บทที่ 2
“คุณป้องมีธุระอื่นอีกไหมคะ พอดีใกล้เที่ยงแล้ว ส้มต้องไปเตรียมอาหารให้คุณอาน่ะค่ะ คุณย่าสั่งไว้ว่าต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะท่านกินยาก อารมณ์เสียหน่อยก็กลืนไม่ลง…”
ส้มหวานรู้เรื่องราวในบ้านศุภสวัสดิ์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของปกป้องที่คุณเปรมบ่นให้ฟังบ่อย ๆ และต้องยอมรับว่าเธอค่อนข้างผิดหวังเมื่อพบว่าเขาเป็นอย่างที่ได้ฟังมา ปากร้ายกับคนที่ไม่ชอบหน้า รวมถึงบิดาแท้ ๆ เธอจึงอดตำหนิทางอ้อมไม่ได้
“ไม่รู้ส้มจะอธิบายไปทำไม คุณป้องเป็นลูกชายของคุณอา ต้องรู้รายละเอียดเรื่องการดูแลพ่อของตัวเองดีกว่าอยู่แล้ว”
“เธอกล้าประชดฉันเหรอ ส้มหวาน?!”
“ส้มไม่กล้าหรอกค่ะ คุณป้องกับคุณอามีบุญคุณ…”
“หึ! ยกเรื่องบุญคุณมาอ้างไม่เลิก กะอีแค่เลี้ยงเมียน้อยกับลูกติดให้ได้อยู่ดีกินดี เธอไม่ต้องมาทำซาบซึ้งขนาดนี้ก็ได้ ฉันบอกตรง ๆ เลยนะ ว่าไอ้ที่พูดหรือว่าแสดงออกมาน่ะ มันปลอม! ใคร ๆ ก็ดูออกกันทั้งนั้นแหละ ว่าคุณพ่อฉันไม่สนใจไยดีแม่เธอแล้ว ที่เคยบินไปเชียงใหม่เดือนละหลาย ๆ ครั้งก็เหลือแค่ไม่กี่ครั้ง ปีที่แล้วแทบไม่ได้บินไปเลยด้วยซ้ำ!”
“ส้มดีใจแทนคุณอานะคะ ถ้าท่านรู้ว่าลูกชายห่วงขนาดนี้คงมีความสุขมาก คุณอาไปเชียงใหม่กี่ครั้ง คุณป้องจำได้หมดเลย”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง! เธอบอกมาเลยนะว่ากลับมาที่นี่ทำไม คิดจะจับคุณพ่อของฉันด้วยอีกคนใช่ไหม?! เห็นว่าคุณพ่อฉันไม่สนใจแม่ของเธอ เลยคิดจะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อที่จะได้สบายไปตลอดชาติใช่ไหม ส้มหวาน?!”
หญิงสาวถูกกล่าวหาเช่นนั้นก็ทำได้เพียงส่ายหน้า ปกป้องเข้าใจผิดมาตลอดว่ามารดาของเธอคือภรรยาลับของบิดาตามคำบอกเล่าของคนเป็นแม่ เธอเองก็อยากจะอธิบายให้เขาฟัง ว่าแม่หอมนวลของเธออายุมากแล้ว ตัวเธอเรียกได้ว่าเป็นลูกหลงด้วยซ้ำ ทว่าพูดไปแล้วอาจมีคำถามอื่น ๆ ตามมา ซึ่งเป็นคำถามที่เธอตอบไม่ได้ และเรื่องอาจวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม
ส้มหวานจึงเลือกที่จะเงียบ…
“ที่ไม่ตอบนี่คือใช่สินะ หึ! ลูกไม้หล่นใต้ต้น แม่เป็นเมียน้อย ลูกก็เลยเดินตามรอยอยากเป็นเมียน้อยด้วยอีกคน แต่ฉันขอถามหน่อยเถอะนะส้มหวาน ในโลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมาย ทำไมเธอต้องมายุ่งกับคุณพ่อฉันด้วย! เธอไม่รู้สึกอายที่ต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกับแม่ของตัวเองหรือยังไง!”
