CHAPTER 5
ขณะที่ทุกคนกำลังยืนเลือกลิปสติกกันอย่างสนุกสนาน มิ้นจึงขอไปดูครีมบำรุงผิวเพราะครีมของเธอกำลังจะหมดพอดี
“เวลรอแพนตรงนี้แป๊บเดียวนะ แพนขอเลือกครีมเพิ่มไม่นานหรอก”
“อือ” เสียงห้าวของคนที่มาด้วยตอบเหมือนไม่ใส่ใจ แต่แค่เธอได้ยินคำตอบสั้น ๆ นั้น มิ้นยังจำได้ว่าคือเสียงใคร เธอพยายามควบคุมมือของตัวเองที่กำลังเลือกผลิตภัณฑ์อยู่ไม่ให้สั่น
แม้จะคอยบอกตัวเองว่าเธอเก่งขึ้นมากแล้ว เธอเข้มแข็งขึ้นมากแล้ว แต่มันก็ไม่ง่ายเลยจริง ๆ เมื่อเขายังมีผลต่อหัวใจดวงน้อยขนาดนั้น
“อ้าวน้องมิ้น” แพนเอ่ยทักเสียงดังเมื่อเห็นคนยืนเลือกครีมอยู่ก่อน ทำให้คนโดนทักต้องหันกลับมาทักทายอย่างเสียไม่ได้
“สวัสดีค่ะพี่แพน” เธอทักคนที่ทักเธอก่อนโดยตั้งใจละเลยคนบางคนแม้จะเห็นว่าเขาหันมามองเธอเหมือนกัน เมื่อผู้หญิงที่มากับเขาเรียกชื่อเธอขึ้น
“มากับมาร์คเหรอจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ มากับพี่เพลง แฟนพี่มาร์ค” พอพูดจบดวงตาสวยแทบจะปกปิดความพอใจไว้ไม่มิดเมื่อเห็นคนที่ได้ฟังมุมปากคว่ำลง
ผู้หญิงคนนี้ตามตื๊อพี่ชายเธอนานสองนานแต่พี่ชายเธอไม่เล่นด้วย การได้ยินชื่อพี่เพลงจึงยังคงเป็นหนามที่ทิ่มแทงใจจนหน้าสวยหวานนั่นบิดเบี้ยว
“อ่อ พี่มากับเวล เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นน้องมิ้นไปไหนมาไหนกับเวลเลย” คนพูดถอยกลับไปควงแขนคนมาด้วยกัน
มิ้นมองการกระทำนั้นด้วยความสงบ ตอนที่คบกับเขา เธอและผู้ชายคนนี้ไม่เคยปิดบังคนอื่นว่าคบกัน เพียงแต่เขาเองก็ไม่เคยพาเธอไปแนะนำกับเพื่อน ๆ นอกจากพี่แพนคนนี้เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่สุด เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัย สนิทถึงขั้นที่เธอเคยหาเรื่องทะเลาะกับเขาเพราะความหึงหวงบ่อย ๆ แต่เขาก็ยังยืนยันว่าไม่มีอะไร แค่เพื่อนกัน
มิ้นแอบเบ้ปากให้กับความสนิทสนมตรงหน้า พอสีหน้าของเธอเปลี่ยนก็เหมือนว่าคนตัวสูงที่ถูกควงแขนอยู่จะเกร็งตัวขึ้น เขาพยายามดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของผู้หญิงคนนั้น
แต่เมื่อเธอตั้งใจอย่างเต็มที่แล้วว่าจะไม่ใส่ใจจึงไม่คิดจะสนใจคนทั้งสองอีก
“มิ้นขอตัวนะคะ” เธอกำลังจะเดินหนี แต่เหมือนผู้หญิงที่มากับเขายังไม่พอใจ เป็นเพราะสมัยที่ผู้หญิงคนนี้ตามจีบพี่มาร์ค เธอคอยกีดกันหาเรื่องเอาไว้มาก มีเพื่อนเธอเคยมาเล่าว่าพี่แพนเคยเอาเธอไปเรียกลับหลังว่าเด็กผีด้วยซ้ำ ครั้งนี้คงถึงคราวเอาคืนเธอจึงไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ
“จะรีบไปไหนจ๊ะน้องมิ้น” แพนตามไปดึงแขนคนที่กำลังจะเดินหนีให้หันกลับมา เมื่อกี้เธอเห็นแววตาไหววูบของนังเด็กผีนี่ตอนที่เธอควงแขนเวล ตอนนั้นกีดกันเธอกับมาร์คนักตอนนี้ก็ถึงคราวเธอเอาคืนบ้าง
ไม่รู้ว่าเพราะกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนเกินไปจากตัวผู้หญิงที่เข้ามาดึงแขน หรือเพราะการดึงด้วยแรงที่มากเกินไปโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้มิ้นรู้สึกใจหวิว ๆ ทรงตัวไม่ไหวแล้วภาพตรงหน้าก็ตัดไป เธอได้ยินเสียงกรีดร้องรู้สึกถึงมือที่มาประคองไว้ก่อนที่ภาพจะตัดไป
หญิงสาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในโรงพยาบาล ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องพิเศษ หูแว่วได้ยินเสียงพี่เพลงคุยอะไรสักอย่างกับหมอแต่สติก็ยังไม่กลับมาดีนักต้องใช้เวลาอีกสักพักอาการปวดหัวจึงลดลง
“คุณหมอแจ้งว่ามีเรื่องจะคุยกับคนไข้เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณหมอให้นะว่ามิ้นตื่นแล้ว”
หลังจากพี่เพลงเดินออกไปก็มีคุณหมอผู้หญิงอายุน่าจะประมาณ40ปีท่าทางใจดีเดินเข้ามาและแจ้งข่าวที่เธอไม่อยากได้ยินที่สุด
“คุณแม่ต้องพักผ่อนให้มากกว่านี้นะคะ”
“คุณแม่?”
“หรือคนไข้ยังไม่ทราบคะว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่”
“ตั้งครรภ์” มิ้นทวนคำคุณหมอเหมือนละเมอ ยังรับมือไม่ทันกับสิ่งที่ได้รู้
“แต่เดือนที่แล้วหนูตรวจการตั้งครรภ์ มันไม่ขึ้นสองขีด” ถ้าไม่นับครั้งแรกที่เธอตรวจแบบรีบ ๆ ที่ห้องน้ำในห้าง หลังจากนั้นเธอกลับมาตรวจซ้ำอีกหลายครั้งก็ยังคงขึ้นขีดเดียว
“ในกรณีที่คุณแม่ยังท้องอ่อน ๆ สามารถเกิดผลลบลวงได้ค่ะ บางครั้งสาเหตุเกิดจากตรวจเร็วเกินไปหรือน้ำปัสสาวะเจือจางพวกนี้ทำให้ขึ้นขีดเดียวได้ แต่เมื่อกี้คนไข้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วญาติที่มาด้วยบอกว่าล้มลงท้องกระแทกกับชั้นวางของ หมอเลยอัลตราซาวด์ดูให้ว่าอวัยวะในช่องท้องได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า แต่ตรวจพบถุงการตั้งครรภ์ในมดลูกค่ะ”
มิ้นรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดกับสิ่งที่ได้รับรู้ ใจมันหวิวจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลมหมดสติไปอีกรอบ