ตอนที่ 1 ชีวิตของหนูดี
ตอนที่ 1 ชีวิตของหนูดี
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่
คฤหาสน์หลังนี้เป็นที่ที่หนูดีพักอาศัยอยู่ เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้กับแม่ตอนอายุสามขวบ ปัจจุบันหนูดีมีอายุสิบแปดปีเต็ม ส่วนแม่ของเธอได้จากโลกนี้ไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง ด้วยโรคร้ายที่รักษาไม่หาย นั่นก็เท่ากับว่าเธอเหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
หลังจากที่แม่ของหนูดีเสีย คุณภาคินและคุณน้ำผึ้ง เจ้าของบ้านหลังนี้ ยินดีส่งเสียและช่วยเหลือให้หนูดีได้เรียนต่อในระดับชั้นปริญญาตรี ถ้าไม่พูดถึงเรื่องฐานะหนูดีเป็นเด็กน่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำใจ สดใสร่าเริง กิริยามารยาทอ่อนโยน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้คุณน้ำผึ้งอยากได้หนูดีมาเป็นลูกสะใภ้
คฤหาสน์หลังนี้มีทายาททั้งหมดสามคน คนโตชื่ออาชิ แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ส่วนอีกสองคนเป็นฝาแฝดชายหญิง คนน้องเป็นผู้หญิงชื่อไออุ่น แต่งงานไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ส่วนคนกลางเป็นผู้ชายชื่อกัปตันเขายังโสด เขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้เอง
ภายในห้องแคบๆชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องนอนของคนงานในบ้าน หนูดีเคยพักอาศัยอยู่กับแม่สองคนในห้องนี้ แต่ตอนนี้ห้องนี้เหลือแค่เธอคนเดียวที่ยังอยู่ หนูดีนอนคิดถึงแม่ทุกคืน มองไปรอบๆห้องรู้สึกเงียบเหงาเหลือเกิน ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังได้ยินเสียงแม่บ่น เสียงบ่นของแม่ในวันนั้น บางครั้งฟังแล้วก็รู้สึกเบื่อ แต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่าไม่มีอีกแล้ว
'หนูดี...ทำการบ้านหรือยังลูก'
'หนูดี...มืดแล้วอาบน้ำสิลูก'
'หนูดี...แอบเอาหนังสือนิยายมาอ่านอีกแล้วนะ แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้อ่านหนังสือแบบนี้'
'หนูดี...มากินข้าวกับแม่มา' คำพูดของแม่เหล่านี้หนูดีคิดถึงเหลือเกิน คิดถึงจนต้องแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยๆ
ในวันที่แม่ของเธอนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แม่ของเธอได้พูดกับเธอเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ท่านจะจากไปว่า...
"หนูดีอยากรู้มั้ยลูก ว่าพ่อของหนูเป็นใคร" น้ำเสียงของแม่แผ่วเบามาก จนหนูดีต้องเอาหูแนบเข้าไปใกล้ๆปากของแม่
"หนูดีมีพ่อด้วยเหรอคะ"
"ลูกทุกคนเกิดมาก็ต้องมีพ่อมีแม่ด้วยกันทั้งนั้น"
"แล้วพ่อเขาไปไหน ทำไมไม่อยู่กับพวกเรา"
"พ่อเขามีความจำเป็นบางอย่างที่ไม่สามารถอยู่กับพวกเราได้ แม่ไม่เคยโกรธพ่อของลูกเรื่องนี้ หนูสัญญากับแม่ได้มั้ยว่าจะไม่โกรธพ่อ"
"แม่พูดเรื่องนี้ทำไม"
"เผื่อว่าวันหนึ่งถ้าหนูดีไม่มีที่ให้พึ่งพา เขาอาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ช่วยลูกของแม่ได้"
"เขาเป็นใครและอยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"เขาชื่อ...ภานุเมศ"
"เขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นยังไง หนูดีเคยเห็นพ่อมั้ยคะ" จบคำถามของหนูดีในวันนั้น ยังไม่ทันที่ท่านจะได้ตอบคำถาม แม่แก้วของเธอก็สิ้นใจกะทันหัน ฝ่ามือที่ยกขึ้นลูบศีรษะของลูกสาวด้วยความรักใคร่หล่นลงข้างลำตัวทันที
"แม่!!! คุณหมอคะ คุณหมอ...ช่วยแม่ด้วยค่ะ" ช่วงเวลานั้นหนูดีใจหาย น้ำตาไหลพราก ในใจกลัวไปหมดทุกอย่าง ส่วนเรื่องของพ่อที่แม่ใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายบอกกับเธอ หนูดีไม่ได้สนใจ
หนูดีไม่เคยรู้ว่าพ่อเป็นใคร ตั้งแต่เกิดมาเธอมีแค่แม่ ซึ่งท่านก็ไม่เคยพูดถึงพ่อมาก่อน ไม่เคยพูดถึงญาติพี่น้องที่ไหน หนูดีจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสายเลือดของตัวเองเลย
หนูดีเป็นเด็กที่เติบโตมาในคฤหาสน์หลังนี้ตั้งแต่เด็ก หลายครั้งมีผู้คนแวะเวียนผ่านไปผ่านมา ชอบทักผิดคิดว่าหนูดีเป็นลูกหลานของบ้านหลังนี้ เนื่องจากเธอมีใบหน้าสะสวย ดวงตากลมโต นัยน์ตาใสดุจน้ำดื่มราคาแพง ปากนิดจมูกหน่อย ริมฝีปากบาง ผมยาวสลวยสุขภาพดีมีน้ำหนัก ตัวเล็กอ้อนแอ้นอรชร รูปร่างสมส่วนกำลังดี ผิวพรรณขาวใสเกลี้ยงเกลาตั้งแต่ยังเด็ก อีกทั้งยังมีกิริยามารยาทงดงามโดดเด่น แต่ชีวิตของเธอที่ผ่านมาช่างน่าสงสารเหลือเกิน...
วันนั้นหลังจากที่งานศพของแม่ผ่านพ้นไป คุณน้ำผึ้ง ท่านคือคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้ที่หนูดีอาศัยอยู่ เรียกหนูดีเข้าไปหาแล้วพูดกับหนูดีว่า
"หนูดี...มานี่ซิลูก" วันนั้นหนูดียังเศร้าโศกเสียใจเรื่องแม่อยู่ ดวงตาของเธอยังคงมีน้ำตาไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา
"ค่ะคุณป้า"
"นั่งลงสิ"
"ค่ะ"
"มหาวิทยาลัยเปิดเทอมเมื่อไหร่"
"ต้นเดือนหน้าค่ะ"
"เงยหน้าขึ้นซิ นั่งก้มหน้าแบบนี้แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง"
"ร้องไห้อีกแล้ว...เขยิบเข้ามาอีก"
"เอาล่ะ ที่ป้าเรียกเรามา อยากจะคุยอะไรด้วยหน่อย"
"........." ในใจของเธอตอนนั้น คิดว่าคุณผู้หญิงจะไม่ให้เธออยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้แล้วซะอีก แต่เธอคิดผิด
"ค่าเทอมเรียนปริญญาสี่ปีป้าออกให้ทั้งหมด ส่วนค่ากินป้าจะจ่ายให้เป็นเดือนตามความเหมาะสม แต่ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็มาบอก แต่...ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ป้ามีข้อแม้"
"........" สายตาของหนูดีมีคำถามขึ้นมาทันที
"ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น อีกไม่นานลูกชายป้าก็จะกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว ป้าอยากให้หนูดีกับลูกชายป้าแต่งงานกัน" ประโยคนี้ของท่าน หนูดีปรับอารมณ์ไม่ทัน เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี
"คุณป้า...แต่หนูดีเป็นแค่...(ลูกสาวแม่บ้าน)" ซึ่งตอนนี้เธอก็กำพร้าแม่แล้วด้วย
"จะปฎิเสธเหรอ"
"หนูดีไม่กล้า"
"เรื่องนี้ป้าไม่ได้บังคับแค่อยากจะขอร้อง ทำยังไงก็ได้ให้พี่เขารักเราในแบบคู่รัก"
"เพราะอะไรคะ"
"เรื่องนี้ไม่ต้องรู้หรอก" ถึงแม้ว่าท่านจะไม่บอก แต่หนูดีก็สามารถรับรู้ได้ว่าท่านคงหวังดี
"........." หนูดีเงียบไปสักครู่ เธอกำลังใช้ความคิด
"รังเกียจลูกชายป้าเหรอ"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ"
"หรือว่ามีคนในใจแล้ว"
"ไม่ค่ะ หนูดียังไม่มีใคร หนูดียังเด็กอยู่"
"ถ้าอย่างนั้น ก็รับปากป้าสิ" หนูดีไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เธอกังวนเรื่องเดียวก็คือ กลัวว่าพี่กัปตันที่เธอเห็นเขาเป็นพี่ชายมาตลอดจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
"ค่ะ หนูดีรับปาก" จากวันที่หนูดีคุยกับคุณป้าน้ำผึ้งก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว...เธอยังคงใช้ชีวิตเรียนหนังสือและทำงานเป็นแม่บ้านไปด้วย ส่วนเรื่องความรักยังไม่มีอะไรคืบหน้า
❤️❤️❤️❤️❤️