บทที่ 6
‘มึงเมาอาละวาดฟาดโหลยาดองกูแตกได้นะอีป้า แต่มึงห้ามอาละวาดคว่ำบาตรชีวิตตัวเอง ก็แค่ผู้ชายเหี้ยๆ และผู้หญิงเหี้ยๆ ที่มาเอาตีนขวางให้มึงล้มหัวคะมำ มึงยังโชคดีที่พวกมันไม่ได้เอาชีวิตของมึงไปด้วย มึงจะให้มันสองคนหัวเราะเยาะที่ทำให้มึงล้มได้งั้นเหรอ ไม่ได้! อีดอก มึงต้องเชิดหน้าสู้ แล้วก็หัวเราะกลับพวกมัน ในวันที่มึงกลับมายิ่งใหญ่ได้ มึงต้องยิ่งใหญ่ อีป้า มึงดูแมวกูสิ นังบุญมาน่ะ มันยังไม่ยอมแพ้แม้จะโดนหมาฟัดไส้ไหล มันยังคลานกระเสือกกระสนหาคนช่วยให้มันอยู่รอด มึงคนแท้ๆ นะ อย่าได้คิดจะตาย อย่าได้คิดจะท้อ มึงอายแมวนะอีดอก’
ป้าแอ๊วเลยอายแมว รวมถึงอยากจะยิ่งใหญ่ เพื่อจะเชิดหน้าใส่พวกคนเลวนั่น...
มาถึงโครงการทำน้ำพริกกู้ชีวิตกับเจ๊นิว ปรากฏว่าขายดิบขายดี จนต้องจ้างแรงงานมาแพ็คกันเลยทีเดียว นุตรารับหน้าที่ขายออนไลน์ ไลฟ์ขายน้ำพริกให้ในเพจงานสักของเธอ และเอามาขายปลีกที่หน้าร้านยาดองควบไปด้วย ตอนนี้บ้านของป้าแอ๊วกลายเป็นโรงงานย่อมๆ หลังจากทำมาสองเดือน ผลประกอบการค่อนข้างอู้ฟู่เลยก็ว่าได้
ในรถของหล่อนมีนังบุญมาติดตามมาด้วยเป็นทุกวัน มันเป็นแมวที่ติดเจ้าของอย่างหนัก นังบุญมานั่งเป็นแมวกวักให้ที่ร้านยาดองของนุตรา นั่งนอนอยู่บริเวณนั้น คอยทักทายแขก ให้แขกลูบคลำเกาหัวเกาหูให้ เป็นที่ระบายอารมณ์ให้แขก ยามที่เมาจัดแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร ตัดพ้อกับเจ๊นิวมากไปหล่อนก็ด่า เลยต้องหันมาหานังบุญมานี่ล่ะ เป็นที่ระบาย
จึงมีภาพประจำยามที่ร้านของหล่อนปิดแล้ว จะต้องแยกลูกค้ากับแมวออกจากกัน เพราะจะต้องกลับบ้าน...อีคุณลูกค้าที่เมาไปร้องไห้ไปกับแมวก็ไม่ยอมพรากจากแมว เพราะมีแมวเท่านั้นที่รับฟังและเข้าใจ ทำให้เธอต้องจับพวกตัวป่วนขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งบ้านช่องเสียให้เรียบร้อย
“เจ๊จ๋า...น้ำพริกสามกระปุก”
นุตราที่จัดร้านแล้วเรียบร้อย มองค้อนขวับคนที่เรียกขานหล่อนด้วยเสียงที่หวานจนน่าขนลุก
“สามกระปุกร้อยห้าสิบ”
หล่อนหยิบน้ำพริกใส่ถุงแล้วยื่นส่งให้คนซื้อ ที่ถึงกับทำตาปริบๆ เมื่อจู่ๆ ราคาน้ำพริกพุ่งจนเกินปรกติ
“เฮ้ย เจ๊ ขึ้นราคาเหรอปรกติสามกระปุกร้อยนี่นา พริกแพงหรือครับ”
“น้ำพริกราคาเดิม เพิ่มเติมห้าสิบบาท ที่มึงเรียกกูว่าเจ๊จ๋า กูขนลุกไอ้ห่า”
หนนี้คนฟังหัวเราะก๊าก แล้วครางเสียงอ่อย
“โธ่ เจ๊อะ”
“ไม่ต้องมาเจ๊อะ...”
