บทที่ 16 ไม่เรียกเจ้าเรียกใคร
เงินหยวนเป่ามาถึงฝ่ามือ ทำให้ดวงตาของสวีเจินสั่นคลอนเลยทีเดียว "นี่ นี่จะให้ข้าเป็นคนเก็บอีกแล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเก็บเอาไว้ที่ไหนแล้ว เออ นี่มันกะทันหันเกินไปหน่อย"
"เหอะๆ!" เหมิงเชียนเหยียนหัวเราะ "ไม่เป็นไร ท่านแม่ ท่านก็เก็บหยวนเป่าเงินไว้กับตัว ควรจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นแหละ"
"แต่ว่า นี่มันจะไม่ปลอดภัยไหม" เหมิงเชียนเถาขมวดคิ้ว "ไม่งั้น เชียนเหยียน เราเอาเงินไปฝากเอาไว้ที่โรงตั๋วเงินเป็นไง?"
เหมิงเชียนเหยียนตาเป็นประกายขึ้นมา ส่งสายตาเห็นด้วยไปให้เหมิงเชียนเถา "ความคิดของท่านพี่ดีมาก อนาคตมีเงินเยอะแล้ว เราจำเป็นต้องเก็บเงินไว้ที่โรงตั๋วเงิน แต่ว่าตอนนี้ ยังไม่ต้องก่อน"
"ไม่ต้องหรือ? เช่นนั้นเจ้าเตรียมจะทำอะไรบ้าง?"
"แหะๆ พี่สาวท่านนี่ฉลาดจริงๆ ข้าน่ะ ข้าเตรียมจะซื้อรถม้ามาคันหนึ่ง! เช่นนี้ ต่อไปเราออกมาทำธุระก็จะสะดวกมากขึ้น!"
เหมิงเชียนเถาพยักหน้า "ที่พูดมาก็มีเหตุผล ข้าเห็นนายท่านเสิ่นตอนอยู่ในเมืองนั่งเกี้ยว แต่เมื่อเดินทางไกลก็นั่งรถม้าทุกครั้ง เชียนเหยียน พูดตามความจริง ข้ายังไม่เคยนั่งรถม้ามาก่อนเลย"
"ข้าด้วย ข้าก็เหมือนกันเลย!"
ลูกสองคน เจ้าคำหนึ่งข้าคำหนึ่ง ปรึกษาหารือกันขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่ได้ถามเหมิงฉวนกับสวีเจินเลย
พวกเขาก็ไม่โกรธ รอลูกสองคนตัดสินใจอย่างเงียบๆ อย่างไรเสียลูกๆต่างก็โตแล้ว มีความคิดแล้ว
"เช่นนั้นเราจะซื้อจริงๆหรือ?"
"ได้! ซื้อ!"
"ท่านพ่อท่านแม่ ความคิดเห็นของพวกท่านล่ะ?"
"โธ่ พวกเราน่ะ ฟังพวกเจ้าสองคนอยู่แล้ว!"
คนทั้งครอบครัวนี้ออกมาจากภัตตาคารหยวนเหอ ก็ตรงไปยังทิศตะวันตกของเมืองที่มีการซื้อขายรถม้า ที่นั่นเป็นแหล่งผู้ค้าขายม้าและรถม้ามากมาย
สุดท้าย เหมิงเชียนเหยียนซื้อรถม้ากึ่งใหม่หนึ่งคันกับม้าสีแดงพุทราที่เพิ่งโตมาไม่นานในราคาสิบตำลึง
เหมิงเชียนเหยียนตั้งชื่อใหม่ให้กับม้าตัวนี้ ให้ชื่อว่าเจ้าแดง!
ยื่นหมูยื่นแมวจ่ายเงินแล้วก็จูงม้าไป เหมิงเชียนเหยียนจ่ายเงินแล้ว ก็ส่งสายบังเหียนไปถึงมือของเหมิงฉวน "มา ท่านพ่อ เรามาลองวิ่งดูสักสองรอบ!"
"ได้สิ พวกเจ้าสามคนแม่ลูกขึ้นมาเลย ข้าพาพวกเจ้าไปเดินเล่นรอบหนึ่ง!"