“คุณป้อง?!” ส้มหวานเรียกเขาเสียงสั่น โกรธจนหน้าแดง แต่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ควบคุมสติได้ดังเดิม “ส้มอธิบายไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี เอาเป็นว่าระหว่างอยู่ที่นี่ ส้มขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองนะคะว่าไม่ได้คิดทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณเข้าใจ แล้วถ้ามีวันไหนที่ส้มประพฤติตัวเลวทรามต่ำช้า เชิญคุณป้องไล่ส้มออกไปจากบ้านหลังนี้ได้เลยค่ะ”
“หึ! ไม่กลัวว่าฉันจะยัดเยียดข้อหาให้เธอหรือไง?”
“ไม่หรอกค่ะ ต่อให้คุณป้องเกลียดส้ม คุณป้องก็ยังนิสัยดีเกินกว่าที่จะสร้างเรื่องใส่ร้ายคนอื่น…” ส้มหวานรู้ว่าเนื้อแท้ของปกป้องเป็นคนดีหาตัวจับยาก แต่เขาแค่เลือกที่จะทำตัวไม่ดีกับเธอก็เท่านั้นเอง “แต่คุณป้องไม่ต้องกลัวว่าส้มจะอยู่นานหรอกนะคะ เพราะทันทีที่คุณอาแข็งแรงมากพอที่คุณหมอจะอนุญาตให้กลับไปทำงานเต็มเวลาได้ ส้มจะไปจากที่นี่ ไม่อยู่รกหูรกตาคุณป้องอีกค่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ!”
ชายหนุ่มทำตัวเหมือนอันธพาลที่ชอบหาเรื่องคนที่อ่อนแอ มือใหญ่กระแทกประตูห้องปิดดังโครมเพื่อข่มแขกที่เขาไม่ชอบหน้า หากส้มหวานไม่รู้ว่าปกติเขาอ่อนโยนมากเพียงใด เธอก็คงจะเสียใจจนทนอยู่ไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ
“อย่างน้อยวันนี้ก็รอด…”
หญิงสาวเดินไปล็อกประตูเพื่อความปลอดภัย พลางดุตัวเองในใจที่ประมาท คิดว่าเขาคงไปรับคุณเปรมจากโรงพยาบาลพร้อมกับคุณหญิงพิมพ์แขจึงไม่คิดว่าจะได้เจอกันตามลำพัง โชคยังเข้าข้างอยู่บ้างที่เขาไม่ได้กลั่นแกล้งเธอเหมือนเมื่อหลายปีก่อน
‘ส้มหวาน ชื่อน่ากินดีนะ…แต่ดูแล้วคงเปรี้ยวมากกว่า’
‘คุณป้องมีอะไรให้ส้มรับใช้หรือเปล่าคะ’
‘อยากรับใช้งั้นเหรอ ไม่กลัวว่าฉันจะใช้ในสิ่งที่เธอไม่กล้าทำหรือยังไง’
‘ขอแค่ได้ตอบแทนคุณป้อง ส้มทำได้ทุกอย่างค่ะ’
ภาพในวันนั้นยังคงชัดเจน ชายหนุ่มที่ส้มหวานเทิดทูนบูชายิ้มอบอุ่นก่อนโน้มตัวเข้ามาใกล้ เขาจับปอยผมของเธอทัดใบหูอย่างทะนุถนอมและเชยคางเธอขึ้นเพื่อที่จะได้มองหน้ากันถนัด
ส้มหวานจำได้ว่าหลับตาพริ้มในยามที่เขาทาบจูบลงมา สัมผัสของเขาเบาบางราวกับขนนกที่ร่วงหล่น แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นในจังหวะอัดกระแทกรุนแรง สติที่เดิมทีก็ไม่ได้เต็มร้อยเพราะเพิ่งผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาหมาด ๆ พลันล่องลอย ทว่าเพียงแค่เสี้ยววินาทีหลังจากนั้น เขากลับเอ่ยในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการกระทำอันอ่อนโยนโดยสิ้นเชิง
‘ถ้าอยากตอบแทนฉัน เธอต้องออกไปจากบ้านหลังนี้และห้ามกลับมาที่นี่อีก…ทำได้ใช่ไหม ส้มหวาน?’