หล่อนค้อนให้เขา ถังเป็นหัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ละแวกนี้ หนุ่มหล่อแบบสไตล์สก๊อยกรี๊ด...ด้วยหุ่นเพรียว เอวบาง ผิวคล้ำนิดๆ ตาคมไว้เคราแพะ สักเกือบทั้งตัว แน่ล่ะสิ่งที่เขาฝันคือรอยสักจากเจ๊นิว ที่เพิ่งจะยอมสักให้ ลายการ์ตูนเลียนแบบเขา หล่อนทำได้เป๊ะมากยันลายละเอียดของเคราแพะและรถมอเตอร์ไซค์ประจำกายเขา เงินก็เอาแค่สามพันค่าสีค่าหมึก หล่อนพึ่งพาเขาที่อาสาส่งลูกค้าเมาให้ ช่วยดูแลยามมีลูกค้าเมาเรื้อน ก็ไอ้ถังนี่ล่ะคนเคลียร์ เหตุที่เคลียร์เหตุที่เสือกมาช่วย เพราะแอบรักหม้ายสาวปากจัดคนนี้นั่นล่ะล้วนๆ
“ตกลงผมต้องจ่ายร้อยห้าสิบจริงๆ อะ”
“หนนี้กูคิดร้อยหนึ่ง หนหน้าคิดร้อยห้าสิบจริงๆ ถ้ามึงมาเรียกกูว่าเจ๊จ๋าไอ้ถัง”
“แหะๆ เจ๊ก็เถื่อนจัง ไม่คิดจะหวานเหมือนผู้หญิงคนอื่นมั่งเหรอ เจ๊ไม่ชอบหรือไงคนมาพูดเพราะๆ ด้วย”
“เอ่อ กูก็เถื่อนของกูงี้ล่ะ ไม่ชอบหรอกคนพูดหวานๆ น่ะ ขนกูลุกชูชัน” หล่อนโบกมือไล่เขา
“ไปๆ อย่ามาเกะกะหน้าร้าน ได้แล้วก็ไป”
“ถ้ายังไม่ได้ก็ไปไม่ได้...ใช่ไหมเจ๊”
ถังหยอด นุตราที่รู้ทันเขา ปรายตามองเขา แล้วทำเสียงเข้ม หล่อนหยิบเอาปลัดขิก ของที่ป้าแอ๊วมอบให้ในวันเปิดขายน้ำพริกวันแรก มันทำจากไม้ตะเคียนอันเท่าแขนใหญ่โตสะดุดตา ตอนแรกนุตราก็เขินๆ หลังๆ เอามาถือไว้ยามลูกค้าเริ่มเปรี้ยว...เพราะขนาดของมันและความแข็งแรง ใช้เป็นอาวุธได้กลายๆ เป็นอย่างดี แถมใช้แทนคำด่าได้ในบางโอกาสเสียด้วย
“อยากได้อะไร เอาไอ้นี่แทนมะ” หล่อนเอาปลักขิกยื่นใส่เขา เล่นเอาถังสตาร์ทรถแล้วหัวเราะแหะๆ
“โหเจ๊ แหม...ขนาดนี้ ทำขนาดนี้ ด่ากันเลยปะ”
“ให้กูด่าจริงๆ ไหมล่ะ ได้นะ จะไปไหมไอ้ค...”
ก่อนที่จะทันเปล่งคำนั้น ถังก็ร้องจ๊ากขัดขึ้นเสียก่อน
“โอ๊ย...ไปแล้วจ้า ไปแล้ว เจ๊อย่าแจกกล้วย เดี๋ยวถังซวยไปทั้งวัน ไปแล้ว”
เสียงรถแว้นจากไป ทำให้นุตราถอนใจ แล้วอมยิ้มตามหลังหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์
“หึๆ ต้องให้เปลืองพลังงาน ไอ้นี่...ทำมาหากินดีกว่าเรา”
หล่อนหยิบเอาโทรศัพท์มาตั้ง มุมเดิม ที่เดิม ในสภาพของเจ๊นิวปากหมาแบบเดิม คือผมเกล้าเป็นมวย แต่งหน้าเน้นปาก...ต้องสีแดงจะได้มีแรงเม้าท์ แรงขาย เสื้อกล้าม กางเกงเล เจ๊นิวสาวสวยจัด คนดูดูเพลินเพราะหน้าสวยๆ หุ่นน่ามอง และเฮฮาไปกับการขายไปด่าไปของหล่อน
นิ้วเรียวของหล่อนจิ้มตรงหน้าจอ เริ่มไลฟ์ ก่อนจะโบกมือทักลูกค้าที่ได้รับการแจ้งเตือน แล้วทยอยกันมาดูหล่อน เวลาบันเทิงของลูกเพจเริ่มแล้ว...
“เฮ้...สวัสดีอีดอก ลูกค้าทั้งหลาย เจ๊นิวแม่ค้าเถื่อนมาแล้วจ้า มาแดกน้ำพริกป้าแอ๊วกัน อร่อยปากแตกเลยนะพวกมึง”