"ไอ๊หยา คุณพี่ ทักษะการขับรถม้าของท่านไหวหรือ?" ในใจของสวีเจินยังคงหวาดผวา รู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย เหมิงเชียนเหยียนกับเหมิงเชียนเถามองหน้ากันครู่หนึ่ง หิ้วตัวสวีเจินขึ้นไปโดยตรง
สวีเจินไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่หดตัวอยู่ในรถม้าไม่กล้าออกมา
หยอกจนเหมิงเชียนเหยียนหัวเราะชอบใจ
ฝั่งนี้ แส้ม้ายกขึ้นมาเบาๆ เจ้าแดงก็กะโผลกกะเผลกขึ้นมา
ในตอนแรก เหมิงฉวนยังควบคุมทิศทางได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เจ้าแดงเดินเบี้ยวไปเบี้ยวมาเปลี่ยนทิศทางไปเรื่อยๆ ทำให้สวีเจินตกใจไม่น้อย ดีที่ ต่อมาเหมิงฉวนชำนาญมากขึ้นมา กับเจ้าแดงก็คุ้นเคยกันขึ้นมา รถม้านี้วิ่งได้มั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ
สวีเจินที่หดตัวอยู่ข้างในก็ใจกล้าขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดก็กล้าโผล่หัวออกมา
"โฮ้ เร็วจริงๆ ลมพัดมา สดชื่นจริงๆด้วย" สวีเจินรับลม ทอดถอนใจอย่างจริงใจ
"นั่นน่ะสิ เราสองคนได้เสวยสุขตามลูกๆแล้ว ต่อไปพวกที่ให้กำเนิดลูกชายพวกนั้นยังจะว่าอะไรเราได้อีก" ในใจของเหมิงฉวนรู้สึกมีความสุข พูดมากกว่าปกติอยู่มาก
เหมิงเชียนเหยียนได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้ซึ้งในใจ ในยุคที่ผู้ชายอยู่เหนือกว่าผู้หญิง สองสามีภรรยาเหมิงฉวนกับสวีเจินให้กำเนิดลูกสาวแค่สองคนต้องแบกรับความกดดันจากภายนอกมากมายขนาดไหน อย่าว่าแต่ภายนอกเลย แม้แต่ในบ้านของตนเอง แม้แต่น้องชายน้องสะใภ้ของตนเองก็ยังจะมานั่งบนพวกเขาแล้ว
นางแอบคิดในใจเงียบๆ ตนเองจะต้องพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็น ลูกสาวยอดเยี่ยมขึ้นมา ไม่ได้ด้อยอะไรไปกว่าผู้ชายเลย!
**
"คนบ้านตระกูลเหมิง เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้หลอกพวกเรา? นังเด็กเวรนั่นมันยโสโอหังขนาดนั้นเลยหรือ?" ตรงทางแยกระหว่างหมู่บ้านซิ่งฮวากับหมู่บ้านหลี่ฮวา นางจ้าวแม่ของซุนซวี่สวมชุดผ้าสีเทา แขนเสื้อพับเอาไว้ มือเท้าเอวพิงอยู่ที่ต้นแอปริคอท นัยน์ตาสามเหลี่ยมคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
ครั้งก่อน พวกเขาตระกูลซุนไปยกเลิกการแต่งงานที่ตระกูลเหมิง ไม่เพียงถูกเหมิงเชียนเหยียนทำให้สะดุดล้มอย่างแรง ทั้งยังทำให้เสียหน้าต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทางการจากที่ว่าการอำเภออีก สำหรับเรื่องนี้ นางจ้าวเต็มไปด้วยความโกรธแค้นยังไม่บรรเทาลงเลย คิดไม่ถึงว่า ไม่นานเท่าไหร่จ้าวฮัวจือก็มาบอกกับนางอีกว่า ทั้งครอบครัวของเหมิงเชียนเหยียนต่างก็ใส่ร้ายพวกเขาตระกูลซุนที่หมู่บ้านหลี่ฮวา นี่มันช่างน่าโกรธเกลียดมากจริงๆ!
"โธ่ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ หนึ่งพู่กันเขียนคำว่าจ้าวออกมาสองตัวอักษรไม่ได้ เราเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เราสองคนถือเป็นครอบครัวเดียวกันนะ!ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่ที่หมู่บ้านซิ่งฮวา แล้วข้าแต่งงานไปที่หมู่บ้านหลี่ฮวา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนยังคงอยู่มาโดยตลอดนะ! เจ้าลืมไปแล้วหรือ การยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไปไม่น้อย"
"นั่นมันก็ใช่อยู่ เจ้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาหลอกข้า! ได้! ในเมื่อนังเด็กแพศยานั่นมันน่าโกรธเกลียดขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็จะคิดบัญชีกับนางทั้งเก่าและใหม่พร้อมกันเลย"
พูดไป นางก็ส่งสายตาให้ซุนซวี่ที่อยู่ข้างหลัง ซุนซวี่ก็พยักหน้า ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างได้ใจ "แหะๆ ท่านแม่ อาฮัวจือพวกท่านวางใจเถอะ พวกเขากลับมาจากในเมือง ต้องผ่านทางนี้แน่นอนอยู่แล้ว ทางโน้นข้าขุดร่องคูเอาไว้แล้ว ข้างในใส่เศษหินเอาไว้มากมาย ขอเพียงพวกเขาเหยียบเข้าไป ฮ่าๆ อย่างน้อยก็ต้องล้มขาหักแน่"
"เยี่ยมจริงๆ ตาซวี่เด็กคนนี้เป็นคนมีความสามารถ" นัยน์ตาของจ้าวฮัวจือ เผยความโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย เหอะๆ เหมิงเชียนเหยียน ยิงธนูเป็นใช่ไหม? ถึงเวลาล้มจนขาหัก ข้าจะดูสิว่าเจ้ายังจะหาเงินอย่างไร! ให้เจ้าโอหัง! วันนี้จะสั่งสอนเจ้าอย่างดีเลย!
คิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของจ้าวฮัวจือเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สายตาของนางมองไปข้างหน้า สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยการรอคอย
แต่แล้ว เวลานี้ รถม้าคันหนึ่งขับเข้ามาใกล้จากระยะไกล และคนที่ขับรถม้าก็คือเหมิงฉวนอย่างไม่ต้องสงสัย
นางจ้าวสามคนตะลึงงัน ช่องว่างนี้ เห็นเกือกม้ากระโดดข้ามไป ข้ามร่องคูที่ซ่อนเอาไว้อย่างดีนั่นไปอย่างไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย แต่ว่า อย่างไรก็มีร่องคูอยู่ ล้อของรถม้าก็ยังติดอยู่ตรงนั้น
เหมิงฉวนรู้สึกถึงความผิดปกติ กระโดดลงมาดู
"เกิดอะไรขึ้น? ท่านพ่อ?" เหมิงเชียนเถากล่าวถามด้วยความกังวล
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน! ข้าเข้าไปดูก่อน!" เหมิงฉวนวิ่งไปที่ด้านหลังของรถม้า เปิดกองหญ้าแห้งพวกนั้นออก กล่าวออกมาด้วยความโกรธเล็กน้อย: "อุวะ ไม่รู้ว่าใครมาแอบขุดร่องคูเอาไว้ แถมยังคลุมปิดเอาไว้อีก รถม้าของบ้านเราก็เลยติดอยู่ตรงนี้เลย สวีเจิน รีบพาลูกสองคนเข้ามาช่วยเข็นหน่อยเร็ว!"
"เรามากันแล้ว!"
แม่ลูกสามคนลงมาอย่างรวดเร็ว มาถึงด้านหลังรถม้า ร่วมแรงร่วมใจใช้พละกำลังทั้งหมด ผลักล้อรถออกมาอย่างรวดเร็ว
"เฮ้อ หมดเรื่องแล้ว!" บนใบหน้าของสวีเจินมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา
เหมิงเชียนเหยียนกลับหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ใช่มั้ง? สถานที่นี้ตอนที่พวกเขาออกมายังไม่มีร่องคูอะไรเลย ทำไมเวลาแค่ไม่กี่ชั่วยาม ก็มีร่องคูเพิ่มขึ้นมาร่องหนึ่ง แล้วยังใช้หญ้าแห้งมาคลุมเอาไว้อีก นี่มันไม่ใช่จงใจหรอกหรือ!
คิดถึงตรงนี้ สายตาของนางหันไปมองบริเวณโดยรอบ ทันใดนั้น เงาที่ดูคุ้นตาเล็กน้อยแวบผ่านป่าต้นแอปริคอทไป นางตะโกนขึ้นมาทันที: "ซุนซวี่ เจ้าอย่าหลบซ่อนอยู่ตรงนั้น ข้ามองเห็นเจ้าแล้ว! ถ้าเจ้าเป็นผู้ชายเจ้าก็ออกมาเลย!"
เมื่อตะโกนออกมาเช่นนี้ ซุนซวี่ก็จำต้องออกมา เขามองเห็นรถม้าที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอิจฉา
"เชียนเหยียน เจ้าเรียกข้า?"
"ไร้สาระ! ข้าไม่เรียกเจ้าเรียกใคร!"
เหมิงเชียนเหยียนอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นนี้ ทำให้ซุนซวี่สะดุ้งตกใจ บวกกับรู้สึกร้อนตัว ก็เลยรีบออกมาทันที "แล้ว แล้วเจ้าเรียกข้าทำไม?"
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่? !" เหมิงเชียนเหยียนกลอกตามองบน มองพิจารณาขึ้นๆลงๆเขารอบหนึ่ง วันนี้ซุนซวี่คนนี้ดูไม่ค่อยปกตินัก!
