ง สายตาคมจ้องไปที่สตรีร่างเล็กที่อยู่มุมห้องที่บัดนี้ได้หลับไปแล้ว

บุรุษที่อยู่ข้างกายเขาเดินไปใกล้นาง จากนั้นจึงจับชีพจรเล็กน้อย เขาวางข้อมือเรียวลงแล้วเอ่ยว่า

“นางตัวร้อน อาการไม่ค่อยดีนัก อย่างไรนางก็เป็นสตรีทั้งยังเป็นภรรยาที่ท่านลักพาตัวมาไม่คิดจะดูแลนางหน่อยหรือ”

โหย่วเฉาตัดบทเสียงเย็น

“ข้าเมาจนขาดสติ จึงได้ตัดสินใจผิดพลาด”

เสียงหัวเราะดังขึ้นทันใด

“ข้ารู้ว่าท่านชอบแข่งขันไม่ยอมพ่ายแพ้ผู้ใด แต่ไม่คิดว่าท่านจะอาการหนักเพียงนี้ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วท่านก็ต้องรับผิดชอบนางให้ดีที่สุด”

“ไยข้าต้องรับผิดชอบอีก เป็นนางที่ไม่ยอมกลับไปและยื่นข้อเสนอให้ข้า หึ ข้าคิดว่าเป็นนางที่วางแผนการเอาไว้แล้ว ช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก”

“เป็นท่านต่างหากที่เปิดโอกาสให้นางวางแผนการท่านอ๋อง ยอมรับเถิดว่าคนที่ผิดพลาดคือท่านเอง ข้าจะไปต้มยาท่านก็เช็ดตัวให้นางแล้วกัน”

สีหน้าของโหย่วเฉากลับขึงขังขึ้นมาทันใด

“เจ้าเป็นหมอก็ดูแลเองสิ”

จากนั้นเขาก็หมุนกายจากไป โจวรุ่ยได้แต่มองไปยังร่างเล็กด้วยสายตาเวทนาทั้งสงสาร ไม่รู้ว่าเวรกรรมอันใดนางจึงได้จับพลัดจับผลูมาตกอยู่ในเงื้อมมือของอ๋องไร้หัวใจคนนี้

หากจะโทษ ก็ต้องโทษที่นางผู้นี้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงสตรีที่ทิ้งรอยบาดแผลในใจให้เขาเอาไว้ ทำให้ท่านอ๋องไม่อาจลืมได้ลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel