แอบรัก Lecturer

119.0K · จบแล้ว
น้ำผึ้งสีเลือด
75
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะฉันรู้ว่าความรักระหว่างนักศึกษากับอาจารย์มันดูไม่เหมาะไม่สมควร ฉันจึงเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ พยายามไม่แสดงออกให้ใครมองเห็นว่าฉันคิดยังไงกับอาจารย์เซฟ เพื่อรอให้ตัวเองเรียนจบและพ้นสถานะของคำว่านักศึกษากับอาจารย์ และตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเราก็ใกล้ชิดกันทำให้ฉันรู้สึกดีกับเขามากขึ้น จนเข้าขั้นแอบรัก ฉันมันเป็นพวกรักเดียวใจเดียว พอได้รักได้ชอบใครเข้าแล้วจริงๆ ต่อให้จะมีคนดีๆ เข้ามาอีกสักสิบคนฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะฉันรักคนนี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบคนดีๆ เพียงแต่ฉันชอบคนนี้ แอบชอบมาตลอด ไม่รู้ว่าอาจารย์เซฟจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่านะ จนอยู่มาวันนึง ฉันเพิ่งจะได้รู้ว่าอาจารย์เซฟมีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว ความรู้สึกของฉันในตอนนั้นเหมือนตกอยู่ในห้วงของความฝัน พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่สุดท้ายฉันก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี เขามีคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว ฉันมันก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่แอบรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว "ริตาต้องทำยังไงคะ ถึงจะได้อาจารย์มาเป็นของตัวเอง"

นิยายรักโรแมนติกประธานดราม่าแก้แค้นเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยนักศึกษา18+21+

01 จุดเริ่มต้นการแอบรัก

มหาวิทยาลัยKK

ริตาและพะพิมกำลังเดินเข้าไปด้านในมหาวิทยาลัยพร้อมกัน เพื่อรอเข้าเรียนพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ขณะที่กำลังเดินไปทั้งสองก็พูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยตามประสาเพื่อนที่รู้จักกันมานานและสนิทกันมากที่สุด ซึ่งมิรากับขนมก็มักจะสนิทกันมากกว่าทั้งสอง แต่ก็เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและที่สำคัญก็รักกันมากด้วย

และเพราะพวกเธอเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจะเข้ามาเรียนใหม่ก็เลยยังไม่มีคนรู้จักมากมาย ส่วนเพื่อนก็หาได้ตอนทำกิจกรรมร่วมกับรุ่นพี่ก่อนหน้านั้น

"ให้ช่วยถือไหม?" พะพิมถามคนข้างๆ ไม่รู้ว่าริตาขนหนังสืออะไรมามากมายขนาดนั้น

"ไม่เป็นไร เธอถึงชาเย็นไปก็พอแล้ว" ก่อนจะเข้ามหาลัยทั้งสองแวะไปร้านเบเกอรี่ร้านประจำที่เคยแวะ เพื่อซื้อขนมและซื้อของกินมาฝากเพื่อนอีกสองคนด้วย นั่นก็คือมิราและขนม

"ว่าแต่เธอขนอะไรมาตั้งเยอะแยะเนี่ย ไม่ใช่เรียนมัธยมหรือเรียนประถมนะที่จะต้องขนอะไรมามากขนาดนี้" พะพิมรู้ว่าที่ริตาขนมามันเป็นหนังสือ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นหนังสืออะไรทำไมริตาถึงได้ขนมามากมายแบบนั้น

"อาทิตย์ก่อนฉันเอาหนังสือจากหอสมุดไปน่ะ นี่ก็ครบกำหนดคืนแล้วฉันก็เลยต้องหอบกลับมา"

"อ่าว นึกว่าหนังสืออะไรของเธอ"

"อยู่หอเบื่อๆ มีหนังสืออ่านมันก็ดีนะ"

"เฮ้อ..."

"เป็นอะไรถึงได้ถอนหายใจแบบนั้น"

"ไม่รู้สิ ก็เบื่อๆ เหมือนกันกับเธอแหละ แต่ก็นะ...อยากหางานพาร์ทไทม์ทำจัง" พะพิมบ่นงึมงำขณะที่กำลังเดินไปพร้อมกันกับริตา ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรเธอถึงอยู่นิ่งกับคนอื่นเขาไม่ได้ เวลาอยู่เฉยๆ แล้วมันคิดฟุ้งซ่านไปหมดจนเธอต้องหางานมาให้ตัวเองทำ

หรือมันเป็นนิสัยที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ไม่รู้

"ก็หาทำสิ แถวร้านที่เราไปกันเมื่อวานก่อนฉันเห็นมีติดประกาศรับสมัครพนักงานอยู่นะ"

"ต้องดูเวลาอีกทีนึงน่ะ เวลาเรียนมันก็ไม่ค่อยตรงด้วย"

"งานพาร์ทไทม์ส่วนใหญ่นักศึกษาก็ทำกันนะ จะทำตอนเช้าตอนกลางวันหรือจะตอนดึกๆ ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกว่าพาร์ทไทม์หรอ"

"นั่นสิ แต่อาทิตย์หน้าฉันว่าจะไปหาแม่ที่บ้านเด็กกำพร้าสักหน่อย"

"เอาสิฉันขอไปด้วยนะ"

"อื้ม..."

พะพิมโตมากับบ้านเด็กกำพร้า และแม่ที่เธอเรียกก็คือเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต ถึงไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดแต่ก็ไม่ต่างอะไรจากแม่ที่คอยเลี้ยงดูเธอมาเลย เธอไม่ได้เป็นเด็กถูกพ่อแม่ทิ้ง แต่เพราะครอบครัวของเธอไม่เหลือใครแล้ว เธอจึงถูกญาติพามาส่งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตอนที่บ้านถูกไฟไหม้ และเธอก็เป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้จากการช่วยเหลือของคนเป็นพ่อเป็นแม่ เหตุการณ์ในวันนั้นสร้างปมในใจให้กับเด็กอายุ 8 ขวบเป็นอย่างมาก แถมยังถูกญาติผลักไสให้มาอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกด้วย

แต่ถึงจะไม่มีพ่อกับแม่คอยดูแล แต่เธอก็ยังมีแม่อีกคนที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่นั้นจนโตถึงทุกวันนี้ เธอมีทุกอย่างได้ก็เพราะแม่อีกคนจริงๆ

เวลาต่อมา

"ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ริตาพูดจบก็ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายของเธอแล้วเดินไปทางด้านหลังอาคารเรียน

ตึก!

"ขะ ขอโทษค่ะๆ" เพราะมัวแต่ก้มหน้าขอโทษเลยไม่รู้ว่าคนที่เธอเดินชนนั้นเป็นใคร รู้แต่ว่าเขาใส่ชุดคล้ายกับนักศึกษา แต่ก็คงจะเป็นนักศึกษา และน่าจะเป็นรุ่นพี่ของเธอ "ขอโทษอีกครั้งนะคะพอดีไม่ทันได้มอง"

"ครับ" ผู้ชายคนนั้นตอบสั้นๆ แล้วเดินไปทันที ริตามองตามทันเพียงแผ่นหลังของเขาเท่านั้น มองดูแค่นี้ก็รู้เลยว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ดูดีพอสมควร

ด้วยความที่ริตารีบไปเข้าห้องน้ำเธอจึงไม่ได้สนใจสักเท่าไร

ผ่านไปไม่นาน

"ริตา!"

"อะไร เรียกซะเสียงดังเชียวตกใจหมดเลย"

"ขะ แขนเธอไปทำอะไรมาทำไมมีเลือดไหล"

"...." ริตารีบยกแขนของเธอขึ้นมาดูซึ่งตรงข้อศอกของเธอก็มีเลือดไหลออกมาจริงๆ ซึ่งน่าจะเป็นตอนที่เธอเดินชนกับรุ่นพี่คนนั้นจนตัวเองหงายหลังลงไปข้อศอกกระแทกกับพื้นและเธอก็น่าจะไม่รู้ตัวว่ามีเลือดออก "สงสัยเดินชนกับรุ่นพี่ที่หน้าห้องน้ำน่ะ"

"เป็นอะไรมากหรือเปล่านั่น" ขนมถาม

"ฉันไม่เป็นไร แค่แผลถลอกน่ะก็เลยเลือดออก"

"...."

"ฉันไปล้างเลือดแป๊บนึงนะ"

อีกครั้งที่ริตาต้องเดินไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็เปิดน้ำล้างรอยคราบเลือดที่อยู่ตรงข้อศอกของเธอ ตอนนั้นทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวเลยว่ามันเจ็บ ถ้าพะพิมไม่ทักขึ้นมาก่อนเธอก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกัน

ตกเย็น

หลังจากที่เพื่อนๆ กลับกันหมดแล้วริตาเธอยังคงขลุกอยู่ในหอสมุดของมหาลัย เอาเล่มเก่ามาคืนจากนั้นก็เอาเล่มใหม่ยืมกลับไปอ่านที่หอ ดูเหมือนจะเป็นพวกหนอนหนังสือที่สนใจแต่การเรียนไม่สนใจโลกภายนอก แต่ความจริงการอ่านหนังสือมันเป็นเพียงงานอดิเรกของเธอเท่านั้น

ตึก!

"โอ๊ะ! โอ๊ย! นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันเนี่ย!" ริตาสบถออกมา เมื่อจู่ๆ หนังสือที่อยู่เหนือศีรษะของเธอก็หล่นลงมาใส่ ถึงหัวจะไม่แตกแต่ก็ทำเอาเธอรู้สึกมึนเบลอไปชั่วขณะเลยเหมือนกัน

เมื่อตอนกลางวันก็ชนกับใครก็ไม่รู้จนข้อศอกมีแผล ตอนนี้ยังจะมาเจออะไรแบบนี้อีก สงสัยมันจะเป็นวันซวยของเธอจริงๆ

"ขอโทษนะฉันทำหล่นไปเองเธอเป็นอะไรหรือเปล่า" มีผู้ชายเดินมาจากอีกฝั่งนึงของชั้นหนังสือ

"ไม่เป็นอะไรค่ะ"

"เธอเองหรอกหรอ"

"???" ริตาขมวดคิ้วใส่เมื่อผู้ชายคนนั้นพูดเหมือนเคยรู้จักเธอมาก่อน เธอเองก็รู้สึกคุ้นๆ แต่ก็ยังมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ตอนนี้เธอกำลังตกหลุมภวังค์ความหล่อเหลาของผู้ชายคนนี้จนไม่สามารถละสายตาไปมองที่อื่นได้เลย

"ฉันเดินชนเธอเมื่อตอนกลางวันน่ะจำได้หรือเปล่า"

"อ๋อ รุ่นพี่คนนั้นนี่เอง"

"ฉันไม่ใช่รุ่นพี่ แต่ถ้าเธอจะเรียกรุ่นพี่ก็ตามใจ"

"เอ่อ...ไม่ได้เรียนอยู่ที่นี่แล้วหรอคะ แล้วทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ?"

"ฉันเป็นอาจารย์น่ะ"

"...." ริตาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีอาจารย์ที่หน้าตาหล่อแบบนี้ด้วยแถมยังดูเด็กอยู่เลย

เป็นอาจารย์ที่หน้าเด็กมากที่สุดเลยมั้ง เพราะเท่าที่เธอเห็นอาจารย์ส่วนใหญ่มีอายุกันหมดเลย

"ขอโทษอีกครั้งนะ ฉันไม่ทันระวังเองแหละ เธอไม่เป็นอะไรแน่ใช่ไหม"

"มะ ไม่เป็นอะไรค่ะอาจารย์"

"ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ"

"ค่ะ"